บาลีวันละคำ

อปรโคยานทวีป (บาลีวันละคำ 3,472)

อปรโคยานทวีป

ดินแดนแห่งคนขับเกวียน

อ่านว่า อะ-ปะ-ระ-โค-ยาน-นะ-ทะ-วีบ

ประกอบด้วยคำว่า อปร + โคยาน + ทวีป

(๑) “อปร” 

บาลีอ่านว่า อะ-ปะ-ระ รากศัพท์มาจาก + ปร

(ก) “” บาลีอ่านว่า นะ เป็นศัพท์จำพวกนิบาต แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not) 

” เมื่อไปประสมกับคำอื่น มีกฎดังนี้ – 

(1) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ให้แปลง เป็น (อะ) 

(2) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ คือ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ให้แปลง เป็น อน (อะ-นะ)

ในที่นี้ “ปร” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ จึงแปลง เป็น  

(ข) “ปร” อ่านว่า ปะ-ระ รากศัพท์มาจาก (แทนศัพท์ว่า “เบียดเบียน”) + รมฺ (ธาตุ = ยินดี) + กฺวิ ปัจจัย, ลบ กฺวิ และ มฺ ที่สุดธาตุ

: + รมฺ = ปรมฺ + กฺวิ = ปรมกฺวิ > ปรม > ปร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ยินดีในการเบียดเบียน” ความหมายเดิมคือ “ปรปักษ์” ซึ่งหมายถึงผู้ที่อยู่อีกข้างหนึ่ง หรืออยู่คนละข้างกัน ซึ่งตามปกติย่อมพอใจที่จะเบียดเบียนคือทำร้ายกัน

จากความหมายเดิมนี้ “ปร” จึงหมายถึง อีกข้างหนึ่ง, โพ้น; เหนือ, อีกอันหนึ่ง, อื่นอีก, อื่น (on the further side of, beyond; over, another, other)

+ ปร = นปร > อปร แปลตามศัพท์ว่า “ไม่ใช่ฝ่ายอื่น” หมายความว่า ฝ่ายอื่นก็ไม่ใช่ ฝ่ายตัวเองก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้น ก็ต้องเป็น “อีกฝ่ายหนึ่งนอกไปจากฝ่ายอื่น” หมายถึง อีกอันหนึ่ง, คือ เพิ่ม, ต่อไป, ถัดไป, ที่สอง (another, i. e. additional, following, next, second)

(๒) “โคยาน” บาลีอ่านว่า โค-ยา-นะ ประกอบด้วยคำว่า โค + ยาน

(ก) “โค” รากศัพท์มาจาก คมฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + ปัจจัย, แปลง คมฺ เป็น โค

: คมฺ + = คม > โค แปลตามศัพท์ว่า (1) “ที่เป็นที่เป็นไปแห่งสัตวโลกทั้งหลาย” (2) “สัตว์ที่ไปเรื่อยๆ

โค” ในบาลีหมายถึง (1) แผ่นดิน (the earth) (2) วัว (a cow, an ox, bull)

(ข) “ยาน” บาลีอ่านว่า ยา-นะ รากศัพท์มาจาก ยา (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน

: ยา + ยุ > อน = ยาน แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องไปสู่ที่ปรารถนา” หรือ “สิ่งสำหรับทำให้เคลื่อนไป” 

ยาน” (นปุงสกลิงค์) ในบาลีหมายถึง –

(1) การไป, การดำเนินไป (going, proceeding) 

(2) ยาน, พาหนะ (carriage, vehicle)

โค + ยาน = โคยาน (โค-ยา-นะ) แปลตามศัพท์ว่า “ยานที่เทียมด้วยโค

(๓) “ทวีป” 

บาลีเป็น “ทีป” อ่านว่า ที-ปะ รากศัพท์มาจาก –

(1) ทฺวิ (คำสังขยา = สอง) + อาป (น้ำ), ลบ วฺ ที่ ทฺวิ แล้วทีฆะ อิ เป็น อี (ทฺวิ > ทิ > ที) และลบ อา ที่ อา-(ป) (อาป >

: ทฺวิ + อาป = ทฺวิอาป > ทิอาป > ทีอาป > ทีป แปลตามศัพท์ว่า “พื้นที่ที่ปรากฏอยู่ในกลาง

(2) ทีปฺ (ธาตุ = ปรากฏ) + (อะ) ปัจจัย, 

: ทีปฺ + = ทีป แปลตามศัพท์ว่า “พื้นที่ที่ปรากฏอยู่ในกลางน้ำ” 

ทีป (ปุงลิงค์) หมายถึง เกาะ, ทวีป (an island, continent)

ทีป” ในบาลีนอกจากหมายถึง เกาะ, ทวีป แล้ว ยังใช้ในความหมายอื่นอีก (รากศัพท์อาจต่างกัน) ดังนี้ –

(1) พื้นดิน, ดินแข็ง (terra firma) 

(2) ฐานที่มั่นคง, สถานที่สำหรับอาศัย, สรณะ, ที่พึ่ง (solid foundation, resting-place, shelter, refuge)

(3) รถที่หุ้มด้วยหนังเสือดำ (a car covered with a panther’s skin)

(4) ความปลอดพ้นจากทุกข์ภัย, นิพพาน (salvation)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

(1) ทีป ๑, ทีปะ ๑ : (คำแบบ) (คำนาม) แสงไฟ. (ป., ส.). 

(2) ทีป ๒, ทีปะ ๒ : (คำแบบ) (คำนาม) เกาะ. (ป.; ส. ทฺวีป).

บาลี “ทีป” สันสกฤตเป็น “ทฺวีป” 

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ทฺวีป” ในสันสกฤตไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

ทฺวีป : (คำนาม) ‘ทวีป,’ เกาะ, ภูเกษตร์หรือที่อันมีน้ำล้อมรอบ; เนื่องจากเหตุนี้ศัพท์นี้จึงใช้หมายถึงสัปตันมหาภาคแห่งภูมณฑล, ทุกๆ ภาคปลีกหากจากกัน, โดยมีสมุทร์เปนเขตต์ขั้น: ทวีปทั้งเจ็ดนั้น, นับจากทวีปกลางคือ, ชมฺพุ, กุศ, ปลกฺษ, สาลฺมลี, เกฺรานฺจ, ศาก, และปุษฺกร; มัธยทวีปแบ่งออกไปอีกเปนสิบภาค, คือกุรุ, จนฺทฺร, วรุณ, เสามฺย, นาค, กุมาริกา, คภสฺติมานฺ, ตามฺราปูรฺณ, กเสรุ, และอินฺทฺร; หนังเสือ; an island, any land surrounded by water; from this cause the word is applied to the seven grand divisions of the terrestrial word, each of these being separated from the next, by a peculiar circumambient ocean: the seven Dvīpas, reckoning from the central one are, Jambu, Kuśa, Plaksha, Sālmalī, Krauncha, Śāka, and Pushkara; the central Dvīpa is again portioned into ten divisions, viz. Kuru, Chandra, Varuṇa, Saumya, Nāga, Kumārikā, Gabhastimān, TāmrāPūraṇa, Kaseru, and Indra; a tiger’s skin.” 

คำว่า “ทวีป” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ทวีป : (คำนาม) เปลือกโลกส่วนที่เป็นพื้นดินซึ่งมีขนาดใหญ่โตกว้างขวาง มี ๗ ทวีป คือ เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และแอนตาร์กติกา บางทวีปกําหนดนํ้าล้อมรอบเป็นขอบเขต เช่น ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอนตาร์กติกา บางทวีปกําหนดภูเขา ทะเล แหล่งอารยธรรมเป็นต้น เป็นแนวแบ่งเขต เช่น ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป; (โบ) เกาะ เช่น ลังกาทวีป สิงหฬทวีป; ในคัมภีร์ไตรภูมิกล่าวว่ามี ๔ ทวีป คือ ๑. ชมพูทวีป ๒. อมรโคยานทวีปหรืออปรโคยานทวีป ๓. อุตรกุรุทวีปหรืออุตรกุรูทวีป ๔. บุพวิเทหทวีป. (ส.; ป. ทีป).”

การประสมคำ :

โคยาน + ทีป = โคยานทีป (โค-ยา-นะ-ที-ปะ) แปลตามศัพท์ว่า “ทวีปที่ผู้คนเดินทางด้วยยานเทียมโค” 

อปร + โคยานทีป = อปรโคยานทีป (อะ-ปะ-ระ-โค-ยา-นะ-ที-ปะ) แปลตามศัพท์ว่า “ทวีปที่ผู้คนเดินทางด้วยยานเทียมโคซึ่งเป็นอีกทวีปหนึ่ง” (คือเป็นทวีปที่อยู่ตรงข้ามกับบุพวิเทหทวีป)

อปรโคยานทีป” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อปรโคยานทวีป” 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อมรโคยานทวีป, อปรโคยานทวีป : (คำนาม) ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป ๑ ใน ๔ ทวีป ได้แก่ อุตรกุรุทวีปหรืออุตรกุรูทวีป บุพวิเทหทวีป ชมพูทวีป และอมรโคยานทวีปหรืออปรโคยานทวีป.”

