บาลีวันละคำ

พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา (บาลีวันละคำ 362)

พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา

(นามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์)

พระนามนี้แยกเป็นคำบาลีได้ดังนี้

พุทฺธ” (พุด-ทะ) = แปลทับศัพท์ว่า “พระพุทธเจ้า” ความหมายคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม

มหา” (มะ-หา) = มาก, ใหญ่, ยิ่งใหญ่

วชิร” (วะ-ชิ-ระ) เราทับศัพท์ว่า “เพชร” จนไม่ได้นึกถึงความหมายจริงๆ

วชิร ตามรากศัพท์แปลว่า “สิ่งที่ไปได้เรื่อย” (คือไม่มีอะไรขัดขวางการไป) หรือ “สิ่งที่ไปอย่างไม่มีอะไรขัดขวาง” โดยความมุ่งหมายแล้วคำนี้หมายถึงอสนีบาต หรือ สายฟ้า ซึ่งถือว่าเป็น “อาวุธพระอินทร์

อุตตโมภาส” = อุตฺตม + โอภาส

อุตฺตม (อุด-ตะ-มะ) = “อย่างที่สุด, สูงสุด, ใหญ่ที่สุด, ดีที่สุด

โอภาส (โอ-พา-สะ) = ประกาย, แสงสว่าง, ความรุ่งโรจน์, ความโชติช่วง, ความปรากฏ

ศาสดา” บาลีเป็น “สตฺถา” (สัด-ถา) แปลทับศัพท์ตามรูปสันสกฤตว่า “พระศาสดา”แปลตามความหมายว่า “พระบรมครู

พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา

อ่านว่า พระ-พุด-ทะ-มะ-หา-วะ-ชิ-ระ-อุด-ตะ-โม-พาด-สาด-สะ-ดา

มีความหมายที่แสดงไว้เป็นทางการว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระ

รู้ความหมายแต่ละคำแล้ว สามารถขยายความให้งามวิจิตรไปได้อีกหลายนัย

: พุทฺธํ  ภควนฺตํ  อภิวาเทมิ

ขอถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น

—————-

(ในโอกาสที่จาริกแสวงบุญไปไหว้พระ ณ เขาชีจรรย์

ขอแบ่งบุญแด่มวลญาติมิตร โปรดโมทนาโดยทั่วหน้ากันเทอญ)

บาลีวันละคำ (362)

10-5-56

โอภาส (บาลี-อังกฤษ)

ประกาย, แสงสว่าง, ความรุ่งโรจน์, ความโชติช่วง, ความปรากฏ

โอภาสเร (พจนานุกรมศัพท์บาลี)

ย่อมกล่าว  -แสดง  -ประกาศ,  ย่อมส่องแสง  -รุ่งเรือง

หลักจารึกพระพุทธรูปเขาชีจรรย์

เป็นหลักจารึกประวัติการสร้างพระ มีคำจารึกดังนี้

  พุทธศักราช ๒๕๓๙ กาลมหามงคลสมัยแห่งปีกาญจนาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มหาราช ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดของชาวไทย ทรงดำรงสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี สถิตเสถียรเป็นพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ปกครองสยามรัฐสีมาอาณาจักรยาวนานที่สุด สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกฝ่ายพุทธจักร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทวยราษฎร์ มีจิตเกษมโสมนัสสมานสโมสรสนองพระมหากรุณาธิคุณอันไพศาล ประดิษฐาน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ หน้าผาหินเขาชีจรรย์แห่งนี้ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม เป็นพระพุทธมหามิ่งมงคล ประจำรัชกาลที่ ๙ ถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนสืบสนองพระราชดำริ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามว่า “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระ” มีพระพุทธลักษณะเช่นเดียวกับพระพุทธนวราชบพิตร สูง ๑๐๙ เมตร หน้าตักกว้าง ๗๐ เมตร ฐานพุทธบัลลังก์ สูง ๒๑ เมตร รวมได้ ๑๓๐ เมตร

  เมื่อ ณ วันศุกร์ ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มหาราช ทรงเกษมพระราชศรัทธาถวายพระรัตนะบรมสารีริกธาตุอันประเสริฐรุ่งเรือง อัญเชิญสรรพสิริสวัสดิ์บริสุทธิ์แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย เพื่อสถาปกไว้ ณ พระอุระพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ให้โชติช่วงเรืองรองประดุจดั่งพระอาทิตย์ทอแสงชัชวาลเป็นนิรันดร์

 เมื่อ ณ วันพุธ ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๔ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกทรงรับสนองพระมหากรุณาธิคุณ อัญเชิญพระรัตนะบรมสารีริกธาตุประดิษฐานขึ้นแล้วทรงเบิกพระเนตร บังเกิดสรรพพุทธานุภาพสมบูรณ์จิรัง แผ่ความชุ่มชื่น สรรพ ร่มเย็น ทั่วผืนแผ่นดินแห่งพระบวรพุทธศาสนาในดิถีอันเป็นมงคล

ดูโพสในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย