บาลีวันละคำ

รัฐนโยบาย (บาลีวันละคำ 4,716)

รัฐนโยบาย

ไม่รู้ว่าใครคิดคำนี้ขึ้นมา

อ่านตามหลักภาษาว่า รัด-ถะ-นะ-โย-บาย

แบบเดียวกับ “รัฐบาล” เราอ่านว่า รัด-ถะ-บาน ไม่ใช่ รัด-บาน

รัฐนโยบาย” ก็อ่านว่า รัด-ถะ-นะ-โย-บาย ไม่ใช่ รัด-นะ-โย-บาย

ประกอบด้วยคำว่า รัฐ + นโยบาย 

(๑) “รัฐ

บาลีเป็น “รฏฺฐ” อ่านว่า รัด-ถะ รากศัพท์มาจาก –

(1) รฐฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + ปัจจัย, แปลง ฐต (คือ ที่ ร + ปัจจัย)เป็น ฏฐ ( –ฐต > –ฏฺฐ)

: รฐฺ + = รฐต > รฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “ดินแดนเป็นที่เป็นไปแห่งชาวเมือง” 

(2) รชิ (ธาตุ = เจาะ, ทำลาย) + ปัจจัย, ลบสระท้ายธาตุ (รชิ > รช), แปลง ชต เป็น ฏฐ

: รชิ > รช + = รชต > รฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “ดินแดนเป็นเหตุให้พระราชาทั้งหลายทำลายป้อมค่ายกัน” (ในการเข้ายื้อแย่งเพื่อยึดครองดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง)

รฏฺฐ” ความหมายที่เข้าใจกันก็คือ ดินแดน, อาณาจักร, ประเทศ, แผ่นดิน, บ้านเมือง 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “รฏฺฐ” ว่า reign, kingdom, empire; country, realm (รัฐ, อาณาจักร, จักรวรรดิ, ประเทศ, แผ่นดิน) 

ในภาษาไทย ท่านให้ตัด ปฏัก ออก “รฏฺฐ” จึงเขียนเป็น “รัฐ” ถ้าอยู่ท้ายคำ อ่านว่า รัด (เคยมีนิยมพูดกันเป็น รัด-ถะ อยู่บ้าง) ถ้ามีคำอื่นมาสมาสข้างท้ายอ่านว่า รัด-ถะ- เช่นในคำว่า “รัฐบาล” อ่านว่า รัด-ถะ-บาน 

รัฐ” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

รัฐ, รัฐ– : (คำนาม) แคว้น เช่น รัฐปาหัง, บ้านเมือง เช่น กฎหมายสูงสุดของรัฐ, ประเทศ เช่น รัฐวาติกัน. (ป. รฏฺฐ; ส. ราษฺฏฺร).”

(๒) “นโยบาย” 

อ่านว่า นะ-โย-บาย แยกศัพท์เป็น นย + อุบาย 

(ก) “นย” อ่านว่า นะ-ยะ รากศัพท์มาจาก นี (ธาตุ = นำไป, แนะนำ, รู้) + (อะ) ปัจจัย, แผลง อี ที่ นี เป็น เอ แล้วแปลง เอ เป็น อย (นี > เน > นย)

: นี > เน > นย + = นย แปลตามศัพท์ว่า (1) “การนำ” (leading) (2) “การเป็นไป” (3) “อุบายเป็นเครื่องแนะนำ” (4) “วิธีที่พึงแนะนำ” (5) “วิธีเป็นเหตุให้รู้” 

นย” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ – 

(1) หนทาง, วิธีการ, แผน, วิธี (way, method, plan, manner)

(2) การอนุมาน (inference) 

(3) นัย, ความหมาย [ในไวยากรณ์] (sense, meaning [in grammar])

(4) ความประพฤติ (behaviour, conduct) 

นย” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้เป็น “นย-” (มีคำอื่นสมาสข้างท้าย) “นยะ” และ “นัย” บอกไว้ดังนี้ –

(1) นย-, นยะ : (คำนาม) เค้าความที่ส่อให้เข้าใจเอาเอง. (ป., ส.).

(2) นัย : (คำนาม) ข้อสําคัญ เช่น นัยแห่งเรื่องนี้; ความ, ความหมาย, เช่น หลายนัย; แนว, ทาง, เช่น ตีความได้หลายนัย; แง่ เช่น อีกนัยหนึ่ง. (ป. นย).