ขยายความ :

ชื่อทวีปนี้ มักเรียกด้วยความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า “อมรโคยาน-” คือเรียกเป็น อมร– (อร- ม ม้า) ที่หมายถึง “ผู้ไม่ตาย” คือเทวดา แต่คำที่ถูกต้องคือ “อปรโคยาน-” คือ อปร– (-– ป ปลา) ไม่ใช่ “อมร-” (-– ม ม้า)

อปร” เมื่อขยายสถานที่ ทำให้สถานที่นั้นมีความหมายว่า ไกลออกไป, ไปทางตะวันตก (further away, westward)

ในกรณีที่กล่าวถึงฝ่ายหนึ่งมาแล้ว “อปร” จะหมายถึง ฝ่ายที่ตรงกันข้าม หรือสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับฝ่ายหรือสิ่งที่กล่าวมาก่อนแล้ว

ในที่นี้ ขยายคำว่า “โคยานทีป” เป็น “อปรโคยานทีป” จึงมีความหมายว่า “ทวีปโคยานที่ไปทางตะวันตก” ซึ่งตรงกันข้ามกับ “บุพวิเทหทวีป” ที่อยู่ทางตะวันออก

และนี่คือข้อยืนยันว่า ชื่อนี้เป็น “อปร-” (อะ-ปะ-ระ-, –– ป ปลา) ไม่ใช่ “อมร-” (อะ-มะ-ระ-, –– ม ม้า)

คัมภีร์บาลีที่รวบรวมเรื่องของภพภูมิทั้งหลายคือ “จักกวาฬทีปนี” ผลงานของพระสิริมังคลาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์มังคลัตถทีปนีที่ใช้เป็นแบบเรียนของนักเรียนบาลีในเมืองไทย ได้อธิบายย้ำถึงชื่อ “อปรโคยานทีป” เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด ดังข้อความว่า –

…………..

… ก็โดยสามารถแห่งการบังคับด้วย ปุพฺพ ศัพท์ในคำว่า ปุพฺพวิเทห นี้ จำต้องปรารถนา อปร ศัพท์เท่านั้นในคำว่า อปรโคยาน นี้ ประดุจในคำว่า ปุพฺพาปร; จะเข้าใจว่าเป็น อมร ศัพท์ ดุจในคำว่า “อชโร  ตฺวํ  อมโร  ภว (ท่านจงเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตาย)” ดังนี้ไม่ได้. …

…………..

สันนิษฐานว่า ต้นฉบับคัมภีร์เขียนเป็นอักษรขอมซึ่งอักษร (ป ปลา) กับ (ม ม้า) โครงร่างเหมือนกัน ต่างที่ขีดไส้กลาง (ทำนองเดียวกับอักษรไทย ใบไม้ กับ ฤๅษี โครงร่างเหมือนกัน ต่างกันที่ขีดกลาง) ผู้จารอาจพลั้งเผลอหรือเข้าใจผิดได้ง่ายที่สุด ต้นฉบับเป็น แต่จารเป็น จึงทำให้ อร- กลายเป็น อร- 

อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาสอบทานคัมภีร์ฉบับอักษรอื่น เช่นอักษรพม่า และสิงหฬเป็นต้น เพื่อเป็นความรู้ในทางอักขรวิธีของบาลีต่อไป ท่านผู้มีคัมภีร์ฉบับอักษรพม่าและสิงหฬอยู่ใกล้มือคงช่วยกันทำงานนี้ได้

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ก็เก็บคำนี้ไว้ชื่อเดียว คือ “อมรโคยานทวีป” (อร- ม ม้า) เข้าใจว่าคณะกรรมการฯ คงได้เห็นข้อมูลจากคัมภีร์ที่ปรากฏ เมื่อชำระพจนานุกรมเป็นพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 จึงได้ปรับแก้โดยเพิ่มคำว่า “หรืออปรโคยานทวีป” เข้าไปทุกคำนิยามที่กล่าวถึงชื่อ “อมรโคยานทวีป” ในทวีปทั้ง 4 ตามคัมภีร์

ถ้าจะพูดเป็นคำขาดแล้ว ชื่อ “อมรโคยานทวีป” นั้นไม่มี ควรยกมาอ้างเฉพาะชื่อ “อปรโคยานทวีป” เท่านั้น อีกทั้งชื่อ “อมรโคยานทวีป” ก็ไม่มีคำอธิบายว่ามีความหมายว่าอย่างไร

อปรโคยานทวีป” มีอาการเช่นเดียวกับ “บุพวิเทหทวีป” คือแทบไม่มีรายละเอียดใดๆ กล่าวไว้ในคัมภีร์

…………..

ดูก่อนภราดา!

: อย่าวัดความเจริญกันที่ขับเกวียนหรือขับรถ

: ถ้าขับไปทำเรื่องทรยศ ขับรถก็แย่ยิ่งกว่าขับเกวียน

#บาลีวันละคำ (3,472)

14-12-64 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *