บาลีวันละคำ

ทุพภาสิต (บาลีวันละคำ 3,445)

ทุพภาสิต

“ปากเสีย”

อ่านว่า ทุบ-พา-สิด

ทุพภาสิต” เขียนแบบบาลีเป็น “ทุพฺภาสิต” (มีจุดใต้ พฺ) อ่านว่า ทุบ-พา-สิ-ตะ ประกอบด้วย ทุ + ภาสิต

(๑) “ทุ” 

เป็นคําอุปสรรค (อุปสรรค : คำสำหรับใช้เติมข้างหน้าคำนามหรือคำกริยาที่เป็นรูปคำบาลีหรือสันสกฤตให้มีความหมายแผกเพี้ยนไปจากเดิม หรือมีความหมายตรงข้ามกับความหมายเดิมเป็นต้น และถือเป็นคำเดียวกับคำนามหรือคำกริยานั้น เพราะตามปรกติจะไม่ใช้ตามลำพัง) มีความหมายว่า ชั่ว, ผิด, ยาก, ลําบาก, ทราม, การใช้ไปในทางที่ผิด, ความยุ่งยาก, ความเลว (bad, wrong, perverseness, difficulty, badness)

ทุ” อุปสรรคคำนี้นักเรียนบาลีในไทยท่องจำคำแปลได้ตั้งแต่ชั้นไวยากรณ์ว่า “ทุ: ชั่ว, ยาก, ลําบาก, ทราม, น้อย

(๒) “ภาสิต” 

บาลีอ่านว่า พา-สิ-ตะ รากศัพท์มาจาก ภาสฺ (ธาตุ = พูด) + อิ อาคมท้ายธาตุ + ปัจจัย

: ภาสฺ + อิ + = ภาสิต แปลตามศัพท์ว่า “คำที่พึงพูด

ภาสิต” ตามรูปศัพท์เป็นคำกริยาอดีตกาล (past participle) กรรมวาจก แปลว่า “(คำ อันเขา) กล่าวแล้ว” หมายถึง คำหรือเรื่องราวที่ถูกกล่าว, พูด, เอ่ย (spoken, said, uttered)

แต่ “ภาสิต” สามารถใช้เป็นคำนามก็ได้ด้วย แปลว่า คำพูด, ถ้อยคำ (speech, word)

บาลี “ภาสิต” ( เสือ) ในภาษาไทยใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “ภาษิต” ( ฤๅษี)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

ภาษิต : (คำนาม) ถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวสืบต่อกันมาช้านานแล้ว มีความหมายเป็นคติ เช่น กงเกวียนกำเกวียน. (ส.).”

ทุ + ภาสิต ซ้อน พฺ ตามกฎการซ้อนพยัญชนะ คือซ้อนพยัญชนะในวรรคเดียวกันที่อยู่หน้าพยัญชนะแรกของศัพท์หลัง

“พยัญชนะแรกของศัพท์หลัง” ในที่นี้คือ “

พยัญชนะในวรรคเดียวกันที่มี “” คือ ป ผ พ ภ ม

พยัญชนะที่อยู่หน้า คือ “” 

เพราะฉะนั้น: ทุ + พฺ + ภาสิต = ทุพฺภาสิต (ทุบ-พา-สิ-ตะ) แปลตามศัพท์ว่า “พูดชั่ว” หรือ “คำที่พูดชั่ว

ทุพฺภาสิต” ในที่นี้ใช้ในภาษาไทยเป็น “ทุพภาสิต” (ไม่มีจุดใต้ และคงใช้ เสือ ตามรูปบาลี) อ่านว่า ทุบ-พา-สิด

ขยายความ :

ทุพภาสิต” เป็นชื่ออาบัติ คือ โทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทหรือข้อห้ามแห่งภิกษุ 1 ใน 7 อย่าง

อาบัติมี 7 ชื่อ มีความหมายตามลักษณะความผิด (เพื่อเข้าใจง่าย ขอแปลแบบถอดความ) ดังนี้

(1) ปาราชิก = “แพ้ไล่ออก” 

(2) สังฆาทิเสส = “ต้องให้สงฆ์สั่งสอน” 

(3) ถุลลัจจัย = “เลวอย่างหยาบ

(4) ปาจิตตีย์ = “ทำดีตกแตก

(5) ปาฏิเทสนียะ = “รับสารภาพ

(6) ทุกกฏ = “มารยาททราม

(7) ทุพภาสิต = “ปากเสีย

มาตรการลงโทษกำหนดไว้ดังนี้ (ตัวเลขในวงเล็บคืออาบัติ)

(1) ขาดจากความเป็นพระทันทีที่ทำ 

(2) ที่ประชุมสงฆ์ลงโทษตามวิธีการที่กำหนด 

(3-7) เปิดเผยความผิดต่อหน้าเพื่อนภิกษุด้วยกัน เรียกว่า “ปลงอาบัติ

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายคำว่า “ทุพภาสิต” ไว้ดังนี้ 

…………..

ทุพภาสิต : “พูดไม่ดี” “คำชั่ว” “คำเสียหาย” ชื่ออาบัติเบาที่สุดที่เกี่ยวกับคำพูด เป็นความผิดในลำดับถัดรองจากทุกกฏ เช่น ภิกษุพูดกับภิกษุที่มีกำเนิดเป็นจัณฑาล ว่าเป็นคนชาติจัณฑาล ถ้ามุ่งว่ากระทบให้อัปยศ ต้องอาบัติทุกกฏ แต่ถ้ามุ่งเพียงล้อเล่น ต้องอาบัติทุพภาสิต.

…………..

เพื่อความเข้าใจเรื่องอาบัติของภิกษุกว้างขวางยิ่งขึ้น โปรดอ่านเพิ่มเติมที่ “บาลีวันละคำ” ต่อไปนี้ –

ปาราชิก [1] (109)

ปาราชิก [2] (2,896)

สังฆาทิเสส (3,066)

ถุลลัจจัย (3,444)

ปาจิตตีย์ (3,068)

นิสสัคคีย์ (3,069)

ปาฏิเทสนียะ (3,075)

เสขิยวัตร (3,067)

ทุกกฏ (1,263)

อนิยต (3,065)

…………..

ดูก่อนภราดา!

พึงสดับกลอนบทนี้ แล้วตอบคำถาม:

…………..

๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์

มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร

จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา๚ะ๛

…………..

1 ท่านเคยอ่านหรือเคยได้ฟังกลอนบทนี้มาก่อนหรือไม่

2 ท่านเคยยกกลอนบทนี้ไปเอ่ยอ้างบ้างหรือไม่ ถ้าเคย ถ้อยคำที่ท่านยกไปนั้นตรงตามนี้หรือผิดเพี้ยนไปจากนี้

3 ท่านทราบหรือไม่ว่ากลอนบทนี้อยู่ในวรรณกรรมไทยเรื่องอะไร และใครเป็นผู้แต่ง ตอบตามความรู้ที่ท่านมีอยู่ในขณะนี้ อย่าเพิ่งอาศัย google ทันที

#บาลีวันละคำ (3,445)

17-11-64 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *