งานรักษาพระศาสนา น้ำหนักอยู่ที่ใคร
งานรักษาพระศาสนา น้ำหนักอยู่ที่ใคร
———————————-
ระหว่าง “พระ” กับ “ชาวบ้าน”
ในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธองค์ตรัสแก่มารที่มาอาราธนาให้เสด็จดับขันธปรินิพพานว่า บัดนี้ สาวกของพระองค์ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา มีความรู้ความสามารถพอที่จะรักษาพระศาสนาต่อไปได้แล้ว เป็นเวลาสมควรที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานได้
ผู้นับถือพระพุทธศาสนาซึ่งถือว่าเป็น “กำลังพล” ของพระพุทธศาสนาแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ บรรพชิต และคฤหัสถ์ ใช้คำแทนง่ายๆ ก็คือ “พระ” กับ “ชาวบ้าน”
ทั้ง ๒ ส่วนล้วนมีหน้าที่รักษาพระศาสนา
แต่ต้องแบ่งงานกันทำให้เหมาะ ให้ถูก
๑ งานรักษา “ตัวพระศาสนา”
“ตัวพระศาสนา” คือพระธรรมวินัย การประพฤติดีปฏิบัติชอบถูกต้องตามพระธรรมวินัย เป็นหน้าที่ของพระ
ชาวบ้านก็ต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบถูกต้องตามพระธรรมวินัยด้วย แต่น้ำหนักจะไปตกอยู่ที่พระ
ชาวบ้านกินเหล้า (ผิดพระธรรมวินัย) ไม่มีใครตำหนิว่าทำให้ศาสนาเสื่อม
แต่ถ้าพระกินเหล้า รุมด่ากันทั้งประเทศว่าทำให้ศาสนาเสื่อม
นี่คือบทพิสูจน์ว่าน้ำหนักแห่งการรักษาพระธรรมวินัยอยู่ที่กลุ่มไหน
๒ งานรักษา “ที่ปรากฏตัวของพระศาสนา”
(๑) ในด้านทำให้ผู้ได้อำนาจรัฐศรัทธาเลื่อมใส: น้ำหนักก็ยังคงตกอยู่ที่พระ
ชาวบ้านหย่อนยานทางศีลธรรม (ผิดพระธรรมวินัย) ผู้ได้อำนาจรัฐยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่สนับสนุนพระศาสนาได้ไม่ถนัด เพราะผู้ได้อำนาจรัฐเองก็มีส่วนบกพร่องด้วย ในฐานะที่ปล่อยให้พลเมืองของรัฐหย่อนยานทางศีลธรรม
แต่ถ้าพระหย่อนยานทางพระธรรมวินัยกันทั่วไป (ผิดพระธรรมวินัย) ผู้ได้อำนาจรัฐอ้างได้เต็มปาก
“พระหย่อนยานกันอย่างนี้ ยังจะมีหน้ามาขอให้รัฐสนับสนุนอีกหรือ”
เราจะเถียงไม่ขึ้น
(๒) ในด้านหลักนิติรัฐ (ออกกฎหมาย): น้ำหนักต้องอยู่ที่ชาวบ้าน ชาวบ้านต้องเป็นตัวหลักในการบริหารจัดการ (วิ่งเต้น ติดต่อ ผลักดัน เคลื่อนไหว ฯลฯ)
แต่ฐานก็ยังคงอยู่ที่พระอยู่นั่นเอง
ถ้าพระหย่อนยานทางพระธรรมวินัยกันทั่วไป (ผิดพระธรรมวินัย) เราจะเอาเหตุผลอะไรไปอ้างเพื่อออกกฎหมายสนับสนุนพระศาสนา?
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
๑๓:๐๒
……………………………………………….
พระวินัยไม่ใช่แค่เรื่องของพระ หากแต่คฤหัสถ์ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะคือเสาค้ำพระศาสนาให้อยู่ได้
– บ้านป่า อกาลิโก
(ความคิดเห็นท้ายโพสต์ “พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว” – ๑๙ พ.ย.๖๒)
……………………………………………….
…………………………….