บาลีวันละคำ

โภควาสินี-ภรรยาประเภทที่ 3 (บาลีวันละคำ 3,589)

โภควาสินี-ภรรยาประเภทที่ 3

ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ

…………..

ควรทราบก่อน :

ในจำนวนศีล 227 สิกขาบทของภิกษุ ในหมวดอาบัติสังฆาทิเสสมี 13 สิกขาบท สิกขาบทที่ 5 บัญญัติว่า “ภิกษุชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน ต้องสังฆาทิเสส” (นวโกวาท หน้า 3)

เมื่อกล่าวถึง “ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน” ตามสิกขาบทนี้ พระวินัยปิฎกจำแนกหญิงที่ชายได้มาเป็นภรรยาไว้ 10 ประเภท คือ –

(1) ธนกีตา = ภรรยาสินไถ่ 

(2) ฉันทวาสินี = ภรรยาที่อยู่ด้วยความเต็มใจ 

(3) โภควาสินี = ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ

(4) ปฏวาสินี = ภรรยาที่อยู่เพราะผ้า 

(5) โอทปัตตกินี = ภรรยาที่สมรส 

(6) โอภตจุมพฏา = ภรรยาที่ถูกปลงเทริด 

(7) ทาสี ภริยา = ภรรยาที่เป็นทั้งคนใช้เป็นทั้งภรรยา 

(8 ) กัมมการี ภริยา = ภรรยาที่เป็นทั้งลูกจ้างทั้งเป็นภรรยา 

(9) ธชาหฏา = ภรรยาเชลย

(10) มุหุตติกา = ภรรยาชั่วคราว 

ชื่อภรรยาทั้ง 10 ประเภทนี้ ไม่ใช่คำแสดงลักษณะนิสัยของภรรยาเหมือนภรรยา 7 ประเภท เช่น “โจรีภริยาภรรยาเยี่ยงโจรมาตาภริยาภรรยาเยี่ยงมารดา เป็นต้น หากแต่เป็นคำแสดงที่มาหรือลักษณะที่ได้หญิงนั้นมาเป็นภรรยาว่าได้มาด้วยวิธีใด

ชื่อภรรยาทั้ง 10 ประเภทนี้บ่งบอกถึงสภาพสังคมหรือค่านิยมในการหาคู่ครองของชายชาวชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล เป็นเรื่องน่ารู้ จึงนำแต่ละชื่อมาแสดงความหมายตามกรอบขอบเขตของ “บาลีวันละคำ” พอเป็นอลังการของนักเรียนบาลี

…………..

โภควาสินี” อ่านว่า โพ-คะ-วา-สิ-นี ประกอบด้วยคำว่า โภค + วาสินี

(๑) “โภค” 

บาลีอ่านว่า โพ-คะ รากศัพท์มาจาก ภุชฺ (ธาตุ = กิน) + ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อุ ที่ ภุ-(ชฺ) เป็น โอ, แปลง เป็น

: ภุชฺ + = ภุชณ > ภุช > โภช > โภค แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันคนใช้สอย” หรือ “สิ่งที่ต้องใช้สอย” 

โภค” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) การเสพหรือบริโภค (enjoyment) 

(2) สมบัติ, ความร่ำรวย (possession, wealth) 

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

โภค, โภค-, โภคะ : (คำนาม) สมบัติ เช่น ถึงพร้อมด้วยโภคะ. (คำกริยา) กิน, ใช้สอย. (ป., ส.).”

(๒) “วาสินี” 

รูปคำเดิมเป็น “วาสี” อ่านว่า วา-สี รากศัพท์มาจาก วสฺ (ธาตุ = อยู่, พำนัก; ชอบใจ) + ณี ปัจจัย, ลบ (ณี > อี), “ทีฆะต้นธาตุ” คือ อะ ที่ -(สฺ) เป็น อา (วสฺ > วาส

: วสฺ + ณี = วสณี > วสี > วาสี (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีปรกติอยู่-(ในที่ใดที่หนึ่ง)” หมายถึง ชอบ, อาศัยอยู่ [ใน] (liking, dwelling [in])

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

วาสิน, วาสี ๑ : (คำนาม) ผู้อยู่, ผู้ครอง, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาส เช่น คามวาสี = ผู้อยู่บ้าน อรัญวาสี = ผู้อยู่ป่า. (ป., ส.).”

หมายเหตุ : ที่พจนานุกรมฯ สะกดเป็น “วาสิน” นั้น เป็นการถอดรูปมาจากวิธีสะกดคำบาลีด้วยอักษรโรมันแบบหนึ่ง คือคำว่า “วาสี” อาจสะกดเป็นอักษรโรมันได้ 2 แบบ คือ vāsī = วาสี ก็ได้ vāsin = วาสินฺ ก็ได้ แต่เมื่อถอดเป็นบาลีอักษรไทย เรานิยมสะกดเป็น “วาสี

วาสี” เป็นรูปคำปุงลิงค์ เมื่อใช้เป็นคุณศัพท์ขยายคำนามที่เป็นอิตถีลิงค์ ลง “อินี” ปัจจัย เปลี่ยนรูปเป็น “วาสินี

แถม :

อินี” ปัจจัยนี้ใช้ลงหลังคำนามที่เป็นปุงลิงค์เพื่อทำให้นามคำนั้นเป็นอิตถีลิงค์

คำประเภทนี้ที่เราคุ้นกันในภาษาไทย เช่น –

: เศรษฐี = ชายผู้มั่งมี

: เศรษฐินี = หญิงผู้มั่งมี

: ภิกษุ (บาลี: ภิกฺขุ) = ชายที่บวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา

: ภิกษุณี (บาลี: ภิกฺขุนี, ภิกฺขุ + อินี ลบ อิ) = หญิงที่บวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา

: คหบดี (บาลี: คหปติ) = ชายที่เป็นเจ้าบ้าน

: คหปตานี (บาลี: คหปติ + อินี แปลง อิ ที่ ติ และ อิ ที่ อินี เป็น อา) = หญิงที่เป็นเจ้าบ้าน

: จักรพรรดิ = ชายผู้เป็นประมุขของจักรวรรดิ (พระเจ้าจักรพรรดิผู้ชาย)

: จักรพรรดินี = หญิงผู้เป็นประมุขของจักรวรรดิ (พระเจ้าจักรพรรดิผู้หญิง)

: ราชา = ชายผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน

: ราชินี = หญิงผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน (แต่ในภาษาไทยใช้ในความหมายว่า หญิงผู้เป็นมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน)

โภค + วาสินี = โภควาสินี เขียนแบบไทยได้รูปเหมือนบาลี คือ “โภควาสินี” (โพ-คะ-วา-สิ-นี) แปลว่า “ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ” 

ขยายความ :

ในพระไตรปิฎก สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 5 ให้คำจำกัดความ “โภควาสินี” ไว้ดังนี้ –

…………..

โภควาสินี  นาม  โภคํ  ทตฺวา  วาเสติ  ฯ

ภรรยาที่ชื่อว่า “โภควาสินี” (อยู่เพราะสมบัติ) หมายถึง สตรีที่ชายมอบสมบัติให้แล้วให้อยู่ร่วมกัน

ที่มา: วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ภาค 1 พระไตรปิฎกเล่ม 1 ข้อ 433

…………..

คัมภีรอรรถกถาพระวินัยปิฎกขยายความ “โภควาสินี” ไว้ดังนี้ –

โภเคน  วสตีติ  โภควาสินี  ฯ

หญิงใดย่อมอยู่ด้วยโภคะ หญิงนั้นชื่อว่า โภควาสินี

อุทุกฺขลมุสลาทิฆรูปกรณํ  ลภิตฺวา  ภริยาภาวํ  คจฺฉนฺติยา  ชนปทิตฺถิยา  เอตํ  อธิวจนํ  ฯ

หญิงชาวบ้านทั่วไปที่ได้รับเครื่องใช้ในการครองเรือน เช่น ครก สาก เป็นต้น (ที่ฝ่ายชายมอบให้) ก็เป็นอันอยู่ในฐานะเป็นภรรยา ภรรยาเช่นนี้ชื่อว่า โภควาสินี 

ที่มา: สมันตปาสาทิกา ภาค 2 หน้า 57 (อธิบายสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 5)

…………..

แถม :

คำแปลที่ว่า “ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ” ชวนให้เข้าใจว่า ยอมเป็นภรรยาเพราะหวังจะได้สมบัติของฝ่ายชาย แต่ในคำอธิบายท่านว่าไว้ชัดว่า ได้สมบัติแล้วจึงตกลงเป็นภรรยา

คำว่า “โภค” ที่อยู่ในชื่อ “โภควาสินี” หมายถึงทรัพย์สิน ที่ท่านแปลว่า “สมบัติ” อรรถกถาระบุเป็นตัวอย่าง 2 อย่าง คือ “อุทุกฺขล” (อุ-ทุก-ขะ-ละ) แปลว่า ครก (a mortar) และ “มุสล” (มุ-สะ-ละ) แปลว่า สาก (a pestle) 

เราสมัยนี้ฟังดูอาจเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่แท้ที่จริงแล้ว ครกกับสากนี่แลคืออุปกรณ์สำคัญในการทำอาหาร ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นแม่บ้านแม่เรือน การมอบอุปกรณ์เช่นนี้ให้ฝ่ายหญิงเป็นการยืนยันว่าฝ่ายชายยอมรับว่าสตรีนั้นสามารถทำหน้าที่แม่บ้านแม่เรือนได้ นั่นคือพร้อมที่จะเป็นภรรยา

ไทยเราก็ถือคติเช่นนี้ ดังที่เราสอนลูกสาวให้รู้จักหุงข้าวต้มแกงเป็น นั่นคือให้ผู้หญิงรู้จักงานครัวอันเป็นงานหลักของบ้านเรือน เรามีคำว่า “คหกรรมศาสตร์” เป็นเครื่องยืนยันว่า-คืองานบ้านงานเรือน เดิมจริงๆ แล้วเป็นวิชาที่เปิดสอนเฉพาะผู้หญิง คำไทยยังเรียกกันว่า “การเรือน”

การมอบทรัพย์สินให้ฝ่ายหญิงก่อนเช่นนี้ น่าจะตรงกับธรรมเนียมไทยที่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดทองหมั้นจากฝ่ายชายนั่นเอง

…………..

ดูก่อนภราดา!

: อยู่ด้วยสมบัติ อยู่กันได้แค่ชาตินี้

: อยู่ด้วยความซื่อสัตย์ อยู่กันได้ทุกภพทุกชาติ

#บาลีวันละคำ (3,589)

10-4-65 

…………………………….

…………………………….

ตามไปอ่านบาลีวันละคำได้ที่ลิงก์นี้:

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *