บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

พระปฏิบัติ

———–

ผมเคยกราบหลวงปู่ดู่ใกล้ๆ นั่งดูท่าน รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งความเย็นชื่นที่แผ่ออกมาจากท่าน 

พระเถระอีกบางรูปที่ผมเคยเข้าใกล้ ก็รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งความชื่นเย็นแบบเดียวกัน

อาการแบบนี้น่าจะตรงกับเรื่องในพระไตรปิฎกที่บันทึกไว้ว่า พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้วเสด็จไปโปรดพระประยูรญาติที่เมืองกบิลพัสดุ์ ราหุลกุมารเข้ามาเฝ้าใกล้ๆ แล้วกราบทูลว่า “สุขา  เต  สมณ  ฉายา” ซึ่งพอจะแปลได้ว่า “เงาของพระองค์เย็นสบาย

เรียกเป็นคำรวมๆ ก็คือหลวงปู่เป็น “พระปฏิบัติ”

เคยได้ยินหลายๆ ท่านนิยมเรียกพระปฏิบัติระดับนี้ว่า “พระอริยสงฆ์” 

หลวงปู่นั่น หลวงตานี่ เป็นอริยสงฆ์ 

โดยเฉพาะ “สื่อ” ทั้งหลายชอบเรียกกันมาก 

บางทีพระสงฆ์ด้วยกันเองก็พลอยเรียกกับเขาด้วย 

ได้ยินแล้วรู้สึก “เสียว” ครับ 

เพราะอาจจะเฉียดจตุตถปาราชิกโดยไม่รู้ตัว

…………………..

หลักมีอยู่ว่า การจะรู้ว่าใครเป็นอริยสงฆ์คือเป็นอริยบุคคลหรือบรรลุธรรมชั้นไหน ผู้นั้นจะต้องเป็นอริยบุคคลในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าจึงจะบอกได้

การบอกว่าใครเป็นพระอริยสงฆ์ 

ก็คือการบอกว่าตนเป็นอริยบุคคลนั่นเอง 

ในสมัยพุทธกาล มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ตรัสรับรองว่าใครบรรลุมรรคผลระดับไหน 

พระสาวกอื่นๆ แม้ท่านจะเป็นพระอรหันต์ ก็ไม่ปรากฏว่าท่านกล่าวรับรองว่าใครเป็นพระอริยสงฆ์ จะมีบ้างก็เป็นพิเศษเฉพาะกรณีเท่านั้น 

ทุกวันนี้มีผู้รับรองความเป็นพระอริยสงฆ์กันดาษดื่นไปหมด

อย่าลืมนะครับ 

การบอกว่าพระรูปไหนเป็นอริยสงฆ์ 

ก็คือการบอกว่า-ข้าพเจ้าผู้บอกนี่แหละเป็นอริยบุคคล-นั่นเอง 

แค่บอกว่า ท่านเป็น “พระปฏิบัติ” ก็สื่อความหมายได้เต็มที่แล้ว 

ปลอดภัยด้วย

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *