บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

สตรีกับดอกไม้

สตรีกับดอกไม้ (๓) 

สตรีกับดอกไม้ (๓) 

—————————–

และคิดต่อไปถึงศีลกับธรรม

……………………

สตรีเหมือนดอกไม้ 

……………………

ขอพักปัญหาเรื่องทำอย่างไรนางในดวงใจที่เป็นสาวสวยบริสุทธิ์จึงจะมีสรรพคุณเหมือนกระดังงาลนไฟไว้เพียงแค่นี้ 

ท่านผู้ใดจะคิดต่อไปหรือไม่คิด ก็เชิญตามอัธยาศัย 

ที่ผมยกเรื่องนี้มาปรารภก็เพื่อเป็นบทนำเข้าสู่ประเด็นที่ตั้งไว้ว่า “สตรีกับดอกไม้” เท่านั้นเอง เพียงแต่อาจจะนำนานไปหรือนำยาวไปหน่อย

…………

ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลกมนุษย์ว่า สตรีกับดอกไม้เป็นของคู่กันในหลายๆ แง่มุม 

ในที่นี้ผมจะขอชวนท่านคิดใน ๒ แง่มุม คือ –

สตรีเหมือนดอกไม้ 

และ สตรีมักชอบดอกไม้

ค่านิยมการตั้งชื่อคนตามวัฒนธรรมไทย เป็นพยานยืนยันได้อย่างหนึ่งว่า คนไทยยอมรับว่าสตรีเหมือนดอกไม้ 

เรานิยมเอาชื่อดอกไม้ไปตั้งเป็นชื่อสตรี หรือจะพูดใหม่ว่า นิยมตั้งชื่อสตรีตามชื่อดอกไม้ ก็คงได้ความเท่ากัน 

กาหลง ชงโค 

โยทะกา ราตรี 

บุหงา มาลี 

จำปี จำปา สารภี 

ถ้าบอกว่านี่เป็นชื่อคน เราก็รู้ได้เลยว่าเจ้าของชื่อเป็นผู้หญิง

ดอกไม้เป็นตัวแทนหรือเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามฉันใด 

สตรีก็เป็นฉันนั้น 

ธรรมชาติสร้างสตรีเพศขึ้นมาก็เพื่อให้เป็นความสวยงามของมนุษยชาตินั่นเอง 

ถ้าโลกนี้ไม่มีสตรี เราก็คงไม่รู้ว่าจะไปมองหาความสวยงามในหมู่มนุษย์กันที่ไหน 

นี่เป็นสัจธรรม คือความเป็นจริงอย่างหนึ่งของโลก

อีกประการหนึ่ง เมื่อความเป็นจริงสตรีเป็นความสวยงามของมนุษยชาติเช่นนั้น ธรรมชาติของสตรีจึงเป็นเพศที่มักจะรักดอกไม้ 

และดอกไม้ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงาม 

ก็จึงเท่ากับบอกว่า สตรีเป็นเพศที่รักสวยรักงามนั่นเอง

เพราะฉะนั้น จะว่าไปแล้วทั้ง ๒ แง่มุมนี้ (สตรีเหมือนดอกไม้ และสตรีมักชอบดอกไม้) ก็เป็นแง่มุมเดียวกันนั่นเอง คือธรรมชาติของสตรีต้องงามเหมือนดอกไม้ คือสีสวย และกลิ่นหอม 

พิจารณาในแง่สวยและหอม ดอกไม้ในโลกนี้ก็มีอยู่ ๔ ชนิด คือ – 

สวยแต่ไม่หอม 

หอมแต่ไม่สวย 

ทั้งสวยทั้งหอม 

ไม่สวยไม่หอม 

สตรีในโลกนี้ก็มี ๔ ประเภทเช่นเดียวกัน ท่านคงสามารถจำแนกประเภทโดยเปรียบเทียบกับดอกไม้ได้เอง จึงขอผ่านประเด็นนี้ไป

เราคงประจักษ์สัจธรรมที่ว่า “สตรีเป็นเพศที่รักสวยรักงาม” กันอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน 

ผมเชื่อว่าไม่มีสตรีคนไหนที่ไม่รักสวยรักงาม 

ความรักสวยรักงามนั้นแสดงออกชัดเจนที่การแต่งตัว 

เพราะสัจธรรมเป็นเช่นนี้ คำที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนหน้าที่ของสามีที่จะพึงปฏิบัติต่อภรรยา จึงมีอยู่ประการหนึ่งว่า “ให้เครื่องแต่งตัว” (อลงฺการานุปฺปทาเนน) 

ปัญหาน่าคิดมีอยู่ว่า สตรีแต่งตัวให้สวยงามเพื่ออะไร?

โปรดอย่าลืมว่า ธรรมชาติที่รักสวยรักงามเป็น “เหตุ” ให้สตรีชอบแต่งตัวให้สวยงาม 

ปัญหาน่าคิดก็คือ แล้ว “ผล” ที่ต้องการในการแต่งตัวให้สวยงามนั้นคืออะไร? 

เพราะเหตุจะไม่มีผลไม่ได้ 

และผลจะไม่มาจากเหตุก็ไม่ได้

จะตอบปัญหานี้ให้ถูกต้องตรงตามสัจธรรมได้ ก็ต้องไม่ลืมคิดถึงธรรมชาติของดอกไม้ เพราะเรายอมรับกันแล้วว่า สตรีกับดอกไม้เป็นของคู่กัน

(มีต่อ)

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๓

๑๓:๓๙

………………………….

สตรีกับดอกไม้ (๔) 

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………

สตรีกับดอกไม้ (๒) 

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *