วัฏโทษ (บาลีวันละคำ 3,618)
วัฏโทษ
ความผิดของวัฏฏะ
อ่านว่า วัด-ตะ-โทด
ประกอบด้วยคำว่า วัฏ + โทษ
(๑) “วัฏ”
บาลีเป็น “วฏฺฏ” อ่านว่า วัด-ตะ รากศัพท์มาจาก วฏฺฏ (ธาตุ = หมุน, วน) + อ (อะ) ปัจจัย
: วฏฺฏ + อ = วฏฺฏ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่กลม” “สิ่งที่หมุนเวียน”
“วฏฺฏ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) รอบ, กลม, วงกลม (round, circular; circle)
(2) หมุนไป, วงรอบของความเป็นอยู่, วัฏสงสาร, วิวัฒน์ (rolling on, the round of existences, cycle of transmigrations, evolution)
บาลี “วฏฺฏ” ภาษาไทยใช้เป็น “วัฏฏะ” และตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “วัฏ-” (กรณีมีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“วัฏ-, วัฏฏะ : (คำแบบ) (คำนาม) วงกลม; การหมุน, การเวียนไป, รอบแห่งการเวียนเกิดเวียนตาย.ว. กลม, เป็นวง. (ป.; ส. วฺฤตฺต).”
(๒) “โทษ”
บาลีเป็น “โทส” อ่านว่า โท-สะ รากศัพท์มาจาก ทุสฺ (ธาตุ = ประทุษร้าย, เกลียดชัง) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อุ ที่ ทุ-(สฺ) เป็น โอ (ทุสฺ > โทส)
: ทุสฺ + ณ = ทุสณ > ทุส > โทส (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การประทุษร้าย” “การเกลียดชัง” “เครื่องประทุษร้ายกัน” “เหตุทำให้เกลียดชังกัน”
“โทส” ในบาลีมีความหมาย 2 นัย คือ –
(1) ความชั่ว, มลทิน, ความผิด, สภาพไม่ดี, ความบกพร่อง; ความเลวร้าย, ความเสื่อมทราม (corruption, blemish, fault, bad condition, defect; depravity, corrupted state)
(2) โทสะ, ความโกรธ, ความประสงค์ร้าย, เจตนาร้าย, ความชั่วช้า, ความมุ่งร้าย, ความเกลียด (anger, ill-will, evil intention, wickedness, corruption, malice, hatred)
หรือจำสั้นๆ :
(1) ความชั่ว (corruption)
(2) ความโกรธ (anger)
บาลี “โทส” สันสกฤตเป็น “โทษ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“โทษ : (คำนาม) โทษ, ความผิด, พิรุทธ; บาป; โทษ, การละเมิด; ธาตุพิการ, หรือที่พิการ, และลมในร่างเดิรไม่สะดวก; fault, defect, blemish; sin; offence; transgression; disorder of the humours of the body or defect in the functions of the bile, and circulation of the mind.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “โทส” ตามบาลี และ “โทษ” ตามสันสกฤต บอกไว้ว่า –
(1) โทส-, โทสะ, โทโส : (คำนาม) ความโกรธ, ความฉุนเฉียว. (ป.; ส. โทษ).
(2) โทษ, โทษ– : (คำนาม) ความไม่ดี, ความชั่ว, เช่น โทษแห่งความเกียจคร้าน, ความผิด เช่น กล่าวโทษ, ผลแห่งความผิดที่ต้องรับ เช่น ถูกลงโทษ, ผลร้าย เช่น ยาเสพติดให้โทษ.ก. อ้างเอาความผิดให้ เช่น อย่าโทษเด็กเลย. (ส.; ป. โทส).
ในที่นี้ใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “โทษ” หมายถึง ความผิด (offence)
วฏฺฏ + โทส = วฏฺฏโทส (วัด-ตะ-โท-สะ) แปลว่า “ความผิดของวัฏฏะ”
“วฏฺฏโทส” เขียนแบบไทยเป็น “วัฏโทษ” อ่านว่า วัด-ตะ-โทด
รูปคำเทียบในภาษาไทย เช่น วัฏจักร วัฏทุกข์ วัฏสงสาร
คำว่า “วัฏโทษ” ยังไม่มีในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
คำว่า “วัฏโทษ” เป็นคำที่ผู้เขียนบาลีวันละคำคิดขึ้นโดยอาศัยข้อความตามเรื่องราวตอนหนึ่งในคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา
เรื่องย่อมีว่า พระเถระรูปหนึ่งได้รับนิมนต์ไปฉันที่บ้านของช่างเจียระไนเพชรทุกวันติดต่อกันมา 12 ปี วันหนึ่งทางวังส่งเพชรมาให้เจียระไน ประจวบเป็นเวลาที่ช่างเพชรกำลังหันเนื้อเพื่อปรุงเป็นภัตตาหาร ช่างเพชรรับเพชรแล้ววางไว้บนเขียง ลุกไปล้างมือหลังบ้าน
นกกระเรียนซึ่งเลี้ยงปล่อยภายในบ้านได้กลิ่นเนื้อก็มาจิกเนื้อบนเขียงกิน แล้วพลอยกลืนเพชรเข้าไปด้วย พระเถระซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลเห็นเหตุการณ์นี้โดยตลอด
ช่างเพชรกลับออกมาไม่เห็นเพชร ถามใครก็ไม่ได้ความ ก็เข้าใจว่าพระเถระคงจะเอาไปเพราะตรงนั้นไม่มีใครอีก จึงคาดคั้นพระเถระ
พระเถระปฏิเสธเพราะท่านไม่ได้เอาเพชรไป แต่ท่านก็ไม่บอกความจริง เพราะถ้าบอก นกกระเรียนก็ต้องตาย ช่างเพชรคาดคั้นถึงขั้นทำร้ายร่างกายพระเถระ ท่านก็ไม่พูดความจริง พอดีนกกระเรียนตัวนั้นเข้ามาป้วนเปี้ยนอีก ช่างเพชรกำลังโกรธ เตะนกกระเรียนตาย
นกตายแล้วพระเถระจึงบอกความจริง ท่านว่าถ้านกไม่ตาย แม้ตัวท่านจะต้องตายท่านก็จะไม่บอก
ช่างเพชรผ่าท้องนก เห็นเพชรอยู่ในท้องนกก็ตกใจและเสียใจที่ทำร้ายพระเถระซึ่งไม่มีความผิด พร้อมทั้งขอขมาโทษ
พระเถระตอบตามข้อความในคัมภีร์ว่า –
…………..
เนว ตุยฺหํ โทโส อตฺถิ,
น มยฺหํ,
วฏฺฏสฺเสว โทโส.
โยมไม่มีความผิดเลย
อาตมาก็ไม่มี
เป็นความผิดของวัฏฏะโดยแท้
ที่มา: มณิการกุลุปกติสฺสตฺเถรวตฺถุ
ธัมมปทัฏฐกถา ภาค 5 หน้า 34
…………..
ไขความ :
คำว่า “วฏฺฏสฺเสว โทโส” ถอดรูปออกมาเป็น “วัฏโทษ = ความผิดของวัฏฏะ” หมายความว่า เพราะยังเวียนว่ายตายเกิดจึงต้องประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ รวมทั้งความทุกข์ความเดือดร้อนอื่นๆ อีกสารพัดไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าจะเอาผิดกันให้ถึงที่สุด ก็ต้องเอาผิดกับวัฏฏะคือการเวียนว่ายตายเกิด อย่างนี้แหละจึงเรียกว่า “ความผิดของวัฏฏะ”
ดังนั้น ถ้าตัดวงจรการเวียนว่ายตายเกิดเสียได้ ก็เท่ากับตัดปัญหาทั้งหมดได้
ตัดวงจรการเวียนว่ายตายเกิดนี่แล คือเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: การแก้แค้น
: คือการผูกแค้น
#บาลีวันละคำ (3,618)
9-5-65
…………………………….