สมมงคล (บาลีวันละคำ 4,600)

สมมงคล
คำมงคล
อ่านว่า สะ-มะ-มง-คน
ประกอบด้วยคำว่า สม + มงคล
(๑) “สม”
“สม” อาจมีที่มาได้ 3 นัย คือ –
นัย 1 มาจากศัพท์ว่า “สม” (สะ-มะ) รากศัพท์มาจาก สมฺ (ธาตุ = ห้อย, ย้อย) + อ (อะ) ปัจจัย
: สมฺ + อ = สม แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่ห้อยอยู่” (คืออยู่เคียงคู่กัน)
นัย 2 คำเดิมมาจาก “สํ” (สัง) เป็นคำอุปสรรค ตำราบาลีไทยแปลว่า “พร้อม, กับ, ดี” หมายถึง พร้อมกัน, ร่วมกัน (together) แปลงนิคหิตเป็น มฺ (มะ)
: สํ > สมฺ > สม
นัย 3 คำเดิมมาจาก “ส” (สะ) แปลว่า “ของตน” (own) ลงนิคหิตอาคมแล้วแปลงนิคหิตเป็น มฺ (มะ)
: ส > สํ > สมฺ > สม
“สม” ในบาลีเป็นคุณศัพท์ (ถ้าเป็นนาม เป็นปุงลิงค์) ใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) เรียบ, ได้ระดับ (even, level)
(2) เหมือนกัน, เสมอกัน, อย่างเดียวกัน (like, equal, the same)
(3) เที่ยงธรรม, ซื่อตรง, มีจิตไม่วอกแวก, ยุติธรรม (impartial, upright, of even mind, just)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “สม” ไว้ 3 คำ บอกไว้ดังนี้ –
(1) สม ๑ : (คำวิเศษณ์) เหมาะ, เหมาะกับ, ควรแก่, เช่น บ่าวสาวคู่นี้สมกัน เขาแต่งตัวสมฐานะ แสดงละครได้สมบทบาท เขาต่อสู้กันอย่างสมศักดิ์ศรี เด็กคนนี้แต่งตัวไม่สมวัย, รับกัน เช่น หัวแหวนสมกับเรือนแหวน; ตรงกับ เช่น สมคะเน สมปรารถนา สมความตั้งใจ. (ภาษาปาก) สมน้ำหน้า เช่น สมแล้วที่สอบตก เพราะขี้เกียจนัก.
(2) สม ๒ : (คำวิเศษณ์) ใช้ประกอบกับคำกริยาบางคำมีความหมายว่า ร่วมด้วยกัน รวมกัน เช่น สมคิด สมรู้.
(3) สม– ๓ [สะมะ-, สมมะ-, สม-] : (คำวิเศษณ์) เท่ากัน, เสมอกัน.
ในที่นี้ “สม” ใช้ในคามหมายตามข้อ (3)
(๒) “มงคล”
เขียนแบบบาลีเป็น “มงฺคล” (มีจุดใต้ งฺ) อ่านว่า มัง-คะ-ละ รากศัพท์มาจาก –
(1) มคิ (ธาตุ = ถึง, ไป, เป็นไป) + อล ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมที่ ม-(คิ) แล้วแปลงนิคหิตเป็น งฺ (มคิ > มํคิ > มงฺคิ), ลบสระที่สุดธาตุ (มคิ > มค)
: มคิ > มํคิ > มงฺคิ > มงฺค + อล = มงฺคล แปลตามศัพท์ว่า (1) “เหตุให้ถึงความเจริญ” (2) “เหตุเป็นเครื่องถึงความบริสุทธิ์แห่งเหล่าสัตว์”
(2) มงฺค (บาป) + ลุ (ธาตุ = ตัด) + อ (อะ) ปัจจัย, ลบสระหน้า (คือ อุ ที่ ลุ ที่อยู่หน้า อ ปัจจัย : ลุ > ล)
: มงฺค + ลุ = มงฺคลุ > มงฺคล + อ = มงฺคล แปลตามศัพท์ว่า “เหตุที่ตัดความชั่ว”
“มงฺคล” (นปุงสกลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) มีฤกษ์งามยามดี, รุ่งเรือง, มีโชคดี, มีมหกรรมหรืองานฉลอง (auspicious, prosperous, lucky, festive)
(2) ลางดี, ศุภมงคล, งานรื่นเริง (good omen, auspices, festivity)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“มงคล, มงคล– : (คำนาม) เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ เช่น มงคล ๓๘, สิ่งซึ่งถือว่าจะนำสิริและความเจริญมาสู่และป้องกันไม่ให้สิ่งที่เลวร้ายมากล้ำกราย, เรียกงานที่จัดให้มีขึ้นเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข เช่น งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญวันเกิด ว่า งานมงคล; เรียกเครื่องรางของขลังที่เชื่อว่าจะนำความสุขความเจริญเป็นต้นมาให้ หรือป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ว่า วัตถุมงคล; สิ่งที่ทำเป็นวงด้วยด้ายเป็นต้นสำหรับสวมศีรษะเพื่อเป็นสิริมงคล นิยมใช้เฉพาะในเวลาชกมวยไทยหรือตีกระบี่กระบอง. (ป., ส.).”
“มงคล” ตามหลักพระพุทธศาสนาหมายถึง ธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
สม + มงฺคล = สมมงฺคล (สะ-มะ-มัง-คะ-ละ) > สมมงคล แปลว่า “งานมงคลเนื่องด้วยมีอายุเสมอหรือเท่ากัน” หมายถึง งานมงคลที่จัดขึ้นในโอกาสที่เจ้าของงานมีอายุเสมอหรือเท่ากันกับอายุของบรรพบุรุษคนสำคัญในตระกูล

ขยายความ :
ขอนำ หมายกำหนดการ พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช ๒๕๖๘ มาเสนอในที่นี้เพื่อเป็นอลังการแห่งความรู้ในคำว่า “สมมงคล” ดังนี้ –
หมายกำหนดการ
พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่า
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี
พุทธศักราช ๒๕๖๘
——————–
เลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้า ฯ สั่งว่า ในวันอังคารที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุได้ ๒๖,๔๖๙ วัน เป็นสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ดังนี้
วันอังคารที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๘ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเตรียมการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานในอภิลักขิตสมัยสมมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เชิญพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ออกประดิษฐาน ณ พระที่นั่งบุษบกมาลา และเชิญพระโกศพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ออกประดิษฐาน ณ พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน เครื่องพระบรมราชอิสริยราชูปโภค เครื่องนมัสการ เครื่องราชสักการะพร้อมสรรพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ เทียบรถยนต์พระที่นั่ง ที่ประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา เสด็จขึ้นท้องพระโรงพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๑ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี แด่พระสงฆ์ ๕ รูป ที่เจริญพระพุทธมนต์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องพระบรรทม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระแท่นราชบรรจถรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดรูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราชาคณะที่เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน ๗๓ รูป เท่าจำนวนปีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี และพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา ๑ รูป แล้วเจ้าพนักงานอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียน เครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ ๑ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
การแต่งกาย เต็มยศ สายสะพายมหาจักรี
ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
สำนักพระราชวัง
วันที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
ที่มา: ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 142 ตอนที่ 1 ลงวันที่ 10 มกราคม 2568
…………..
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/56949.pdf
…………..
อภิปราย :
“สมมงคล” อ่านตามหลักภาษาว่า สะ-มะ-มง-คน
ไม่ใช่ สม-มง-คน
โปรดดูที่คำว่า “สม-” ข้างต้น (สม- ๓) พจนานุกรมฯ บอกคำอ่านว่า สะมะ-, สมมะ-, สม-
ถ้าถือตามพจนานุกรมฯ คำว่า “สมมงคล” –
อ่านว่า สะ-มะ-มง-คน ก็ได้
อ่านว่า สม-มะ-มง-คน ก็ได้
อ่านว่า สม-มง-คน ก็ได้
คำว่า “สมมงคล” อ่านว่า สะ-มะ-มง-คน และ สม-มะ-มง-คน ควรยอมรับได้
แต่อ่านว่า สม-มง-คน ผู้เขียนบาลีวันละคำยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นการอ่านอย่างมักง่าย ไม่รับรู้หลักภาษา อ่านตามสะดวกปาก หรือตามที่เข้าใจเอาเอง
“สม” อ่านว่า สม เป็นการอ่านแบบคำไทย แต่ “สม” ในคำว่า “สมมงคล” ไม่ใช่คำไทย แต่เป็นคำบาลีสันสกฤต ต้องอ่านอย่างคำบาลีสันสกฤต คืออ่านว่า สะ-มะ- หรือ สม-มะ- จึงจะถูกต้อง
การศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจหลักพื้นฐานของภาษาที่ใช้กันอยู่ในภาษาของชาติตนเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย หรือสุดวิสัย เป็นเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ทุกคน
การศึกษาเรียนรู้หลักภาษาอันเป็นสมบัติวัฒนธรรมประจำชาติ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นชาติที่เจริญแล้ว

…………..
๏ เดชะพระไตรรัตน์
ทั้งศีลสัตย์สร้างเสริมส่ง
พระบารมีจักรีวงศ์
ทุกพระองค์เป็นธงชัย
๏ แรงรักแห่งทวยราษฎร์
หลอมรวมชาติสืบศาสน์สมัย
ร้อยถ้อยร้อยดวงใจ
ถวายไท้องค์ทศมินทร์
๏ ขอจงทรงพระเจริญ
พระชนม์เกินร้อยปีถวิล
พระกมลหมดมลทิน
ผ่องโสภินดั่งเพชรพราย
๏ ปรารถนาสารพัด
สมพระมนัสที่ทรงหมาย
สุขทวีมิมีวาย
พระบรมวงศ์ทรงพร้อมเพรียง
๏ พระบารมีที่ทรงสร้าง
ไป่โรยร้างรุ่งเรืองเรียง
บำรุงรัฐวัดวังเวียง
จักรีวงศ์ทรงพระเจริญ-เทอญ๚ะ๛
#บาลีวันละคำ (4,600)
15-1-68
…………………………….
…………………………….