อิติวุตตกะ-คัมภีร์ย่อยในขุทกนิกาย (บาลีวันละคำ 3,416)
อิติวุตตกะ-คัมภีร์ย่อยในขุทกนิกาย
เล่ากันมาว่าดังนี้
อ่านว่า อิ-ติ-วุด-ตะ-กะ
ประกอบด้วยคำว่า อิติ + วุตตกะ
(๑) “อิติ”
อ่านว่า อิ-ติ เป็นคำจำพวกนิบาต ลักษณะพิเศษของคำนิบาตคือไม่แจกด้วยวิภัตติปัจจัย คงรูปเดิมอยู่เสมอ แต่ในกรณีที่สนธิกับคำอื่นอาจกลายรูปและเสียงได้ แต่เมื่อแยกคำแล้วยังคงเป็นรูปเดิม
ถ้าจะแสดงรากศัพท์ ท่านว่า “อิติ” มาจาก อิ (ธาตุ = ไป) + ติ ปัจจัย
: อิ + ติ = อิติ แปลตามศัพท์ว่า “การไป” “สิ่งที่ไป” “สิ่งเป็นเครื่องไป”
ตำราบาลีไวยากรณ์ที่นักเรียนบาลีในเมืองไทยใช้เรียน แปล “อิติ” เป็นไทยว่า –
(1) เพราะเหตุนั้น, เพราะเหตุนี้
(2) ว่าดังนี้
(3) ด้วยประการนี้
(4) ชื่อ
(5) คือว่า
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ไม่ได้แปล “อิติ” เป็นภาษาอังกฤษแบบคำตรงๆ แต่บอกไว้ว่า –
(1) “thus” (เช่นนั้น)
(2) “thus, in this way” (เช่นนั้น, ในทำนองนี้)
(3) “so it is that” (เรื่องเป็นเช่นนี้คือ)
(๒) “วุตตกะ”
เขียนแบบบาลีเป็น “วุตฺตก” (มีจุดใต้ ตฺ ตัวหน้า) อ่านว่า วุด-ตะ-กะ รากศัพท์มาจาก วจฺ (ธาตุ = บอก, กล่าว) + ต ปัจจัย, แปลง อะ ที่ ว-(จฺ) เป็น อุ แล้วแปลง จ เป็น ต (วจฺ > วุจ > วุต) + ก ภาษาไวยากรณ์เรียกว่า “ก-สกรรถ” (กะ-สะ-กัด) คือลง ก ข้างท้าย แต่มีความหมายเท่าเดิม
: วจฺ + ต = วจต > วุจฺต > วุตฺต + ก = วุตฺตก (คุณศัพท์) แปลตามศัพท์ว่า “(คำ) อันเขากล่าวแล้ว” หมายถึง (คำที่) กล่าว (said)
อิติ + วุตฺตก = อิติวุตฺตก (อิ-ติ-วุด-ตะ-กะ) แปลตามศัพท์ว่า “คำอันกล่าวกันมาว่าดังนี้” หมายถึง สิ่งหรือเรื่องที่ได้มีผู้พูดไว้ (what has been said, saying)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ขยายความคำว่า “อิติวุตฺตก” ว่า –
“so it has been said”, (book of) quotations, “Logia”, N. of the fourth book of the Khuddaka-nikāya, named thus because every sutta begins with vuttaŋ h’ etaŋ Bhagavatā “thus has the Buddha said.”
“ได้กล่าวกันมาดังนั้น”, (คัมภีร์ว่าด้วย) คำพูดที่ควรยกมาอ้าง, “Logia = การกล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรวบรวมเอาข้อธรรมที่มีเหตุผลของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ยุคต้น ๆ”, ชื่อคัมภีร์ที่ 4 แห่งขุทกนิกาย, ที่ได้ชื่อเช่นนั้น เพราะว่าทุก ๆ สูตรเริ่มต้นด้วยคำว่า วุตฺตํ เหตํ ภควตา “สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้”
“อิติวุตฺตก” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อิติวุตตกะ” เคยเห็นคำเก่าสะกดเป็น “อิติวุตดก” อ่านว่า อิ-ติ-วุด-ดก ก็มี
…………..
ขยายความ :
“อิติวุตตกะ” เป็นชื่อคัมภีร์หนึ่งในขุทกนิกาย (คำเดิมสะกด ขุททกนิกาย)
“ขุทกนิกาย” เป็น 1 ใน 5 ส่วนของพระสุตตันปิฎกหรือพระสูตร (พระสุตตันตปิฎกเป็น 1 ใน 3 ของไตรปิฎก คือ พระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม)
5 ส่วนของพระสุตตันปิฎกเรียกว่า “นิกาย” ประกอบด้วยทีฆนิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตนิกาย (คำเดิมสะกด สังยุตตนิกาย) อังคุตรนิกาย (คำเดิมสะกด อังคุตตรนิกาย) และขุทกนิกาย
ขุทกนิกายเป็นส่วนที่รวมคัมภีร์ย่อยไว้ 15 คัมภีร์ ที่เรียกว่า “คัมภีร์ย่อย” ไม่ได้หมายถึงเป็นคัมภีร์เล็กน้อยที่ไม่สำคัญ หากแต่หมายถึงคัมภีร์ที่ท่านไม่จัดรวมเข้าไว้ในนิกายทั้ง 4 แต่แยกออกมาไว้ต่างหาก บางคัมภีร์ใหญ่มากเช่น “ชาดก” มีความยาว 2 เล่มพระไตรปิฎก (เล่มที่ 27-28) และมีคัมภีร์อธิบายขยายความที่เรียกว่า “อรรถกถา” อีกถึง 10 เล่ม
คัมภีร์ย่อย 15 คัมภีร์มีชื่อดังนี้ (1) ขุททกปาฐะ (2) ธรรมบท (3) อุทาน (4) อิติวุตตกะ (5) สุตตนิบาต (6) วิมานวัตถุ (7) เปตวัตถุ (8 ) เถรคาถา (9) เถรีคาถา (10) ชาดก (11) นิทเทส (12) ปฏิสัมภิทามรรค (13) อปทาน (14) พุทธวงส์ (15) จริยาปิฎก
…………..
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายคำว่า “อิติวุตดกะ” ไว้ดังนี้ –
…………..
อิติวุตตกะ : พระสูตรที่ไม่ขึ้นต้นด้วยคำว่า เอวมฺเม สุตํ แต่ขึ้นต้นด้วย “วุตฺตํ เหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ” แล้วเชื่อมความเข้าสู่คาถาสรุปท้าย ด้วยคำว่า อิติ วุจฺจติ รวม ๑๑๒ สูตร จัดเป็นคัมภีร์ที่ ๔ แห่งขุททกนิกาย.
…………..
ไขศัพท์:
“วุตฺตํ เหตํ ภควตา” แปลว่า จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว
“วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ” แปลว่า พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสไว้แล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงได้สดับมาว่า …
…………..
ดูก่อนภราดา!
คำที่ท่านกล่าวกันมา –
: ไม่เชื่อไม่ว่า แต่อย่าลบหลู่
: ไม่นับถือไม่ว่า แต่อย่าดูแคลน
#บาลีวันละคำ (3,416)
19-10-64