เสลาบานถวายพระเมื่อมาฆบูชา
เสลาบานถวายพระเมื่อมาฆบูชา
—————————–
ต้นไม้ที่ออกดอกในภาพประกอบเรื่องนี้คือต้นเสลา (อ่านว่า สะ-เหฺลา)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ บอกไว้ว่า –
…………………………………
เสลา ๒
[สะเหฺลา] น. ชื่อไม้ต้นชนิด Lagerstroemia loudoniiTeijsm. et Binn. ในวงศ์ Lythraceae ดอกสีชมพูถึงม่วง ออกเป็นช่อตามกิ่ง, อินทรชิต ก็เรียก.
…………………………………
เมื่อผมมาอยู่วัดมหาธาตุใหม่ๆ ผมเรียกตะแบก เพราะเห็นดอกเหมือนตะแบก แต่ดูลักษณะลำต้นแล้วจึงรู้ว่าไม่ใช่ตะแบก ตะแบกผิวเปลือกเรียบล่อนเป็นสะเก็ด เสลาผิวเปลือกไม่เรียบ แต่พจนานุกรมฯ ก็บอกว่า เสลากับตะแบกเป็นไม้ในวงศ์เดียวกัน คือวงศ์ Lythraceae
เสลาต้นนี้ขึ้นอยู่ริมกำแพงพระปรางค์ด้านในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์ปรางค์ เมื่อก่อนมีหลายต้น ตอนนี้เห็นอยู่ต้นเดียว
ที่แปลกมากก็คือ เสลาจะออกดอกบ้านสะพรั่งเต็มต้นแบบนี้ในช่วงงานปีของวัดมหาธาตุซึ่งตรงกับมาฆบูชาทุกปีไป
ผมเรียกของผมเองว่า เสลาบานถวายพระ
ปีนี้ ลองคิดดูก็จะเห็นแปลกซ้อนแปลก
คือปีนี้เป็นปีอธิกมาส เดือนไทยมี ๑๓ เดือน โบราณตกลงกันว่าให้เพิ่มเดือน ๘ เป็น ๒ เดือน ตอนเป็นเด็กได้ยินผู้ใหญ่เรียกว่า ปีแปดสองแปด
ปีไหนแปดสองแปด เข้าพรรษาก็เลื่อนไปเข้าแปดหลัง
วิสาขบูชาเลื่อนไปเป็นเดือน ๗
มาฆบูชาเลื่อนไปเป็นเดือน ๔
การเลื่อนเช่นนี้ได้ยินบางท่านบางสำนักค้านว่า ไม่ถูกตามความเป็นจริง
วิสาขบูชาเกิดขึ้นกลางเดือน ๖ ก็ต้องเป็นกลางเดือน ๖ ไม่ใช่กลางเดือน ๗
มาฆบูชาเกิดขึ้นกลางเดือน ๓ ก็ต้องเป็นกลางเดือน ๓ ไม่ใช่กลางเดือน ๔
ที่ผมว่าแปลกซ้อนแปลกก็คือ ปีนี้เมื่อช่วงกลางเดือน ๓ ซึ่งถ้าเป็นปีปกติก็ต้องเป็นมาฆบูชา เสลาหน้าพระปรางค์ต้นนี้ก็ไม่ออกดอก
ความจริงจะว่าไม่ออกดอกก็ไม่ถูก ก็ออกบ้าง แต่ออกเล็กๆ น้อยๆ หร็อมแหร็ม ไม่เพ่งมองหาก็ไม่รู้ว่ามีดอก
แต่พอถึงกลางเดือน ๔ เสลาออกดอกบานสะพรั่งเต็มต้น
เสลามันรู้ได้อย่างไรว่าปีนี้ปีอธิกามาส แปดสองแปด เลื่อนมาฆบูชาเป็นกลางเดือน ๔ มันเลยเลื่อนมาออกดอกกลางเดือน ๔
ผมว่า ดูๆ ไปแล้ว ธรรมชาติต่างหากที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ธรรมชาติรู้ว่าช่วงนี้เป็นเดือนมาฆะ คือเดือน ๓ ไม่ใช่เดือน ๔ แต่วิธีนับวันเดือนปีของมนุษย์คลาดเคลื่อนไปเอง
คนที่เข้าใจกฎธรรมชาติเขาจึงกำหนดให้มี –
อธิกมาส: เดือนไทยมี ๑๓ เดือน
อธิกวาร: เดือน ๗ มีแรม ๑๕ ค่ำ
อธิกสุรทิน: เดือนกุมภาพันธ์มีวันที่ ๒๙
ทั้งนี้เพื่อปรับวันเดือนปีให้ตรงกับธรรมชาติ
ปีอธิกมาส ถ้าสมมุติว่าผู้รู้ทางโหราศาสตร์ตกลงกันให้เพิ่มเดือนก่อนเดือน ๓ เป็น ๒ เดือน เช่นให้เดือนอ้ายมี ๒ เดือน หรือให้เดือนยี่มี ๒ เดือน ถ้าแบบนี้ มาฆบูชา วิสาขบูชา และเข้าพรรษา ก็ไม่ต้องเลื่อน แต่จะตรงกับวันที่กำหนดรู้กันตามปกติ
ท่านหรือสำนักที่คัดค้านมาฆบูชาเดือน ๔ วิสาบูชาเดือน ๗ เข้าพรรษาเดือน ๘ หลัง ก็คงสบายใจขึ้นอีกเยอะเลย
ทำไมท่านไม่ทำแบบนั้น?
อันนี้คงมีเหตุผลที่ซับซ้อน ต้องให้ผู้รู้อธิบาย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม – ตามประสาคนไม่รู้กลไกของวันเดือนปี ผมยังคงยืนยันว่า เสลาหน้าพระปรางค์เลื่อนการออกดอกถวายพระชนิดบานสะพรั่งเต็มต้นจากกลางเดือน ๓ มาเป็นกลางเดือน ๔ ในปีอธิกาสเช่นนี้ เป็นเหตุอันควรอัศจรรย์ได้ข้อหนึ่งในบรรดาความอัศจรรย์ทั้งหลายในวันมาฆบูชา
ทำให้ได้ข้อคิดว่า ธรรมชาตินั้นแม่นยำและซื่อตรงเสมอ
ไม่ควรแผลงธรรมชาติหรือทำลายธรรมชาติ
และทำให้ได้คติทางธรรมว่า พระพุทธศาสนานั้นก็คือธรรมชาติ
ถ้าชาวพุทธแม่นยำในหลักคำสอน และซื่อตรงต่อหลักการ
พระพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์ถูกต้องก็ดำรงอยู่ได้ยั่งยืน
ถ้าเอาพระธรรมวินัยมาแผลงเล่นตามใจ
และไม่ซื่อตรงต่อหลักการของพุทธ
พระพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์ถูกต้องก็พินาศ
เสลาเป็นเพียงต้นไม้ ยังรู้จักออกดอกบานถวายเป็นพุทธบูชา
เราท่านทั้งหลายเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ปฏิญญาเป็นพุทธบริษัท ถ้าไม่ศึกษาเรียนรู้ให้แม่นยำในหลักพระธรรมวินัย และไม่ซื่อตรงต่อหลักการของพระพุทธเจ้า
ก็น่าอายเสลานะ-ว่าไหม
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓ มีนาคม ๒๕๖๔
๑๓:๕๒
…………………………….
…………………………….