มารยาทชาวพุทธ
มารยาทชาวพุทธ
—————-
เมื่อหลายสัปดาห์มาแล้ว ผมเห็นโพสต์ของท่านผู้หนึ่ง เป็นภาพพระภิกษุ ๒ รูป ยังหนุ่มๆ หน้าตาเรียบร้อย ครองจีวรแบบพระมหานิกาย ยืนอยู่ด้านซ้ายของภาพ และสุภาพสตรีสาวคนหนึ่ง สวมชุดครุยปริญญาของสถาบันไหนผมไม่ทราบ เดาว่าคงรับปริญญาแล้วมาถ่ายรูปหรือถ่ายรูปก่อนวันรับปริญญาแบบที่นิยมทำกัน สุภาพสตรีสาวคนนั้นยืนอยู่ด้านขวาของภาพ ค่อนข้างชิดกับพระภิกษุ เหมือนถ่ายรูปกับผู้ชายธรรมดา
ผมตั้งใจว่าจะบันทึกภาพไว้ แต่ในช่วงเวลานั้น หน้าเฟซบุ๊กของผมเกิดอาการผิดปกติบันทึกภาพจากหน้าเฟซบุ๊กไม่ได้ ก็เลยไม่ได้บันทึกไว้
…………….
ตามที่บรรยายภาพมานี้ คนสมัยนี้คงเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดามากๆ
แต่ผมเห็นว่าไม่ธรรมดา
ลักษณะที่สตรียืนเสมอกับพระสงฆ์ ไม่ธรรมดา
ซ้ำยืนชิดเหมือนชายหญิงธรรมดา ก็ยิ่งไม่ธรรมดา
ตามวัฒนธรรมไทย หญิงไทยไม่ประพฤติกิริยาอาการเช่นนั้นกับพระภิกษุสามเณร
ต่อให้หญิงนั้นเป็นโยมแม่ หรือเป็นพี่สาวน้องสาวของพระภิกษุสามเณรรูปนั้นก็ตาม
ตามวัฒนธรรมไทย สตรีกับพระจะระมัดระวังกิริยาต่อกันอย่างยิ่งยวด จนกลายเป็นบุคลิกอย่างหนึ่ง
คนบวชนานๆ แล้วสึกไปใหม่ๆ ผู้หญิงเข้ามาใกล้เป็นต้องหลบทุกที เพราะกลัวจะถูกตัวกัน
เป็นที่ขบขันและล้อเลียนของคนทั่วไป
นั่งเสมอพระ ยืนเสมอพระ ผู้หญิงไทยจะไม่ประพฤติเด็ดขาด
“นรกจะกินหัวมึง” แม่ไทยสมัยก่อนสั่งสอนลูกสาวด้วยคำนี้
ยืนยันได้เพราะผมได้ยินมากับหู
…………….
สมัยที่ผมยังบวชอยู่ ตอนนั้นมาอยู่วัดมหาธาตุราชบุรีแล้ว วันหนึ่งมีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาหาด้วยธุระบางประการ เธอนั่งรออยู่ที่ยกพื้นหน้ากุฏิ
ผมออกจากห้องมา ตรงที่เธอนั่งอยู่ ไม่มีที่ตรงไหนที่ผมจะนั่งได้ ผมก็เลยนั่งบนยกพื้นเสมอกับเธอ
เธอกระถดตัวเองลงไปนั่งกับพื้นชั้นล่างในทันทีทันใดนั้น
ผมนึกอนุโมทนากับมารยาทของเธอ-ยังนึกเห็นภาพอยู่จนทุกวันนี้
นั่นคือของจริงที่ได้เห็นมาในชีวิตจริง
ไม่ใช่เรื่องเล่าขานในประวัติศาสตร์ หรือที่ละครเอามาแสดง
…………….
ผู้หญิงไทยสมัยใหม่ที่ประพฤติเหมือนที่บรรยายในภาพเป็นหญิงไทยที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนถ่ายทอดสืบทอดทางวัฒนธรรมไทย
เวลานี้เป็นอย่างนี้กันหมดแล้วทั้งบ้านทั้งเมือง
……………….
ฟังเหมือนบ่น-แบบคนแก่
หลายคนมักจะพูดทำนองว่า อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนิจจัง
ผมไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น หรือพยายามจะขวางโลก ไม่ยอมให้อะไรเปลี่ยนแปลง
ผมพยายามรู้ทันมัน แต่ผมไม่พลอยเป็นไปกับมัน
บอกกล่าวแนะนำได้ ผมก็บอก
อบรมสั่งสอนได้ ผมก็สั่งสอน
ทำอะไรไม่ได้ ผมก็ดูมันเฉยๆ
แต่ไม่ใช่เฉยแบบ-ทำอะไรบ้างก็ทำได้ แต่ไม่ทำ
เหมือนรู้ว่า คนเราเกิดมาแล้วต้องตาย
ก็เลยไม่ทำอะไร
นั่งนอนรอความตายอยู่ตรงนั้นเอง
ทำอะไรบ้างก็ทำได้ แต่ไม่ทำ
นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนสมัยนี้เป็นอย่างนี้กันมากขึ้น
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๙ มีนาคม ๒๕๖๓
๐๙:๓๙
…………………………….
…………………………….