บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

จะเอาแค่ให้เขายอมรับ

จะเอาแค่ให้เขายอมรับ

———————–

หรือจะให้เขานับถือด้วย

สมัยหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ พระภิกษุสามเณรที่เรียนทางโลกสังคมจะตำหนิค่อนข้างรุนแรง

… บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ …

เรียนจบแล้วออกมาแย่งงานชาวบ้านทำ …

แม้เรียน มจร มมร ก็ถูกมองว่า “เรียนทางโลก”

จนถึงวันนี้ ทัศนคติแบบนั้นก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว

ข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างที่ถูกมองนั้น คือพระภิกษุสามเณรเรียนทางโลกเพื่อให้ได้วุฒิ ได้ศักดิ์และสิทธิ์แห่งวุฒิ แล้วใช้ศักดิ์และสิทธิ์นั้นเป็นสะพานก้าวต่อไป

จะก้าววนเวียนอยู่ในวัด หรือก้าวออกไปจากวัด ก็แล้วแต่จังหวะเวลา หรือแผนการในชีวิตที่วางไว้

ตัดภาพไว้แค่นี้ก่อน

ถามว่า ผมคิดอย่างไร?

ผมแสดงทัศนะเสมอมาว่า ผมเห็นด้วยที่พระภิกษุสามเณรเรียนทางโลก

แต่ความเห็นของผมมีเงื่อนไขกำกับอยู่ด้วย นั่นคือ เรียนทางโลก แต่ต้องดำเนินชีวิตทางธรรม กล่าวคือ ต้องรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้อย่างเคร่งครัดด้วย

เพราะวิถีชีวิตสงฆ์คือตัวชี้วัดความเป็นพระภิกษุสามเณร

ผู้ที่ไม่เห็นความสำคัญของวิถีชีวิตสงฆ์ และไม่รักษาวิถีชีวิตสงฆ์ ย่อมหมดความชอบธรรมที่จะเป็นพระภิกษุสามเณร

พระภิกษุสามเณรที่เห็นความสำคัญของวิถีชีวิตสงฆ์ และรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ได้ ย่อมเป็นที่ตั้งแห่งความนับถือ-แม้จะไม่มีวุฒิทางโลกเลย

หลวงปู่หลวงตาพระป่าพระปฏิบัติทั้งหลาย เป็นพยานในความที่กล่าวนี้ได้

ผมเคยชี้ให้ดูว่า พระภิกษุสามเณรที่เรียนทางโลกนั้น ต้องออกแรงเป็น ๒ เท่าของชาวบ้านที่เขาเรียนทางโลกกันตามปกติ

ชาวบ้านที่เรียนทางโลกนั้น ออกแรงเท่าเดียว คือแรงที่จะทุ่มไปกับการเรียนให้จบเท่านั้น ชีวิตส่วนตัวจะหัวหกก้นขวิดอย่างไรทำได้ตามสบาย เป็นสิทธิเสรีภาพ ไม่มีใครว่า ไม่มีใครสนใจกัน

แต่พระภิกษุสามเณรที่เรียนทางโลกต้องออกแรงรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ให้ได้แรงหนึ่ง และต้องทุ่มไปกับการเรียนให้จบเหมือนกับที่ชาวบ้านเขาเรียนกันอีกแรงหนึ่ง จึงเหนื่อยเป็น ๒ เท่า

ผมน้อมคารวะด้วยเหตุผลตรงนี้

ผลจากการเรียนจบทางโลก ก็คือ ชาวโลก-คือชาวบ้าน-เขา “ยอมรับ” ว่าพระภิกษุสามเณรรู้เท่าเขาหรือรู้เหมือนเขา

พูดเป็นตัวอย่างสักนิดหนึ่งก็เช่น-อืมมม พระรูปนี้เป็น ดร. เหมือนเราแฮะ!

นี่คือเขายอมรับ

แต่การที่พระภิกษุสามเณรรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ได้อย่างเคร่งครัดด้วย ตรงนี้เป็นเหตุให้ชาวโลกเขา “นับถือ” 

คือนับถือว่า พระภิกษุสามเณรมีวิถีชีวิตที่บริสุทธิ์สะอาดมากกว่าเขา เขายังไม่สามารถทำชีวิตให้บริสุทธิ์สะอาดเช่นนั้นได้ แต่พระภิกษุสามเณรสามารถทำได้ จึงเป็นผู้ที่ควรแก่การนับถือ

ยิ่งความรู้ทางโลกก็เท่าเขาด้วย วิถีชีวิตทางธรรมก็บริสุทธิ์สะอาดมากกว่าเขาด้วย ยิ่งควรแก่การเคารพนับถือเป็นที่สุด

เรียนทางโลก ผลก็คือทำให้โลก “ยอมรับ” ว่าเหมือนเขาเท่าเขา

รักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ได้ และมีวิถีชีวิตที่บริสุทธิ์สะอาด ผลก็คือทำให้โลก “นับถือ” ว่าเหนือเขา ดีกว่าเขา

การที่เขายอมรับ ทำให้เราอยู่กับเขาได้

การที่เขานับถือ ทำให้เรานำเขาได้

ถ้าต้องการแค่-อยู่กับเขาได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมาเป็นชาววัด เพราะเกิดมาเราก็เป็นชาวบ้าน อยู่กับเขาได้อยู่แล้ว

แต่เมื่อมาเป็นชาววัดแล้ว ก็ต้องรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ให้ได้และมีวิถีชีวิตที่บริสุทธิ์สะอาด ตลอดเวลาที่อยู่ในวิถีชาววัด อันจะเป็นเหตุทำให้เขานับถือและสามารถนำเขาได้

ถ้าไม่ทำอย่างนี้และไม่เป็นอย่างนี้ การสละวิถีชาวบ้านมาอยู่ในวิถีชาววัด-แม้จะเรียนจบทางโลกถึงระดับไหนก็ตาม-ก็ว่างเปล่าจากประโยชน์ที่ควรมีควรได้ในวิถีชีวิตชาววัด นับว่าน่าเสียดาย

ขอถวายกำลังใจชาววัดให้มีอุตสาหะรักษาวิถีชีวิตสงฆ์ไว้ให้ได้ และมีวิถีชีวิตที่บริสุทธิ์สะอาด เพื่อนำชาวโลก และนำพาพระพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์ให้ดำเนินไปเพื่อยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่โลกตลอดกาลนาน โดยทั่วกันเทอญ

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

๑๘:๐๒

……………………………………….

จะเอาแค่ให้เขายอมรับ

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *