สีลสามัญญตา (บาลีวันละคำ 3,612)
สีลสามัญญตา
ศีลเสมอกัน
อ่านว่า สี-ละ-สา-มัน-ยะ-ตา
ประกอบด้วยคำว่า สีล + สามัญญ + ตา
(๑) “สีล”
เป็นรูปคำบาลี อ่านว่า สี-ละ รากศัพท์มาจาก –
(1) สีลฺ (ธาตุ = สงบ, ทรงไว้) + อ (อะ) ปัจจัย
: สีลฺ + อ = สีล แปลตามศัพท์ว่า “เหตุสงบแห่งจิต” “เหตุให้ธำรงกุศลธรรมไว้ได้” “ธรรมที่ธำรงผู้ปฏิบัติไว้มิให้เกิดในอบาย”
(2) สิ (ธาตุ = ผูก) + ล ปัจจัย, ยืดเสียง (ทีฆะ) อิ ที่ สิ เป็น อี
: สิ + ล = สิล > สีล แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องผูกจิตไว้”
นัยหนึ่งนิยมแปลกันว่า “เย็น” หรือ “ปกติ” โดยความหมายว่า เมื่อไม่ละเมิดข้อห้ามก็จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นปกติเรียบร้อย
“สีล” หมายถึง :
(1) ข้อปฏิบัติทางศีลธรรม, นิสัยที่ดี, จริยธรรมในพุทธศาสนา, หลักศีลธรรม (moral practice, good character, Buddhist ethics, code of morality)
(2) ธรรมชาติ, นิสัย, ความเคยชิน, ความประพฤติ (nature, character, habit, behavior)
“สีล” ในบาลี เป็น “ศีล” ในสันสกฤต
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
(1) ศีล : (คำคุณศัพท์) มี; มีความชำนาญ; มีมรรยาทหรือจรรยาดี, มีอารมณ์ดี; endowed with, or possessed of; versed in; well-behaved, well-disposed.
(2) ศีล : (คำนาม) ชาติหรือปรกฤติ, คุณหรือลักษณะ; ภาวะหรืออารมณ์; สุศีล, จรรยา– มรรยาท– หรืออารมณ์ดี; การรักษาหรือประติบัทธรรมและจรรยาไว้มั่นและเปนระเบียบ; โศภา, ความงาม; งูใหญ่; nature, quality; disposition or inclination; good conduct or disposition; steady or uniform observance of law and morals; beauty; a large snake.
ในภาษาไทยนิยมใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “ศีล”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ศีล : (คำนาม) ข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนาที่กำหนดการปฏิบัติกายและวาจา เช่น ศีล ๕ ศีล ๘, การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม (ดู ทศพิธราชธรรม); พิธีกรรมบางอย่างทางศาสนา เช่น ศีลจุ่ม ศีลมหาสนิท. (ส. ศีล ว่า ความประพฤติที่ดี; ป. สีล).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
…………..
ศีล : ความประพฤติดีทางกายและวาจา, การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย, ข้อปฏิบัติสำหรับควบคุมกายและวาจาให้ตั้งอยู่ในความดีงาม, การรักษาปกติตามระเบียบวินัย, ปกติมารยาทที่ปราศจากโทษ, ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกายวาจาให้ดียิ่งขึ้น, ความสุจริตทางกายวาจาและอาชีพ; มักใช้เป็นคำเรียกอย่างง่ายสำหรับคำว่า อธิศีลสิกขา (ข้อ ๑ ในไตรสิกขา, ข้อ ๒ ในบารมี ๑๐, ข้อ ๒ ในอริยทรัพย์ ๗, ข้อ ๒ ในอริยวัฑฒิ ๕)
…………..
ในที่นี้ใช้ตามรูปบาลีเป็น “สีล”
(๒) “สามัญญ”
เขียนแบบบาลีเป็น “สามญฺญ” อ่านว่า สา-มัน-ยะ รากศัพท์มาจาก –
(1) สมาน (สะ-มา-นะ, เสมอกัน, เหมือนกัน, เหมาะสมกัน) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ, ทีฆะ อะ ที่ ส-(มาน) เป็น อา– ด้วยอำนาจ ณฺย ปัจจัย (สมาน > สามาน), แปลง อาน (ที่ –มาน) กับ ย เป็น ญฺญ
: สมาน + ณฺย = สมานณฺย > สมานฺย > สามานฺย > สามญฺญ (สา-มัน-ยะ) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เสมอกัน”
(2) สม (สะ-มะ, เสมอกัน, เหมาะสมกัน) + ณฺย ปัจจัย, ทีฆะ อะ ที่ ส-(ม) เป็น อา– ด้วยอำนาจ ณฺย ปัจจัย (สม > สาม), แปลง ณฺย เป็น ญฺญ
: สม + ณฺย = สมณฺย > สามณฺย > สามญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เสมอกัน”
“สามญฺญ” ตามรากศัพท์นี้หมายถึง –
(1) สามัญ, ความเสมอกัน, การอนุวัตตาม (generality; equality, conformity)
(2) ความเป็นหนึ่ง, วงสมาคม (unity, company)
ในภาษาไทยตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “สามัญ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สามัญ ๒ : (คำวิเศษณ์) ปรกติ, ธรรมดา, เช่น ชนชั้นสามัญ คนสามัญ. (ป. สามญฺญ; ส. สามานฺย).”
ในที่นี้ใช้ตามรูปเดิมในบาลีเป็น “สามัญญ”
(๓) “ตา”
เป็นปัจจัยตัวหนึ่ง ในบาลีไวยากรณ์อยู่ในส่วนที่เรียกว่า “ตัทธิต” (ตัด-ทิด) ตา-ปัจจัยเป็นปัจจัยในภาวตัทธิต แทนศัพท์ว่า “ภาว” (ความเป็น) ใช้ต่อท้ายศัพท์ ทำให้เป็นคำนาม แปลว่า “ความเป็น–” เทียบกับภาษาอังกฤษก็คล้ายกับ -ness -ation หรือ -ity นั่นเอง เช่น –
happy แปลว่า สุข สบาย
happiness แปลว่า ความสุข
การประสมคำ :
๑ สามญฺญ + ตา = สามญฺญตา (สา-มัน-ยะ-ตา) แปลว่า “ความเป็นผู้เสมอกัน”
๒ สีล + สามญฺญตา = สีลสามญฺญตา (สี-ละ-สา-มัน-ยะ-ตา) แปลว่า “ความเป็นผู้เสมอกันด้วยศีล” หมายถึง มีศีลเท่ากัน
อธิบายเทียบเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น –
มีความรู้เท่ากัน เรียกว่า ความเป็นผู้เสมอกันด้วยความรู้
มีตำแหน่งเท่ากัน เรียกว่า ความเป็นผู้เสมอกันด้วยตำแหน่ง
มีทรัพย์สมบัติเท่ากัน เรียกว่า ความเป็นผู้เสมอกันด้วยทรัพย์สมบัติ
ดังนั้น มีศีลเท่ากัน จึงเรียกว่า ความเป็นผู้เสมอกันด้วยศีล
“สีลสามญฺญตา” เขียนแบบไทยเป็น “สีลสามัญญตา” ว่าตามหลักนิยมในภาษาไทยควรจะตัด ญ ออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “สีลสามัญตา” แต่ท่านถือว่าคำนี้เป็นศัพท์เฉพาะทางวิชาการ จึงคงไว้ตามรูปเดิมในบาลี
“สีลสามัญญตา” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [273] สารณียธรรม 6 (ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง, ธรรมเป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน, ธรรมที่ทำให้เกิดความสามัคคี, หลักการอยู่ร่วมกัน) หลักธรรมข้อที่ 5. สีลสามัญญตา ขยายความไว้ดังนี้ –
…………..
5. สีลสามัญญตา (มีศีลบริสุทธิ์เสมอกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง คือ มีความประพฤติสุจริตดีงาม ถูกต้องตามระเบียบวินัย ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจของหมู่คณะ — Sīlasāmaññatā: to keep without blemish the rules of conduct along with one’s fellows, openly and in private)
…………..
“สีลสามัญญตา” ตรงกับที่เราพูดกันว่า “มีศีลเสมอกัน” คำนี้ใช้ในด้านดีเท่านั้น คน 2 คน ชักชวนกันทำชั่วทำผิด จะเรียกว่ามีศีลเสมอกันหาได้ไม่ อาจเรียกล้อได้ว่า “ทุศีลเสมอกัน”
คำที่มักมาคู่กับ “สีลสามัญญตา” คือ “ทิฏฐิสามัญญตา” (ทิด-ถิ-สา-มัน-ยะ-ตา) แปลว่า “ความเป็นผู้เสมอกันด้วยความเห็น” หลักธรรม 2 ข้อนี้จำเป็นอย่างยิ่งในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: คนชั่ว อาจมีบางส่วนที่น่าชม
: แต่ความชั่ว ไม่มีส่วนไหนเลยที่น่าชม
#บาลีวันละคำ (3,612)
3-5-65
…………………………….
…………………………….