บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ก็คุณนั่นแหละ

ก็คุณนั่นแหละ

—————

พระคุณเจ้ารูปหนึ่งขอให้ผมช่วยวิเคราะห์หรืออธิบายเกี่ยวกับเรื่องคนพิการที่ไม่ควรอุปสมบทว่าเป็นพิการแบบไหน พิการแค่ไหนอย่างไรบวชได้ พิการแค่ไหนอย่างไรบวชไม่ได้

ผมไม่ได้ตอบพระคุณเจ้าตรงๆ แต่ค้นเรื่องในพระไตรปิฎกไปให้ท่านอ่านเอาเอง แล้วก็ไม่แน่ใจด้วยว่าพระคุณเจ้าจะได้คำตอบตรงกับความต้องการหรือเปล่า

นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมนึกถึง “กองวิชาการคณะสงฆ์” ในฝัน

ปัญหาแบบนี้แหละที่เป็นงานโดยตรงของคณะสงฆ์ และถ้าคณะสงฆ์มีกองวิชาการคณะสงฆ์ พระคุณเจ้ารูปนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาถามมาที่ผมหรือถามไปที่ใครเลย เพราะสามารถถามไปที่คณะสงฆ์หรือที่กองวิชาการคณะสงฆ์ได้โดยตรง

รวมทั้งปัญหาคาใจสังคมอีกสารพัดเป็นกระบุงโกย ถ้ามีกองวิชาการคณะสงฆ์ สังคมก็จะมีแหล่งคำตอบเป็นที่พึ่งอันเกษม

ไม่ต้องฟังท่านเจ้าคุณนี่ว่าอย่างนั้น

พระมหานั่นว่าอย่างโน้น 

อาจารย์โน่นว่าอย่างนี้

ซึ่งนอกจากไม่มีข้อยุติที่เด็ดขาดแล้ว ยังทำให้สับสนยุ่งเหยิงไม่รู้จบอีกต่างหาก-อย่างที่กำลังเป็นอยู่ทุกวันนี้

แล้วสังคมเรานี่ก็เป็นโรคประหลาดมานาน คือสนใจสงสัยปัญหากันตามเทศกาล

อย่างปัญหาเรื่องกฐินเป็นต้น 

ณ วันเวลานี้เงียบสงบ ไม่มีใครเอ่ยถึงปัญหาเรื่องกฐิน แต่พอถึงเทศกาลกฐิน ทีนี้เอาละ … กฐินเป็นกองๆ ทำได้ไหม นิมนต์พระต่างวัดมาร่วมรับกฐินให้ครบ ๕ รูปได้ไหม ทำอย่างนี้ได้ไหม ทำอย่างนั้นถูกไหม ฯลฯ

เจ้าประคุณเอ๋ย ถกเถียงกันแซดไปหมด แล้วก็ไม่มีใครฟังใคร 

ทำไปแล้ว ผิดถูกอย่างไรแก้ไขไม่ทันแล้ว 

คำตอบที่แน่นอนไม่มี 

ข้อยุติไม่มี 

จนเทศกาลกฐินจบลง ทุกคนก็เงียบสงบ รอจนกว่าจะถึงเทศกาลกฐินปีต่อไป ก็ลุกขึ้นมาถกเถียงกันใหม่ด้วยจังหวะลีลาเดิม 

วนเวียนไม่รู้จบอยู่อย่างนี้

ถ้ามีกองวิชาการคณะสงฆ์ ปัญหาเรื่องกฐินจบไปนานแล้ว

ปัญหาอื่นๆ อีกเป็นกระบุงก็จบไปแล้ว หรือไม่จบวันนี้ก็มีวันจบแน่ๆ

……………………………………………

กองวิชาการคณะสงฆ์คือคณะทำงานถาวรของคณะสงฆ์ มีหน้าที่รวบรวมปัญหาคาใจข้อสงสัยทั้งปวงเกี่ยวกับข้อประพฤติปฏิบัติของพระภิกษุสามเณร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และข้อสงสัยทั้งปวงเกี่ยวกับพระธรรมวินัย โดยวิธีอัญเชิญพระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกาอาจริยมติมาศึกษาหาคำตอบและหาข้อยุติที่ชอบด้วยหลักพระธรรมวินัย เรียบเรียงออกมาเป็นมติ แล้วเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาประกาศเป็นมติคณะสงฆ์

……………………………………………

ท่านเจ้าคุณนี่ พระมหานั่น ท่านอาจารย์โน่น ไม่ต้องเถียงกันให้เหนื่อยอีกต่อไป 

ปัญหาคาใจของสังคมก็จะเบาบางลงเพราะมีคำตอบที่แน่นอนว่าอะไรได้อะไรไม่ได้ อะไรใช่อะไรไม่ใช่

มีคำตอบอะไร มีข้อยุติอย่างไร มีมติอะไร เอาไปวางไว้ใน “เพจกองวิชาการคณะสงฆ์” ใครสงสัยเรื่องอะไร คลิกเข้าไปที่นั่นที่เดียว ไม่ต้องถามมาที่ทองย้อยหรือที่ใครไหนอื่น ที่นั่นมีคำตอบที่เป็นเอกภาพ 

ข้อสงสัยใดยังไม่มีคำตอบ ฝากคำถามไว้ เพื่อที่กองวิชาการคณะสงฆ์จะได้ศึกษาหาคำตอบต่อไป

ทำงานกันทุกวัน ค้นคว้าหารือกันทุกวัน เพราะปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน

กองวิชาการคณะสงฆ์มีงานทำทั้งปี และเป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ที่ให้สติปัญญาแก่สังคมอย่างคุ้มค่าที่สุด

ถามว่า กองวิชาการคณะสงฆ์จะตั้งได้เมื่อไร

ตอบว่า ตั้งได้ทันทีเดียวนี้

นักวิชาการ+บุคลากรของคณะสงฆ์ มี 

งบประมาณ มี

สถานที่ มี 

เครื่องมือเครื่องใช้ มี

ส่วนสนับสนุนต่างๆ มี

ขาดอยู่อย่างเดียว-ผู้มีอำนาจยังไม่สั่ง!

………………….

ญาติมิตรที่เคยเข้าชั้นเรียน หรือเคยฟังบรรยาย คงนึกภาพออก มีบางช่วงเวลาที่อาจารย์หรือผู้บรรยายชี้ผู้ฟังให้ตอบคำถาม 

ผู้ฟังบางคนที่นั่งอยู่ในทิศทางที่ถูกชี้ยังนั่งเฉย หรือบางทีเหลียวหลังไปดูว่าชี้ใคร จนอาจารย์หรือผู้บรรยายต้องย้ำว่า-ก็คุณนั่นแหละ

คุณนั่นแหละจึงค่อยทำหน้าตื่น

ผมกำลังสงสัยว่า ผู้มีอำนาจในการบริหารการพระศาสนาท่านรู้ตัวหรือเปล่าว่า-ท่านนั้นแหละเป็นผู้มีอำนาจสั่ง

หรือว่าจะต้องมีใครสักคนไปบอกท่านว่า-ก็คุณนั่นแหละ!

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕

๑๖:๒๗

…………………………………………….

ก็คุณนั่นแหละ

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *