บาลีวันละคำ

อริยุปวาท (บาลีวันละคำ 3,620)

อริยุปวาท

นรกใกล้ตัว

อ่านว่า อะ-ริ-ยุ-ปะ-วาท

ประกอบด้วยคำว่า อริย + อุปวาท

(๑) “อริย” 

อ่านว่า อะ-ริ-ยะ รากศัพท์มาจาก –

(1) อรห = “ผู้ฆ่าข้าศึกคือกิเลส”, แปลง ที่ และ เป็น อิย

: (อร + อห = ) อรห : อห > อิย : อร + อิย = อริย แปลเท่ากับคำว่า “อรห” คือ “ผู้ฆ่าข้าศึกคือกิเลส

(2) อรฺ (ธาตุ = ถึง, บรรลุ) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ, ลง อิ อาคม

: อรฺ + อิ = อริ + ณฺย > = อริย แปลว่า “ผู้บรรลุธรรมคือมรรคและผล

(3) อารก = “ผู้ไกลจากกิเลส”, แปลง อารก เป็น อริย แปลเท่ากับคำว่า “อารก” คือ “ผู้ไกลจากกิเลส

(4) อรฺ (ธาตุ = ถึง, บรรลุ) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ, ลง อิ อาคม [เหมือน (2)] แปลว่า “ผู้อันชาวโลกพึงเข้าถึง

(5) อริย = “ผลอันประเสริฐ” + ปัจจัย, ลบ  

: อริย + = อริยณ > อริย แปลว่า “ผู้ยังชาวโลกให้ได้รับผลอันประเสริฐ

สรุปว่า “อริย” แปลว่า –

(1) ผู้ฆ่าข้าศึกคือกิเลส

(2) ผู้บรรลุธรรมคือมรรคและผล

(3) ผู้ไกลจากกิเลส

(4) ผู้อันชาวโลกพึงเข้าไปใกล้

(5) ผู้ยังชาวโลกให้ได้รับผลอันประเสริฐ

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ประมวลความหมายของ “อริย” ไว้ดังนี้ –

๑ ทางเชื้อชาติ: หมายถึง ชาติอารยัน (racial: Aryan)

๒ ทางสังคม: หมายถึง ผู้ดี, เด่น, อริยชาติ, สกุลสูง (social: noble, distinguished, of high birth)

๓ ทางจริยศาสตร์: หมายถึง ถูกต้อง, ดี, ดีเลิศ (ethical: right, good, ideal)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อริย-, อริยะ : (คำนาม) ในพระพุทธศาสนา เรียกบุคคลผู้บรรลุธรรมวิเศษ มีโสดาปัตติมรรคเป็นต้น ว่า พระอริยะ หรือ พระอริยบุคคล. (คำวิเศษณ์) เป็นของพระอริยะ, เป็นชาติอริยะ; เจริญ, เด่น, ประเสริฐ.”

(๒) “อุปวาท

บาลีอ่านว่า อุ-ปะ-วา-ทะ รากศัพท์มาจาก อุป (คำอุปสรรค= เข้าไป, ใกล้, มั่น) + วทฺ (ธาตุ = พูด) + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะต้นธาตุ คือ อะ ที่ -(ทฺ) เป็น อา (วทฺ > วาท)

: อุป + วทฺ = อุปวทฺ + = อุปวทฺณ > อุปวท > อุปวาท (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การพูดโดยกล่าวโทษ” หมายถึง ดูหมิ่น, ติเตียน; ว่าร้าย, หาเรื่อง (insulting, railing; blaming, finding fault)

อุปวาท” ที่เราน่าจะพอคุ้นอยู่บ้างก็คือคำในโอวาทปาติโมกข์ที่ว่า “อนูปวาโท อนูปฆาโต” = การไม่ว่าร้าย การไม่ทำร้าย

อนูปวาโท” ก็คือ (ไม่, ไม่ใช่) > อน + อุปวาท = อนูปวาท 

อริย + อุปวาท = อริยุปวาท อ่านแบบบาลีว่า อะ-ริ-ยุ-ปะ-วา-ทะ อ่านแบบไทยว่า อะ-ริ-ยุ-ปะ-วาด แปลว่า “การว่าร้ายพระอริยะ” หมายถึงการตำหนิติเตียนอริยบุคคล

ขยายความ :

“อริยบุคคล” หมายถึง บุคคลผู้เป็นอริยะ, ท่านผู้บรรลุธรรมวิเศษมีโสดาปัตติมรรคเป็นต้น มี 4 คือ –

1 พระโสดาบัน 

2 พระสกทาคามี (หรือสกิทาคามี) 

3 พระอนาคามี 

4 พระอรหันต์

อริยบุคคล 3 ข้างต้นมีทั้งที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ แต่อริยบุคคลที่ 4 มีแต่ที่เป็นบรรพชิต (คฤหัสถ์บรรลุธรรมถึงระดับพระอรหันต์ต้องบวชในวันนั้นหรือไม่ก็ดับขันธ์ในวันนั้น)

ในคัมภีร์ท่านขยายความคำว่า “อริยุปวาท” ไว้ดังนี้ –

…………..

อริยานํ  อุปวาทกาติ  พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ  อริยานํ  อนฺตมโส  คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ  อนตฺถกามา  หุตฺวา  อนฺติมวตฺถุนา  วา  คุณปริทฺธํสเนน  วา  อุปวาทกา  อกฺโกสกา  ครหกาติ  วุตฺตํ  โหติ  ฯ

คำว่า “อริยานํ  อุปวาทกา” (ผู้ว่าร้ายพระอริยะ) หมายถึง คนที่ประสงค์ร้าย กล่าวใส่ร้าย ด่าทอ ติเตียนพระอริยเจ้าทั้งหลาย คือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกของพระพุทธเจ้า ชั้นที่สุดแม้คฤหัสถ์ผู้เป็นโสดาบัน ไม่ว่าจะด้วยข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นพระจริง หรือเหยียดหยามว่าไม่ได้บรรลุคุณธรรมจริงก็ตาม

โส  จ  ชานํ  วา  อุปวเทยฺย  อชานํ  วา  อุภยถาปิ  อริยูปวาโท ว  โหติ  ฯ 

และผู้ว่าร้ายนั้นจะทำไปโดยรู้ความจริงหรือไม่รู้ความจริงก็ตาม ย่อมจัดเป็น “อริยุปวาท” ทั้งสองสถาน

ภาริยํ  กมฺมํ  สคฺคาวรณํ  มคฺคาวรณญฺจ  ฯ

อริยุปวาทเป็นกรรมหนัก เป็นทั้งสัคคาวรณ์ (ห้ามสวรรค์ คือทำบุญขนาดไหนก็ไปเกิดในสวรรค์ไม่ได้) ทั้งมัคคาวรณ์ (ห้ามมรรคผล คือปฏิบัติธรรมขนาดไหนก็บรรลุมรรคผลไม่ได้)

ที่มา: สมันตปาสาทิกา อรรถกถาวินัยปิฎก ภาค 1 หน้า 185

…………..

ดูก่อนภราดา!

: อย่าเหยียบพระอริยะกันง่ายๆ

: และอย่ายกว่าเป็นอริยะกันง่ายๆ

#บาลีวันละคำ (3,620)

11-5-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *