เรื่องเล็กที่ยิ่งใหญ่
เรื่องเล็กที่ยิ่งใหญ่
—————–
วันนี้อาจารย์ผู้หญิงที่บ้านผมท่านมีหนังสือที่จะส่งทางไปรษณีย์อยู่ ๔ ซอง ท่านเอาใส่ย่ามแล้วตั้งท่าว่าจะให้ผมขับรถพาท่านไปที่ทำการไปรษณีย์
ผมบอกว่า เดี๋ยวผมเดินเอาไปส่งให้-ว่าแล้วผมก็เอาย่ามใส่หนังสือ “สลัดซัดขึ้นใส่ไหล่” แล้วเดินไปไปรษณีย์
สำนวน “สลัดซัดขึ้นใส่ไหล่” นี่ผมจำมาจากร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก น่าจะเป็นกัณฑ์กุมาร ตอนชูชกเดินทางไปขอสองกุมาร
————-
ไปรษณีย์ที่ใกล้บ้านผมมี ๒ แห่ง คือสำนักงานไปรษณีย์ราชบุรี อยู่ใกล้ตลาด กับสำนักงานไปรษณีย์เขต ๗ อยู่ริมเขตเทศบาล
ทั้งสองแห่งนี้อยู่คนละทิศกัน ระยะเดินจากบ้านผม พอๆ กัน
ผมตัดสินใจไปสำนักงานไปรษณีย์เขต คาดว่าคนจะน้อยกว่า
ที่สำนักงานไปรษณีย์เขตนี่ผมใช้บริการตั้งแต่ยังเป็นระบบธรรมชาติ คือมาก่อนได้ก่อน มาทีหลังต่อแถว
สมัยนั้นผมเคยถูกสตรีไม่สุภาพท่านหนึ่งลัดคิว-จำได้ว่าเคยเล่าให้ญาติมิตรทั้งหลายฟังแล้ว
ต่อมาก็พัฒนาขึ้นเป็นระบบหยิบบัตรคิว
วันนี้สำนักงานไปรษณีย์เขต ๗ ใช้ระบบเครื่องกดบัตรคิวแล้ว
————-
ขณะที่ผมเข้าไปยืนหน้าเครื่องและกดผิดกดถูกอยู่นั่นเอง ทหารหนุ่มนายหนึ่งก็ยื่นมือที่แข็งแรง แต่สุภาพ มาช่วยกดให้
“ปุ่มนี้ครับ” เขาบอกเบาๆ
ผมกล่าวขอบคุณและยิ้มให้เขาก่อนที่จะหยิบบัตรคิวที่ไหลเลื่อนออกมาจากเครื่อง ต่อจากนั้นเขาจึงกดบัตรคิวสำหรับตัวเอง
ระหว่างที่นั่งรอ ผมกับเขานั่งเก้าอี้แถวเดียวกัน
————-
ที่ผมคาดว่าคนจะน้อย ก็ผิดคาด เพราะต้องรอนาน
“ขอเชิญหมายเลข …. ที่ช่องบริการ …. ค่ะ”
ผมนั่งฟังเสียงผู้หญิงจากเครื่องอัตโนมัติไปเรื่อยๆ
อีก ๑ หมายเลขจะถึงคิวผม ทหารหนุ่มนายนั้นเอียงตัวมาทางผมแล้วบอกเบาๆ แต่ชัดเจน
“คิวต่อไปของลุงนะครับ”
ผมพยักหน้ารับทราบพร้อมคำขอบคุณ และยิ้มให้เขา
————-
ผมลงจากสำนักงานไปรษณีย์ แวะซื้อกาแฟเย็นสำหรับตัวเอง และชานมสำหรับอาจารย์ผู้หญิงที่บ้าน แล้วเดินกลับบ้านด้วยความสุข
……….
น้ำใจจากเพื่อนร่วมสังคม แม้จะดูเล็กน้อยเพียงไร
เมื่อเราเปิดใจรับ มันจะยิ่งใหญ่เสมอ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๔ มกราคม ๒๕๕๙
๑๗:๕๙
…………………………….
…………………………….