วสวัดดี (บาลีวันละคำ 3,505)
วสวัดดี
ในสวรรค์ก็มีมารที่คอยขัดขวางคนทำดี
อ่านว่า วะ-สะ-วัด-ดี
“วสวัดดี” บาลีเป็น “วสวตฺตี” อ่านว่า วะ-สะ-วัด-ตี (ไทย ด เด็ก, บาลี ต เต่า) แยกศัพท์เป็น วส + วตฺตี
(๑) “วส”
อ่านว่า วะ-สะ รากศัพท์มาจาก วสฺ (ธาตุ = ติดใจ, ชอบใจ) + อ (อะ) ปัจจัย
: วสฺ + อ = วส (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ความติดใจ” หมายถึง กำลัง, อำนาจ, การควบคุม, อิทธิพล (power, authority, control, influence)
บาลี “วส” ใช้ในภาษาไทยเป็น “วสะ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“วสะ : (คำนาม) อํานาจ, กําลัง; ความตั้งใจ, ความปรารถนา. (ป.; ส. วศ).”
(๒) “วตฺตี” (วัด-ตี) รากศัพท์มาจาก วตฺตฺ (ธาตุ = เป็นไป) + ณี ปัจจัย, ลบ ณ (ณี > อี)
: วตฺตฺ + ณี > อี = วตฺตี (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เป็นไป” “ผู้ยัง-ให้เป็นไป” หมายถึง มีธุรกิจ, มีอำนาจ, ทำ, กระทำ (engaged in, having power over, making, doing)
วส + วตฺตี = วสวตฺตี (วะ-สะ-วัด-ตี) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ยังสัตว์ให้เป็นไปในอำนาจเป็นปกติ”
“วสวตฺตี” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) กรณีที่เป็นผู้ทำ: มีความหมายว่า มีอำนาจสูงสุด, ใช้อำนาจเหนือ, ใช้อำนาจสิทธิ์ขาด, มีอำนาจเต็มที่ (having highest power, domineering, autocrat, all-mighty)
(2) กรณีที่เป็นผู้ถูกทำ: มีความหมายว่า อยู่ในอำนาจ, ต้องอาศัย, อยู่ในบังคับ (being in one’s power, dependent, subject)
บาลี “วสวตฺตี” ใช้ในภาษาไทยเป็น “วสวัดดี” (-วัดดี ด เด็ก) และ “วสวัตตี” (-วัตตี ต เต่า) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“วสวัดดี, วสวัตตี : (คำนาม) ผู้ยังสัตว์ให้อยู่ในอํานาจ; ชื่อของเทวบุตรมาร. (ป.).”
อภิปรายขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต สะกดคำนี้เป็น “วสวัตดี” และ “วสวัดดี” อธิบายไว้ดังนี้ –
…………..
วสวัตดี, วสวัดดี : ชื่อพระยามาร เป็นเทพในสวรรค์ชั้นสูงสุดแห่งระดับกามาวจร เป็นผู้คอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไม่ให้ล่วงพ้นจากแดนกาม ซึ่งอยู่ในอำนาจครอบงำของตน; ดู มาร 2, เทวปุตตมาร
…………..
ตามไปดูที่คำว่า “มาร 2” และ “เทวปุตตมาร” พจนานุกรมพุทธศาสน์ฯ อธิบายไว้ดังนี้ –
…………..
มาร 2 : พระยามารที่มีเรื่องราวปรากฏบ่อยๆ ในคัมภีร์ คอยมาแทรกแซงเหตุการณ์ต่างๆ ในพระพุทธประวัติ เช่น ยกพลเสนามาผจญพระมหาบุรุษในวันที่จะตรัสรู้ พระองค์ชนะพระยามารได้ด้วยทรงนึกถึงบารมี ๑๐ คือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฏฐาน เมตตา อุเบกขา มารในกรณีเช่นนี้ บางทีท่านอธิบายออกชื่อว่าเป็นวสวัตดีมาร ซึ่งครองแดนหนึ่งในสวรรค์ชั้นสูงสุดแห่งระดับกามาวจร คือปรนิมมิตวสวัตดี เป็นผู้คอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไว้ มิให้ล่วงพ้นจากแดนกามซึ่งอยู่ในอำนาจครอบงำของตน อย่างไรก็ดี ผู้ศึกษาพึงพิจารณาเทียบจากมาร ๕ ในความหมายที่ 1. ด้วย
…………..
เทวปุตตมาร มารคือเทพบุตร, เทวบุตรเป็นมาร เพราะเทวบุตรบางตนที่มุ่งร้ายคอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไว้ไม่ให้สละกามสุขออกไปบำเพ็ญคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ ทำให้บุคคลนั้นพินาศจากความดี, คัมภีร์สมัยหลังๆ ออกชื่อว่า พญาวสวัตดีมาร (ข้อ ๕ ในมาร ๕)
…………..
“มาร ๕ ในความหมายที่ 1” ที่พจนานุกรมพุทธศาสน์ฯ บอกไว้ ท่านแสดงไว้ดังนี้ –
…………..
มาร 1 : สิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากความดีหรือจากผลที่หมายอันประเสริฐ, ตัวการที่กำจัดหรือขัดขวางไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ คือ ๑. กิเลสมาร มารคือกิเลส ๒. ขันธมาร มารคือเบญจขันธ์ ๓. อภิสังขารมาร มารคืออภิสังขารที่ปรุงแต่งกรรม ๔. เทวปุตตมาร มารคือเทพบุตร ๕. มัจจุมาร มารคือความตาย
…………..
อีกคำหนึ่งที่เกี่ยวข้อง คือ “ปรนิมมิตวสวัตดี” พจนานุกรมพุทธศาสน์ฯ บอกไว้ดังนี้ –
…………..
ปรนิมมิตวสวัตดี : สวรรค์ชั้นที่ ๖ มีท้าวปรนิมมิตวสวัตดีปกครอง เทวดาชั้นนี้ปรารถนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ต้องนิรมิตเอง มีเทวดาอื่นนิรมิตให้อีกต่อหนึ่ง; พระยามารวสวัตดี เป็นเทพแห่งสวรรค์ชั้นนี้
…………..
เป็นอันว่า “วสวัดดี” คำเดียวโยงไปถึงมารต่างๆ ที่ควรรู้จักครบถ้วน ท่านผู้ใดประสงค์จะรู้จักมารชนิดไหนให้ละเอียดขึ้น โปรดค้นคว้าศึกษาต่อไปเทอญ
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ทุกครั้งที่จะขัดคอใคร
อย่าลืมถามหัวใจ
ว่าทำไมจึงคอยแต่จะขัดคอเขา
: ถ้าเพียงเพราะเขาเห็นไม่ตรงกับเรา
ก็แล้วเราเองเล่า
ทำไมจึงเห็นไม่ตรงกับใคร
#บาลีวันละคำ (3,505)
16-1-65
…………………………….