(ข) “อุบาย” อ่านว่า อุ-บาย บาลีเป็น “อุปาย” อ่านว่า อุ-ปา-ยะ รากศัพท์คือ อุป (คำอุปสรรค = เข้าไป, ใกล้, มั่น) + อิ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + (อะ) ปัจจัย, แผลง อิ เป็น เอ, แปลง เอ เป็น อาย (อิ > เอ > อาย

: อุป + อิ > เอ > อาย = อุปาย + = อุปาย (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “กลวิธีเป็นเหตุให้ถึงความชนะศัตรู” “วิธีเป็นเหตุให้เข้าถึง” “การเข้าใกล้” หมายถึง หนทาง, วิธี, กลวิธี, เล่ห์กล, เล่ห์เหลี่ยม (way, means, expedient, stratagem)

บาลี “อุปาย” สันสกฤตก็เป็น “อุปาย

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

อุปาย : (คำนาม) ‘อุบาย,’ เล่ห์กล, ทาง; เครื่องอาศรัยเอาชัยชนะแก่ฆ่าสึก การเข้าหา; a means, an expedient, a way; a means of success against an enemy; approach.”

อุปาย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อุบาย” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

อุบาย : (คำนาม) วิธีการอันแยบคาย; เล่ห์กล, เล่ห์เหลี่ยม. (ป., ส. อุปาย).”

นย + อุบาย = นโยบาย 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

นโยบาย : (คำนาม) หลักและวิธีปฏิบัติซึ่งถือเป็นแนวดำเนินการ. (ป. นย + อุปาย).”

พจนานุกรมฯ บอกว่า “นโยบาย” มาจากคำบาลี นย + อุปาย ถ้าเป็นรูปบาลีก็จะเป็น “นโยปาย” อ่านว่า นะ-โย-ปา-ยะ 

ตรวจดูในคัมภีร์บาลี ยังไม่พบศัพท์ที่มีรูปเช่นนี้ พบที่ใกล้เคียงที่สุดคือ “วินโยปาย-” คือ วินย + อุปาย ศัพท์เต็มว่า “วินโยปายโกวิท” แปลว่า “ผู้ฉลาดในการแนะนำการปฏิบัติพระวินัย” (“วินัย” เป็นคนละคำกับ “นัย”)

เป็นอันว่า คำว่า “นโยบาย” เป็นคำที่บัญญัติขึ้นใช้ในภาษาไทย ยังไม่พบในคัมภีร์บาลี ท่านผู้ใดพบ กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

รัฐ + นโยบาย = รัฐนโยบาย (รัด-ถะ-นะ-โย-บาย) แปลจากหลังมาหน้าว่า “นโยบายของรัฐ” หรือว่า “นโยบายของรัฐบาล” หมายถึง แนวดำเนินการซึ่งรัฐบาลกำหนดขึ้น

ขยายความ :

ถามว่า ถ้าต้องการให้มีความหมายว่า “นโยบายของรัฐบาล” ทำไมไม่ใช้ว่า “นโยบายรัฐ” ตรง ๆ จะต้องเล่นคำให้เป็น “รัฐนโยบาย” ทำไม

ตอบว่า ถ้าใช้ว่า “นโยบายรัฐ” ก็จะกลายเป็นคำประสมแบบไทยหรือเป็นคำแปล ไม่ใช่คำศัพท์ แต่ถ้าใช้ “รัฐนโยบาย” จะเป็นคำสมาสแบบบาลี เข้าใจว่าผู้คิดคำนี้ต้องการให้เป็นคำศัพท์ จึงใช้ว่า “รัฐนโยบาย

สรุปว่า –

รัฐนโยบาย” เป็นคำศัพท์ 

นโยบายรัฐ” เป็นคำแปล แปลชัด ๆ ว่า นโยบายของรัฐบาล

ที่ว่ามานี้เป็นเดาใจหรืออ่านใจผู้คิดคำนี้ขึ้นมา ถ้าเดาผิด ก็หวังว่าคงจะมีคำอธิบาย

ผู้เขียนบาลีวันละคำเห็นคำว่า “รัฐนโยบาย” ก็รู้สึกชอบตั้งแต่แรก เป็นคำศัพท์เชิงวิชาการที่ช่วยให้มองเห็นภาพการกระทำต่าง ๆ ของผู้มีอำนาจในรัฐบาล (หรือมีอำนาจเหนือรัฐบาล) ได้กระจ่างแจ้งดีมาก

รัฐนโยบาย” ขยายความเป็นภาษาชาวบ้าน ๆ ก็คือ-ก็ข้าจะเอาอย่างนี้ ใครจะทำไม

ใครสงสัยอะไร บอกว่าเป็น “รัฐนโยบาย” คำเดียว จบ

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ผู้มีอำนาจส่วนน้อย สละตนเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง

: ผู้มีอำนาจส่วนมาก สละบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของตน

#บาลีวันละคำ (4,716)

11-5-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *