นั่งพับเพียบ
นั่งพับเพียบ
———
ผมไปทำบุญที่วัดมหาธาตุราชบุรีทุกวันพระ ปรากฏว่าคนที่ไปทำบุญนั่งเก้าอี้กันหมดแล้ว
เมื่อหลายปีมาแล้วคนที่ไปทำบุญนั่งกับพื้นยังเห็นอยู่มาก โดยเฉพาะแม่ชีสำนักประชุมนารีเวลามาทำบุญนั่งกับพื้นกันทั้งนั้น
เวลานี้แม่ชีก็เลื่อนขึ้นไปนั่งเก้าอี้กันหมดแล้ว
พระคุณท่านที่อยุธยา ท่านโพสต์ภาพคนไปทำบุญที่วัดของท่านบ่อยๆ ปรากฏว่าคนไปทำบุญที่วัดนั้นนั่งกับพื้นกันทั้งนั้น
เห็นแล้วก็ชื่นใจ อนุโมทนาสาธุ
อนุโมทนาทำไม?
การนั่งกับพื้นเป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง
พูดอย่างนี้ท่านที่เป็นคนหัวสมัยใหม่คงอยากแย้งว่า โลกก้าวหน้าไปมากแล้ว เลิกบ้าวัฒนธรรมชาติกันเสียทีเถอะ โลกควรมีวัฒนธรรมเดียวคือวัฒนธรรมโลก วัฒนธรรมสากล
ไม่ต้องมาเสียเวลาปกป้องวัฒนธรรมไทย
แต่งกายแบบไทย
กินอาหารไทย
ฟังเพลงไทย
ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
อยู่อย่างไทย
กิริยามารยาทแบบไทย
นี่ก็จะเกณฑ์ให้นั่งพับเพียบกันอีก
เลิกบ้ากันทีเถอะ
มนุษย์ควรมีวัฒนธรรมเดียวคือวัฒนธรรมสากล
ใครอยากถกเถียงประเด็นนี้ กรุณาจำไว้ แล้วยกเอาไปตั้งเป็นประเด็นว่ากันอีกเวทีหนึ่ง
ตอนนี้ผมอยากพูดเฉพาะประเด็นนี้ประเด็นเดียว-คือเรื่องนั่งกับพื้น
——————–
ผมเป็นเด็กวัดตั้งแต่ประมาณปี ๒๔๙๕-๙๖
ขอยืนยันว่าคนไปทำบุญที่วัดสมัยนั้น-ไม่ว่าจะแก่เฒ่าขนาดไหน-นั่งกับพื้นทั้งสิ้น
สมัยนี้นั่งกับพื้นไม่ได้
ต้องนั่งเก้าอี้
เหตุผลสำคัญที่สุดคือ-เข่าไม่ดี นั่งกับพื้นไม่ถนัด
เพียงประมาณครึ่งศตวรรษ สุขภาพเข่าของคนไทยเสื่อมโทรมลงไปถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ผมเชื่อว่าคนสมัยโน้นก็คงมีปัญหาเรื่องเข่าไม่ดีไม่ต่างจากคนสมัยนี้
คนเฒ่าคนแก่สมัยโน้นเวลาลุกจากที่นั่งต้องเอาก้นขึ้นก่อนเนื่องจากปัญหาเข่าไม่ดี ก็เห็นกันอยู่ทั่วไป
แต่เขาไม่ได้ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่นั่งกับพื้นเวลาไปวัด
ใครจะแถไปว่า-สมัยโน้นยังไม่มีเก้าอี้
ก็เชิญตามสะดวก
นอกจากนั่งกับพื้นไม่ได้แล้ว แม้นั่งกับพื้นเด็กสมัยนี้ยังนั่งพับเพียบไม่เป็นอีกต่างหาก
โรงเรียนเทศบาล ๔ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดมหาธาตุ นำเด็กมาทำบุญวันพระตามนโยบายของผู้บริหาร และตามข้อดำริของหลวงพ่อเจ้าอาวาสที่ขอให้จัดเด็กมาทำบุญทุกวันพระที่ไม่ตรงกับวันหยุด เพื่อเป็นอุปนิสัยปัจจัยในอนาคตกาล
มีอยู่วันพระหนึ่ง-ความจริงมีบ่อยๆ- เด็กหญิงที่ถูกบังคับให้นั่งพับเพียบอยู่ใกล้ๆ ผม เธอนั่งบิดไปบิดมาตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธีการ
แสดงว่า อาการเข่าไม่ดีนี่เริ่มเป็นกันตั้งแต่อายุยังน้อยๆ แล้ว-กระนั้นหรือ
ขอให้สังเกตว่า ในพิธีบำเพ็ญกุศลต่างๆ ไม่ว่าพิธีหลวงพิธีราษฎร์ พระสงฆ์ท่านนั่งกับพื้นทั้งนั้น (บนอาสน์สงฆ์ก็คือพื้นแบบหนึ่ง)
และไม่ใช่เฉพาะพระหนุ่ม แม้พระเถระสูงอายุท่านก็นั่งกับพื้น ซ้ำนั่งพับเพียบด้วย
พระสูงอายุท่านไม่มีปัญหาเรื่องเข่าไม่ดีหรืออย่างไร
หรือว่า-เอาเข้าจริงๆ มันก็เนื่องมาจากการฝึกหัดให้เคยชินนั่นเอง
ฝึกอย่างไร ได้อย่างนั้น
จะเป็นอย่างไร-ถ้าในอนาคต พระสงฆ์ในเมืองไทยเปลี่ยนมานั่งเก้าอี้กันหมด
เวลาทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็น
เวลาไปสวดมนต์ในงานต่างๆ
เวลาทำพิธีอุปสมบท
เวลาประชุมฟังพระปาติโมกข์
เวลาแสดงพระธรรมเทศนา
ฯลฯ
พระนั่งเก้าอี้กันหมด
นึกถึงภาพวงปี่พาทย์
สมัยก่อนตั้งเครื่องกับพื้น
คนเล่นเครื่องนั่งกับพื้นทั้งสิ้น
เดี๋ยวนี้มีม้ารอง ตั้งเครื่องบนม้า
คนเล่นเครื่องนั่งเก้าอี้
พระนั่งเก้าอี้สวดมนต์ ภาพจะออกมาแบบเดียวกันเช่นนั้น
อย่านึกว่าจะเป็นไปไม่ได้
เหตุผลเรื่องวัฒนธรรมสากลก็เริ่มมีออกมารองรับแล้ว
ถึงเวลานั้น ฝรั่งที่ศึกษาวัฒนธรรมไทยแตกฉานก็จะมาสอนพระไทยให้รู้จักวิธีนั่งพับเพียบบนอาสน์สงฆ์
แบบเดียวกับที่จะมาสอนภาษาไทย สอนดนตรีไทย สอนมารยาทไทย ฯลฯ ให้คนไทยในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น
ท่านที่เป็นคนหัวสมัยใหม่คงอยากสั่นหัวแล้วบอกว่า จะนั่งพับเพียบหรือนั่งเก้าอี้ ขอให้ทำความดีก็แล้วกัน ความชั่วความดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับนั่งแบบไหน คนนั่งพับเพียบทำความชั่วก็ถมไป
เป็นเหตุผลแบบเดียวกับ-ความดีทำวันไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องทำวันพระ และไม่จำเป็นจะต้องมีวันพระ
ใครยังอยู่ ก็ฝากดูกันไปนะครับ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓๐ มกราคม ๒๕๖๔
๑๗:
…………………………….
…………………………….