บาปที่เกิดจากวิธีทำบุญ
บาปที่เกิดจากวิธีทำบุญ
————————
ผมกำลังเขียนเรื่องในชุด “ความรู้เรื่องการขบฉัน” แต่วันนี้เกิดอาการคันมือ เนื่องจากได้ยินเสียงตามสายของเทศบาลเมืองราชบุรีพูดถึงเรื่องคำแนะนำในการถวายสังฆทาน มีพูดถึง “ชุดสังฆทาน” มีคำแนะนำผู้ผลิตว่าชุดสังฆทานควรมีอะไรบ้าง ควรผลิตออกมาอย่างไร และคำแนะนำผู้ซื้อว่าควรสังเกตที่ไหนอย่างไรจึงจะได้ชุดสังฆทานที่ดี
ฟังแล้วรู้สึกว่า-เหมือนเรากำลังสนับสนุนให้มีสิ่งที่เรียกว่า “ชุดสังฆทาน”
ก็เลยจะขออนุญาตแวะเขียนเรื่องนี้สักนิดหนึ่ง
……………
เราคงยังพอจำกันได้ว่า แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีพ่อค้าเอาของถวายพระใส่ถังพลาสติกสีเหลือง เอากระดาษใสหุ้มปากถัง ใครจะถวายสังฆทาน ก็เสนอแนะให้ซื้อถังชนิดนั้นไปถวายพระ แล้วเรียกถังนั้นว่า “ถังสังฆทาน” แต่เนื่องจากเป็นสีเหลือง คนจึงมักเรียกกันว่า “ถังเหลือง”
“ถังเหลือง” ติดตลาดอย่างรวดเร็ว พร้อมไปกับสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางว่า –
ถวายสังฆทานต้องมีถังเหลือง
ถ้าไม่มีถังเหลือง ไม่เป็นสังฆทาน
เข้าใจอย่างนี้กันหมดทั้งโลก!!
ความเข้าใจผิดๆ นี้จมดิ่งลึกลงไปถึงกับเข้าใจกันว่า แค่เอาถังเหลืองนี้ไปถวายพระก็เป็นสังฆทานทันที
ขนาดเจาะจงถวายหลวงพ่อ ไม่ถวายรูปอื่น ก็ยังเข้าใจว่าเป็นสังฆทาน
เชื่อหรือไม่ว่า จนถึงวันนี้ความเข้าใจผิดๆ แบบนี้ก็ยังฝังลึกอยู่ แกะไม่ออก –
ถวายสังฆทานต้องมีชุดสังฆทาน
ถ้าไม่มี ไม่เป็นสังฆทาน
เอาชุดสังฆทานไปเจาะจงถวายพระรูปนั้นรูปนี้
เป็นสังฆทานทันที
เป็นสังฆทานหรือไม่เป็นสังฆทาน ตัดสินกันที่ชุดสังฆทาน
แม้แต่วัดต่างๆ
จัดสถานที่สำหรับถวายสังฆทาน
จัดชุดสังฆทานไว้บริการพร้อม
แต่ไม่ได้ช่วยกันให้ความรู้ที่ถูกต้องว่าถวายสังฆทานคืออะไร
เวลานี้การถวายสังฆทานกำลังเพี้ยนไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว นั่นคือ พระเป็นผู้กล่าวนำถวาย อ้างว่าผู้ถวายกล่าวเองไม่เป็น
อีกไม่เกิน ๕๐ ปี การถวานสังฆทานทุกแห่งในโลก พระจะเป็นผู้กล่าวนำถวาย – ไม่เชื่อคอยดูกันไปเถิด
ก็เหมือนการรับศีลนั่นแหละ เดิมทีเดียวเวลารับศีล ผู้รับจะพูดออกมาด้วยตัวเองว่า ปาณาติปาตา เวรมณี … ไปจนถึง สุราเมรย … จนจบ
พระเพียงนั่งเป็นพยานรับรู้ว่าท่านผู้นี้ตั้งใจรักษาศีล
ดั้งเดิมรับศีลกันอย่างนี้จริงๆ
ต่อมา เกิดผู้รับศีลบางรายพูดไม่เป็น ไม่คล่อง พระจึงพูดนำให้
หนักเข้า พระพูดนำให้ทุกคำ
จากเดิมพระนั่งเป็นพยาน ผู้รับศีลกล่าวคำสมาทานเองต่อหน้าพระ
ทุกวันนี้ รับศีล กลายเป็นพระว่านำทั้งหมด จนความเข้าใจของคนทั้งหลายกลับตาลปัตรไปแล้ว-รับศีล ต้องมีพระให้ศีล ไม่มีพระให้ศีล รับศีลไม่ได้
ในอนาคตอันไม่ไกล คนจะพากันเข้าใจว่า ถวายสังฆทานต้องมีพระกล่าวนำ ไม่มีพระกล่าวนำ ไม่เป็นสังฆทาน คอยดูกันไปเถิด
การที่เป็นดังนี้ก็เพราะเราขาดความอุตสาหะในการที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง
——————-
เวลานี้กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ ในระบบวิถีชีวิตของผู้คน นั่นคือ “ระบบบริการ”
นับตั้งแต่เกิด ลูกเกิด มีบริการรับเลี้ยงเด็ก พ่อแม่ไม่ต้องเลี้ยงเอง
การกินอยู่ประจำวัน มีบริการร้านอาหาร ทุกบ้านไม่ต้องหุงข้าวทำกับข้าวกินเอง
การทำความสะอาดบ้านเรือนสถานที่ บริการรับทำความสะอาด เจ้าของบ้านไม่ต้องกวาดบ้านถูบ้านเอง
สมัยก่อน นักเรียนมีเวรทำความสะอาดห้องเรียน มีภารโรงดูแลทำความสะอาดทั่วโรงเรียน เป็นการปลูกฝังสำนึก-โรงเรียนของเรา
เดี๋ยวนี้บริษัทรับบริการทำความสะอาดมาทำหน้าที่แทน ห้องเรียนมีค่าเพียงแค่เป็นที่อาศัยเรียนหนังสือ หมดชั่วโมงก็ “สะบัดตูด” ไปไหนก็ได้
ซัก-รีดเสื้อผ้า ปลูกหญ้าแต่งบ้าน อาหารการกิน ฯลฯ เรียกได้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่ต้องรับผิดชอบเอง มีบริการให้ทุกอย่าง
ลามไปจนถึงการกล่าวคำถวายสังฆทาน
กล่าวเองไม่เป็น ต้องใช้บริการของพระ
พูดฝรั่งอังกฤษฟุดฟิดฟอไฟ เด็กไทยพูดได้คนละหลายภาษา
แต่คำถวายสังฆทาน ๒-๓ บรรทัด พูดไม่ได้!!
