เส้นแบ่งเขตระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย

เส้นแบ่งเขตระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย

—————————————–

คำแถลง:

ใครก็ตามที่สามารถยกราวกั้นนี้ออกไปได้ 

เขาก็สามารถยกเผด็จการออกไปได้เช่นกัน

แค่ราวกั้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอีกแล้ว

ซ้ำยังกีดขวางทางเดินอีกต่างหาก

คุณยังไม่สามารถขจัดออกไปได้

แล้วคุณจะขจัดเผด็จการออกไปจากระบบการเมืองได้อย่างไร

เอาราวกั้นนี้ออกไปให้ได้ก่อน

แล้วจึงค่อยเอาเผด็จการออกไป

—————–

ข้อมูล: 

แม่น้ำแม่กลองตั้งแต่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า (ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี) ไปจนถึงสะพานรถไฟ ทางราชการ-ซึ่งตามความเข้าใจของผมคือเทศบาลเมืองราชบุรี-ได้สร้างเขื่อนเลียบตลิ่งเป็นแนวยาว เขื่อนดังกล่าวนี้นอกจากกันน้ำเซาะตลิ่งแล้วยังเป็นแนวรั้วกั้นระหว่างแม่น้ำกับริมฝั่งอีกด้วย 

ด้านล่างของเขื่อนทำเป็นทางเดินเลียบชายฝั่ง ซึ่งก็คือเขื่อนมี ๒ ชั้น คือชั้นบนกับชั้นล่างนั่นเอง 

เนื่องจากทางเดินชั้นล่างไม่ได้สร้างทีเดียวเป็นแนวยาวตลอด แต่สร้างเสร็จเป็นช่วงๆ เพราะฉะนั้น ตอนหัว-ท้ายของแต่ละช่วงก็จะมีราวกั้น ซึ่งมีความจำเป็นและมีประโยชน์ คือกันไม่ให้คนเดินตกน้ำ 

จนถึงวันนี้ ทางราชการสร้างทางเดินชั้นล่างเชื่อมต่อถึงกันหมดแล้วตลอดแนวของเขื่อน เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งแก่การเดินออกกำลังเช้าๆ เย็นๆ (เดินริมน้ำ สูดอากาศเย็นสดชื่น) 

แต่ราวกั้นหัว-ท้ายที่ทำไว้แต่เดิม ซึ่งมีอยู่ ๓ ช่วง (๒ ช่วงพอเบี่ยงตัวผ่านไปได้ แต่ ๑ ช่วงปิดสนิท ผ่านไม่ได้ เว้นแต่จะใช้วิธีกระโดดข้ามเหมือนกีฬาวิ่งข้ามรั้ว) และบัดนี้หมดความจำเป็นแล้วนั้น แทนที่จะยกออกไปเพื่อให้เดินผ่านได้สะดวก ก็ยังคงอยู่ ไม่มีวี่แววว่าจะเอาออก ราวกับว่าทางการมีนโยบายที่จะให้คงอยู่เช่นนั้นตลอดไป 

คงจะเลียนแบบเผด็จการ 

ผมเสนอแนะทางเฟซบุ๊กนี้มาเป็นปีแล้ว และเสนอหลายครั้ง แต่ไปไม่ถึงหูตาของผู้บริหาร

ใครสามารถทำให้ราวกั้นนี้อันตรธานไปได้ 

ผมจะเชียร์ให้ไปไล่เผด็จการสำเร็จ

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๐ กันยายน ๒๕๖๓

๑๗:๐๓

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….