บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

อย่ารุกล้ำสิทธิสาธารณะของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

อย่ารุกล้ำสิทธิสาธารณะของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

—————————

เมื่อวันก่อน (๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒) ผมเดินออกกำลังตอนเช้าไปตามถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง 

เลย “สนามหญ้า” (ตามชื่อที่เคยเรียกกันและยังมีคนเรียกอยู่) หรือ “หอนาฬิกา” (ตามชื่อที่บางคนชอบเรียก) ไปหน่อยก็จะเป็นท่าเทียบเรือเก่า เทศบาลเมืองราชบุรีปรับปรุงเป็นห้องสมุดเปิด เป็นบริเวณที่มีคนเอาของมาตั้งขาย และมีอะไรต่อมิอะไรตั้งวางระเกะระกะอยู่พอสมควร 

ว่ากันตามหลัก ถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี (ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า) ไปจนถึงสะพานรถไฟ มีทางเท้าให้คนเดินได้ตลอดสาย 

และว่ากันตามหลักจริงๆ แล้ว ถนนทุกสายในเขตเทศบาลหรือในตัวเมืองทุกแห่งในประเทศไทย เขาย่อมทำทางเท้าไว้สำหรับคนเดินด้วยเสมอ 

และก็บนทางเท้านี่แหละที่คนบางพวกหรือบางคนยึดครองเป็นที่ประกอบกิจกรรมส่วนตัวสารพัดรูปแบบ ทั้งแบบถาวร ชั่วคราว หรือชั่วขณะเวลา มีให้พบเห็นได้ทั่วไป 

ไม่ต้องแจกแจงรายการนะครับ เพราะเราเคยเห็นกันมาทั้งนั้น 

รูปแบบหนึ่งที่ผมพบเสมอก็คือ ยืนคุยกันขวางทางเท้า

เมื่อไปเจอธุรกิจหรือกิจธุระบนทางเท้าเข้า คนส่วนมากใช้วิธีหลบลงไปเดินบนพื้นถนน

กลายเป็นว่า เป็นสิทธิที่มนุษย์จำพวกนั้นจะใช้ทางเท้าเป็นที่ประกอบธุรกิจหรือทำกิจธุระได้ตามความพอใจ 

และเป็นหน้าที่ของคนอื่นๆ ที่จะต้องหลบ หลีก เลี่ยง เอาเองตามสะดวก

กรณีทำนองนี้มักจะมีท่านจำพวกหนึ่งออกรับแทนว่า ที่บ้านไหนเมืองไหนมันก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ เป็นกันทั่วโลก เมืองฝรั่งก็เป็น จะมาเอาอะไรกันนักกันหนา ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งๆ กันไปก็พอแล้ว

เมืองไทยเราจึงเจริญรุ่งเรืองมาได้เป็นอันดี 

………………….

ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้นคือบริเวณท่าเทียบเรือเก่า ผมมองไปแต่ไกลก็เห็นมนุษย์ ๒-๓ คนยืนขวางบนทางเท้า 

คนหนึ่งเป็นสุภาพสตรี-มองออกทันทีว่าประกอบอาชีพสะพายแผงสลากกินแบ่งเดินขายไปตามถนน อีก ๒ คนเป็นลูกค้า 

สุภาพสตรีคนนั้นกำลังชี้ชวนให้ลูกค้าให้ซื้อสินค้าของเธอ และลูกค้า ๒ คนก็กำลังเลือกสินค้าอย่างขะมักเขม้น 

๓ คนยืนขวางเต็มทางเท้า

สุภาพสตรียืนด้านซ้ายสุด สุภาพบุรุษยืนกลางคนหนึ่งและค่อนไปทางขวาคนหนึ่ง 

ผมวางแผนเข้าปะทะขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเลย

ถ้าเป็นเรือ ก็ตั้งเข็มชนสุภาพสตรี 

เล็งจุดปะทะ จะเอาส่วนไหนของผมชนกับส่วนไหนของเธอ 

กะว่าให้เซหรือเอียงเล็กน้อย จะต้องใช้น้ำหนักปะทะกี่ปอนด์

เมื่อพร้อมแล้ว ผมก็สั่งตัวเองเดินหน้าเต็มตัว 

เข้าเป้าตามที่กำหนด 

ได้ยินเสียงร้อง เอ๊ะ เอ๊ะ…นี่… พร้อมกับเซไปเล็กน้อย

ผมคาดว่าคำที่จะหลุดตามมาคงจะเป็น … มาเดินชนเค้าทำไม …

แต่ก็ไม่ได้ยินถ้อยคำใดๆ อาจเป็นเพราะผมเดินหน้าเต็มตัวต่อไปโดยไม่รอดูผลการปะทะ 

ใช้คำตามสำนวนในกามนิตก็ว่า “เท่านี้พอแก่การย์”

………………….

ในวรรณกรรมเรื่อง “เพลงยาวถวายโอวาท” ของสุนทรภู่ หรืออาจจะเป็นสุภาษิตสอนหญิง จำไม่ถนัด มีกลอนที่ผมจำได้ ๒ วรรค 

“อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา

ส่องดูหน้าทีหนึ่งแล้วจึงนอน” 

เป็นคำสอนเชิงปริศนาธรรม หมายความว่า ในรอบวันตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน เราไปทำอะไรมาบ้าง พูดอะไรกับใครว่าอย่างไรบ้าง และรู้สึกนึกคิดเรื่องอะไรอย่างไร …

ก่อนจะนอน ให้เก็บมาทบทวนพิจารณาว่า ถูกต้องหรือผิดพลาดอย่างไรหรือไม่ ถ้าถูกต้อง ก็ให้อนุโมทนากับตัวเอง ถ้าผิดพลาด ก็ให้จำไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าทำพูดคิดแบบนั้นอีก

ผมเชื่อว่า ญาติมิตรทั้งหลายก็คงจะได้เคย-หรือแม้แต่ยังปฏิบัติเช่นว่านี้กันอยู่ 

ผมจึงเชื่อว่า คงจะมีสักเวลาหนึ่ง-อาจเป็นก่อนนอนคืนนั้น-ที่สุภาพสตรีนักขายหวยคนนั้นคงจะได้นึกทบทวนดูว่า 

เช้าวันนั้นหรือเช้าวันหนึ่ง 

อีตาลุงคนหนึ่งเดินชนเรา 

แล้วเดินจากไปโดยไม่ขอโทษ 

เอ เราทำอะไรอยู่นะตอนนั้น 

อ้อ กำลังมีคนจะซื้อหวย 

เรายืนขายอยู่บนทางเท้า 

เรายืนตรงไหนนะ 

อ้อ นึกนอกแล้ว 

เรายืนขวางทางแกนั่นเอง 

เอ นี่เราก็ทำไม่ถูกนะ 

ทางเท้า คนเขาจะเดิน 

แล้วเราไปยืนขวาง 

ไม่เอาละ 

ทีหลังต้องระวัง ไม่ทำอีก

………….

………….

แต่ก็ไม่แน่ เธออาจจะคิดตรงกันข้าม 

… อย่าให้เจออีกนะ 

เจอคราวนี้กูด่าไม่เลี้ยง

………….

………….

ความจริงผมจะหลบลงไปเดินบนถนน-อย่างที่คนส่วนมากนิยมทำกัน-ก็ได้ แต่ก็จะเป็นส่งเสริมให้มนุษย์จำพวกนั้นปฏิบัติการเห็นแก่ตัวแล้วลอยนวลต่อไป 

ผมนึกถึงเถรภาษิตในพระไตรปิฎกที่ว่า – 

อโมฆํ  ทิวสํ  กยิรา 

อปฺเปน  พหุเกน  วา.

ควรทำวันคืนไม่ให้เปล่าจากประโยชน์

จะน้อยหรือมากก็ให้ได้อะไรบ้าง

ที่มา: เถรคาถา (สิริมณฺฑเถร) พระไตรปิฎกเล่ม ๒๖ ข้อ ๓๕๙

ไม่ควรเดินผ่านไปเปล่าๆ โดยไร้ประโยชน์

จะน้อยหรือมากก็ขอให้ได้เตือนสติเพื่อนมนุษย์บ้าง

ว่า-อย่ารุกล้ำสิทธิสาธารณะของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๒

๑๗:๔๓

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *