อปฺปมาเทน (บาลีวันละคำ 3,624)
อปฺปมาเทน
วันวิสาขบูชา
เรียนบาลีถวายเป็นพุทธบูชา
อ่านว่า อับ-ปะ-มา-เท-นะ
“อปฺปมาเทน” เป็นคำบาลีที่ประกอบวิภัตติแล้ว รูปคำเดิมคือ “อปฺปมาท” อ่านว่า อับ-ปะ-มา-ทะ รากศัพท์มาจาก น + ปมาท
(๑) “น” บาลีอ่านว่า นะ เป็นคำจำพวก “นิบาต” คำจำพวกนี้ไม่แจกด้วยวิภัตติปัจจัย คือคงรูปเดิมเสมอ อาจเปลี่ยนรูปโดยวิธีสนธิกับคำอื่นบ้าง แต่คงถือว่าเป็นคำเดิมเพราะเวลาแปลต้องแยกคำออกเป็นคำเดิมเสมอ
นักเรียนบาลีมักท่องจำรวมกับคำอื่นในกลุ่มเดียวกันว่า –
…………..
น (นะ) =ไม่
โน = ไม่
มา = อย่า
ว (วะ) = เทียว
…………..
“น” เป็นนิบาตบอกความปฏิเสธ แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not)
หมายเหตุ: รูปศัพท์ที่ตาเห็นคือ “อปฺปมาท” ควรจะบอกว่า รากศัพท์มาจาก อ (อะ) + ปมาท แต่เนื่องจาก อ (อะ) ในที่นี้ไม่ใช่ศัพท์เดิมที่มีอยู่จริง หากแต่เป็นคำที่แปลงมาจาก “น” (นะ) อีกทีหนึ่ง ดังนั้น จึงบอกลึกเข้าไปถึงคำเดิมทีเดียว ไม่ต้องบอกเป็น 2 ขยัก
(๒) “ปมาท”
อ่านว่า ปะ-มา-ทะ รากศัพท์มาจาก ป (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + มทฺ (ธาตุ = เมา, มัวเมา) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, “ทีฆะต้นธาตุ” คือ อะ ที่ ม-(ทฺ) เป็น อา (มทฺ > มาท)
: ป + มทฺ = ปมทฺ + ณ = ปมทฺณ > ปมทฺ > ปมาท (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ภาวะเป็นเหตุให้ไม่ทำกิจที่พึงทำด้วยตนเองแห่งบุคคลผู้แม้จะมีความสามารถ” (2) “ความเมาทั่ว”
คำแปลตามศัพท์ที่ว่า “ภาวะเป็นเหตุให้ไม่ทำกิจที่พึงทำด้วยตนเองแห่งบุคคลผู้แม้จะมีความสามารถ” หมายความว่า กิจที่มนุษย์ควรทำเพราะเป็นความดีงาม คนบางคนสามารถทำกิจเช่นว่านั้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ทำ ทั้งอ้างเหตุต่างๆ ที่จะไม่ทำ นี่คือ “ปมาท”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายของ “ปมาท” ไว้ดังนี้ –
“ปมาทะ : ความประมาท, ความขาดสติ, ความเลินเล่อ, ความเผอเรอ, ความเผลอ, ความผัดเพี้ยน, ความปล่อยปละละเลย, ความชะล่าใจ; เทียบ อัปปมาทะ.”
บาลี “ปมาท” สันสกฤตเป็น “ปฺรมาท”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ปฺรมาท : (คำนาม) ‘ประมาท,’ อนวธาน, ความเลินเล่อ, ความผิด; ความเมา; ความเสียจริต; inadvertence, carelessness, error, inaccuracy; intoxication; insanity.”
บาลี “ปมาท” ภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “ประมาท”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า –
“ประมาท : (คำกริยา) ขาดความรอบคอบ, ขาดความระมัดระวังเพราะทะนงตัว, เช่น เวลาขับรถอย่าประมาท; ดูหมิ่น เช่น ประมาทฝีมือ. (คำนาม) ความเลินเล่อ, การขาดความระมัดระวัง, เช่น ขับรถโดยประมาท; (คำที่ใช้ในกฎหมาย) กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่. (ส. ปฺรมาท; ป. ปมาท).”
ในทางธรรม “ปมาท” มีความหมายลึกและละเอียดกว่าที่พจนานุกรมฯ นิยามไว้ ท่านจำกัดความคำว่า “ปมาท” ไว้ว่า “สติโวสฺสคฺค” = “การปล่อยสติ” หมายถึง การลดละความตั้งใจ, ความไม่ตั้งใจ, ความไม่เอาใจใส่ (relaxation of attention, inattention, indifference)
พูดสั้นๆ ว่า ประมาทคือขาดสติ
…………..
น + ปมาท มีกฎดังนี้ –
(1) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ให้แปลง น เป็น อ (อะ)
(2) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ คือ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ให้แปลง น เป็น อน (อะ-นะ)
ในที่นี้ “ปมาท” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ คือ ป– จึงแปลง น เป็น อ และซ้อน ปฺ ระหว่างบทหน้ากับบทหลัง
: น + ปฺ + ปมาท = นปฺปมาท > อปฺปมาท (อับ-ปะ-มา-ทะ) แปลว่า “ความไม่ประมาท” หมายถึง ความรอบคอบ, ความจดจ่อ, ความระวังระไว (earnestness, vigilance, zeal)
“อปฺปมาท” แจกด้วยวิภัตตินามที่สาม (ตติยาวิภัตติ) เอกพจน์ ปุงลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “อปฺปมาเทน” แปลว่า “ด้วยความไม่ประมาท”
ขยายความ :
เมื่อพระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพานได้มีพระพุทธดำรัสเป็นพระวาจาครั้งสุดท้ายที่เรียกว่า “ปัจฉิมพุทโธวาท” สั้นๆ เพียง 2 คำ (มหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 143) คือ –
…………..
อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
…………..
อ่านว่า อับ-ปะ-มา-เท-นะ สำ-ปา-เท-ถะ
พระไตรปิฎกแปลฉบับหลวงแปลว่า “พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด”
พระไตรปิฎกแปลฉบับมหาจุฬาฯ แปลว่า “เธอทั้งหลายจงทำหน้าที่ให้สำเร็จด้วยความไม่ประมาทเถิด”
“ปัจฉิมพุทโธวาท” นี้ ผู้เขียนบาลีวันละคำไม่ได้แปลใหม่ เพียงแต่ยกคำแปลเดิมที่ท่านแปลไว้มาให้ได้ศึกษากัน
ขอให้สังเกตว่า “อปฺปมาเทน” –
พระไตรปิฎกแปลฉบับหลวงแปลว่า “ยังความไม่ประมาท”
พระไตรปิฎกแปลฉบับมหาจุฬาฯ แปลว่า ด้วยความไม่ประมาท”
นักเรียนบาลีอาจจะอธิบายได้ว่าแปลไม่เหมือนกันก็จริง แต่ก็ไม่ผิดหลักภาษาบาลีเพราะเหตุผลอย่างนี้ๆ
ส่วนผู้ที่ไม่ได้เรียนบาลีก็เพียงรับทราบไว้ ผู้เขียนบาลีวันละคำจะอธิบายในที่นี้ก็จะยืดยาวมากไป แล้วก็คงจะไม่เข้าใจอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเข้าใจก็ต้องเรียนบาลี
…………..
คัมภีร์อรรถกถาอธิบายความตอนนี้ไว้ว่า –
(คำบาลียกมาจากคัมภีร์ คำแปลผู้เขียนบาลีวันละคำแปลเอง)
…………..
อปฺปมาเทน สมฺปาเทถาติ สติอวิปฺปวาเสน สพฺพกิจฺจานิ สมฺปาเทยฺยาถ ฯ
คำว่า อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ หมายความว่า จงยังกิจทั้งปวงให้สำเร็จด้วยความไม่ประมาทคืออย่าขาดสติ
…………..
แปลยกศัพท์ :
…………..
สพฺพกิจฺจานิ
ยังกิจทั้งปวง
สมฺปาเทยฺยาถ
จงให้สำเร็จ
สติอวิปฺปวาเสน
ด้วยความไม่ประมาทคืออย่าขาดสติ
…………..
อิติ ภควา ปรินิพฺพานมญฺเจ นิปนฺโน ปญฺจจตฺตาลีสวสฺสานิ ทินฺนํ โอวาทํ สพฺพํ เอกสฺมึ อปฺปมาทปเทเยว ปกฺขิปิตฺวา อทาสิ ฯ
พระผู้มีพระภาคทรงบรรทมที่เตียงปรินิพพาน ประทานพระโอวาทที่ประทานมา 45 พรรษา ทั้งหมดรวมลงในคำว่า “ไม่ประมาท” คำเดียวเท่านั้น ด้วยประการฉะนี้
…………..
แปลยกศัพท์ :
…………..
ภควา
พระผู้มีพระภาค
นิปนฺโน
ทรงบรรทม
ปรินิพฺพานมญฺเจ
ที่เตียงปรินิพพาน
อทาสิ
ประทาน
โอวาทํ
พระโอวาท
ทินฺนํ
ที่ประทานมา
ปญฺจจตฺตาลีสวสฺสานิ
45 พรรษา
สพฺพํ
ทั้งหมด
ปกฺขิปิตฺวา
รวมลง
เอกสฺมึ อปฺปมาทปเทเยว
ในคำว่า “ไม่ประมาท” คำเดียวเท่านั้น
อิติ
ด้วยประการฉะนี้
ที่มา: สุมังคลวิลาสินี ภาค 2 หน้า 328
…………..
ดูก่อนภราดา!
: บาลีบอกให้เรารู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
: แต่การเป็นคนดีหรือคนชั่ว เราทำตัวของเราเอง
#บาลีวันละคำ (3,624)
15-5-65
…………………………….
…………………………….