ลามไปถึงของทำบุญ จัดเอง หาเอง เลือกเองไม่เป็น ใช้บริการถังเหลือง-ชุดสังฆทาน สะดวกกว่า
เป็นเหตุให้คนที่มีอาชีพขายของฉวยโอกาสบนลักษณะนิสัย-ทำอะไรเองไม่เป็น-จัดของไร้คุณภาพใส่ถังแล้วหลอกว่าเป็น “ชุดสังฆทาน”
ชุดนี้ชุดเดียวถวายแล้วได้อานิสงส์ถึงพระนิพพาน
แล้วก็พากันหลับตาเชื่อไปทั้งโลก
——————-
ถ้ามีผู้มาขอคำแนะนำเรื่องถวายสังฆทาน ผมจะบอกว่า
ไม่มีอะไรที่จะเรียกได้ว่า “ชุดสังฆทาน”
“สังฆทาน” เป็นชื่อเรียกเจตนาคือความตั้งใจที่จะถวายสิ่งของให้เป็นของสงฆ์
ถวายอะไรให้เป็นของสงฆ์ นั่นคือสังฆทาน
ไม่ต้องมี “ชุดสังฆทาน” แต่ประการใด
อยากถวายสังฆทานให้ถูกวิธี ขอให้ทำดังนี้ –
๑ ตบกระเป๋า ประเมินงบประมาณก่อน ทำอย่าให้เกินกำลัง
๒ ของอะไรถ้าทำเองไม่ได้ ก็ไปที่ร้านขายของ เลือกหยิบมาพลิกดูเป็นชิ้นๆ เป็นอย่างๆ ไป อะไรพระฉันได้ใช้ได้ อะไรพระฉันไม่ได้ใช้ไม่ได้ ชิ้นไหนหมดอายุ กระป๋องไหนบวมแล้ว อะไรมีประโยชน์ อะไรใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้ม – พิจารณาด้วยปัญญา นี่เป็นแง่หนึ่งของหลักที่ว่าศรัทธากับปัญญาต้องสมดุลกัน
๓ รวบรวมของที่เลือกแล้วให้เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องลงถังลงกระเช้าให้มันหรูหราเกินจำเป็น ใส่ถุงอะไรก็ได้
๔ ตั้งจิตให้ถูกตรงก่อนว่าจะถวายเป็นของสงฆ์ คือของกลางของส่วนรวมของพระ พระทุกรูปมีสิทธิ์ฉันมีสิทธิ์ใช้ ไม่ใช่เจาะจงถวายหลวงพ่อ ถวายท่านเจ้าคุณท่านมหานั่นนี่โน่น
๕ เมื่อใจเปิดกว้างเต็มที่แล้วก็นำของไปถวายที่วัด วัดไหนก็ได้ นิมนต์พระมารับ กี่รูปก็ได้ตามกำลังศรัทธา ไม่จำเป็นต้องครบ ๔ รูป ถ้าไม่ครบ ๔ รูป ท่านก็รับในฐานเป็นผู้แทนสงฆ์
๕ เริ่มพิธีด้วยการไหว้พระ บูชาพระรัตนตรัย รับศีล กล่าวคำถวายด้วยตัวเอง ถ้ากล่าวเองไม่ได้ก็ติดต่อขอแรงคนที่เขากล่าวได้ ไม่ควรให้พระกล่าวนำ อย่าเห็นแก่ความสะดวกมักง่ายจนเหยียบย่ำความถูกความควร
๖ กล่าวคำถวายจบ ประเคนสิ่งของที่พระสามารถรับประเคนได้ ฟังพระสงฆ์อนุโมทนา ตั้งใจอุทิศส่วนบุญตามปรารถนา
เรียบๆ ง่ายๆ แค่นี้
แต่ทำด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องว่าสังฆทานคืออย่างนี้
สังฆทานไม่ใช่ชุดสังฆทานอย่างที่เราถูกหลอกขาย
เราบังคับผู้ผลิตให้เลิกทำชุดสังฆทานออกมาวางขายไม่ได้ก็จริง
แต่เราช่วยกันรู้ทันได้
อย่าช่วยให้เขาทำบาปโดยอาศัยการทำบุญของเรา
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐
…………………………….