ยุคล (บาลีวันละคำ 282)
ยุคล
อ่านว่า ยุ-คะ-ละ
ในภาษาไทยใช้เหมือนกัน อ่านว่า ยุ-คน ถ้ามีศัพท์อื่นต่อท้าย อ่านว่า ยุ-คน-ละ-
“ยุคล” แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ประกอบกันอยู่” หมายถึงคู่, ทั้งสอง, สิ่งที่เป็นคู่กัน เช่น ยุคลบาท (ยุ-คน-ละ-บาด) = เท้าทั้งคู่
“ยุคล” มีรากเดียวกับ “ยุค” (ยุ-คะ) ความหมายเดิมคือ ไม้ขวางเทียมคันไถหรือเกวียน คือแอก ซึ่งปกติใช้โคสองตัว (“ยุค” ความหมายนี้ใกล้กับภาษาอังกฤษ yoke = แอก, นำมาเข้าคู่, เทียมแอก)
“ยุค” จึงกลายความหมายเป็น “คู่” คือสองตัว หรือสองชิ้น และหมายถึงสิ่งที่เป็นคู่กันอยู่โดยปกติ
และเมื่อมองไปที่ชายหญิงที่ครองคู่กันแล้วมีลูกสืบเชื้อสาย ช่วงอายุขัยของคนคู่หนึ่งจึงเรียกว่า “ยุค” (ภาษาไทยอ่านว่า “ยุก”) “ยุค” จึงขยายความหมายไปอีกเป็น-คราว, สมัย, ระยะกาลที่จัดแบ่งตามช่วงอายุของคนและตามเหตุการณ์หรือสภาพความเป็นไปของโลก
คิดดู – มีคู่ก็คือเทียมแอก
: ช่วยกันลากช่วยกันแบก จะไม่ต้องแยกจากกัน
: ถ้าไม่ช่วยลากช่วยแบก คู่ก็แหลกกลางคัน
(กราบขอบพระคุณท่านพระมหาอาทิตย์ อาทิตฺตเมธี ที่เมตตาชี้แนะ)
บาลีวันละคำ (282)
15-2-56
ยุค =คู่, สิ่งที่เป็นคู่กัน, แอก (ศัพท์วิเคราะห์)
ยุชตีติ ยุคํ สิ่งที่ประกอบกันอยู่
ยุช ธาตุ ในความหมายว่าประกอบ อ ปัจจัย แปลง ช เป็น ค
ยุคล =คู่, สิ่งที่เป็นคู่กัน (ศัพท์วิเคราะห์)
ยุชตีติ ยุคํ สิ่งที่ประกอบกันอยู่
ยุช ธาตุ ในความหมายว่าประกอบ อล ปัจจัย แปลง ช เป็น ค
ยุค นป.(พจนานุกรมศัพท์บาลี)
คู่, แอก, คราว, สมัย.
ยุค (ประมวลศัพท์)
คราว, สมัย, ระยะกาลที่จัดแบ่งขึ้นตามเหตุการณ์หรือสภาพความเป็นไปของโลก
ยุค (บาลี-อังกฤษ)
– แอก, ไม้ขวางเทียมคันไถ
– (สิ่งที่ถูกเทียมหรือควรเข้ากับแอก) คู่หนึ่ง, สองตัว
– (เกี่ยวเนื่องโดยสืบสาย) ชั่วคน, ยุค
ยุค ๑
น. แอก. (ป., ส.).
ยุค ๒
น. คู่, ทั้งสอง. (ป., ส.).
ยุค ๓
น. คราว, สมัย, เช่น ยุคมืด ยุคหิน; กําหนดเวลาของโลก มี ๔ ยุค. (ดู จตุรยุค). (ป., ส.).
ยุคล
ว. คู่, ทั้งสอง. (ป., ส.).
ยุคลบาท
[ยุคนละบาด] น. เท้าทั้งคู่. (ป., ส.).
ยุคล (บาลี-อังกฤษ)
สอง, คู่ (ยุคลํ กโรติ เอามาคู่กัน, เชื่อมโยงกัน, ทำให้เป็นหนึ่งหรือให้รวมกัน)
jugulum = “yoke-bone” กระดูกแก้ม เทียบ yoking strap สายรัดแอก
yoke แอก, นำมาเข้าคู่, เทียมแอก, ประสาน (สอ เสถบุตร)
jugular เกี่ยวกับคอ (สอ เสถบุตร)
กัลป์ (ข้อความบางตอน) (ประมวลศัพท์)
ในศาสนาฮินดู ถือว่า ๑ กัป (รูปสันสกฤตเป็น กัลป์) อันเป็นวันหนึ่งคืนหนึ่งของพระพรหม (กลางวันเป็นอุทัยกัป คือกัปรุ่ง, กลางคืนเป็นขัยกัป คือกัปมลาย) ตั้งแต่โลกเริ่มต้นใหม่จนประลัยไปรอบหนึ่งนั้น มี ๒,๐๐๐ มหายุค แต่ละมหายุคยาว ๔,๓๒๐,๐๐๐ ปี โดยแบ่งเป็น ๔ ยุค (จตุยุค, จตุรยุค) เริ่มจากระยะกาลที่มนุษย์มีศีลธรรมและร่างกายสมบูรณ์งดงาม แล้วเสื่อมทรามลง และช่วงเวลาของยุคก็สั้นเข้าตามลำดับ คือ
๑. กฤตยุค ยุคที่โลกอันพระพรหมสร้างเสร็จแล้ว มีความดีงามสมบูรณ์อยู่ ดังลูกเต๋าด้าน ‘กฤต’ ที่มี ๔ แต้ม เป็นยุคดีเลิศ ๑,๗๒๘,๐๐๐ ปี (สัตยยุค คือยุคแห่งสัจจะ ก็เรียก; ไทยเรียก กฤดายุค)
๒. เตรตายุค ยุคที่มีความดีงามถอยลงมา ดังลูกเต๋าด้าน ‘เตรตา’ ที่มี ๓ แต้ม ยังเป็นยุคที่ดี ๑,๒๙๖,๐๐๐ ปี (ไทยเรียก ไตรดายุค)
๓. ทวาปรยุค ยุคที่ความดีงามเสื่อมทรามลงไปอีก ดังลูกเต๋าด้าน ‘ทวาปร’ ที่มี ๒ แต้ม เป็นยุคที่มีความดีพอทรงตัวได้ ๘๖๔,๐๐๐ ปี (ไทยเรียก ทวาบรยุค)
๔. กลียุค ยุคที่เสื่อมทรามถึงที่สุด ดังลูกเต๋าด้าน ‘กลิ’ ที่มีเพียงแต้มเดียว เป็นยุคแห่งความเลวร้าย ๔๓๒,๐๐๐ ปี
จตุรยุค
น. ยุคทั้ง ๔ คือ กฤดายุค ไตรดายุค ทวาบรยุค กลียุค.
กฤดายุค
[กฺริดา-] น. ชื่อยุคแรกของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้มนุษย์มีธรรมะสูงสุด คือ เต็ม ๔ ใน ๔ ส่วน และมีอายุยืนยาวที่สุด. (ส. กฺฤตยุค) ไตรดายุค
[ไตฺร-] น. ชื่อยุค ที่ ๒ ของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้ธรรมะและอายุของมนุษย์ลดลงเหลือ ๓ ใน ๔ ส่วนเมื่อเทียบกับในสมัยกฤดายุค. (ส. เตฺรตายุค; ป. เตตายุค)
ทวาบรยุค
[ทะวาบอระ-] น. ชื่อยุคที่ ๓ ของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้ธรรมะและอายุของมนุษย์ลดลงเหลือเพียง ๒ ใน ๔ ส่วนเมื่อเทียบกับในสมัยกฤดายุค.
กลียุค
[กะลี-] น. ชื่อยุคที่ ๔ ของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้ธรรมะของมนุษย์ลดลงเหลือเพียง ๑ ใน ๔ ส่วน เมื่อเทียบกับในสมัยกฤดายุค และอายุของมนุษย์ก็สั้นลงโดยไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน. (ป., ส. กลิยุค).