นิรินธนพินาศ (บาลีวันละคำ 3,712)
นิรินธนพินาศ
รูปคำประหลาด แต่ความหมายล้ำเลิศ
ถ้าไม่ได้เรียนรู้คำบาลี คงมีคนอ่านว่า นิ-ริน-ทน-พิ-นาด
คำนี้ไม่ได้อ่านแบบนั้น
แต่อ่านว่า นิ-ริน-ทะ-นะ-พิ-นาด
แยกศัพท์เป็น นิรินธน + พินาศ
(๑) “นิรินธน”
เขียนแบบบาลีเป็น “นิรินฺธน” (-รินฺ- มีจุดใต้ นฺ) อ่านว่า นิ-ริน-ทะ-นะ รากศัพท์มาจาก นิร + อินฺธน
(ก) “นิร” อ่านว่า นิ-ระ ตามที่ตาเห็นก็เป็น “นิร” แต่หลักภาษาบอกว่า คำนี้เดิมเป็น “นิ” เป็นศัพท์จำพวก “อุปสรรค” แปลว่า เข้า, ลง, ไม่มี, ออก เมื่อนำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ มักลง ร อาคมแทรกระหว่างคำที่มาเชื่อมกัน เช่น –
นิ + ร + อนฺตราย = นิรนฺตราย แปลว่า ไม่มีอันตราย
นิ + ร + อปราธ = นิรปราธ แปลว่า ไม่มีความผิด
อักษรจำพวกที่เรียกว่า “อาคม” นี้ยังมีอีกหลายตัว เหตุผลสำคัญที่ต้องลงอาคมก็เพื่อให้เกิดความสละสลวยหรือคล่องปากเมื่อออกเสียง
ในสันสกฤต อุปสรรคตัวนี้เป็น “นิร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“นิรฺ : (นิบาต) นิบาตและอุปสรรคบอกอสังศยะหรือความเชื่อแน่; ความประติเษธ; ความปราศจาก; a particle and prefix implying certainty or assurance; negation or privation; – (กริยาวิเศษณ์ หรือ บุรพบท) ภายนอก, นอก, ออก, ปราศจากหรือไม่มี, พลัน; outside, out, without, forth.”
(ข) “อินฺธน” อ่านว่า อิน-ทะ-นะ รากศัพท์มาจาก –
(1) เอธฺ (ธาตุ = เจริญ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แผลง เอ ที่ เอธฺ เป็น อิ (เอธ > อิธ), ลงนิคหิตอาคมต้นธาตุ แล้วแปลงนิคหิตเป็น นฺ (อิธ > อึธ > อินฺธ)
: เอธฺ + ยุ > อน = เอธน > อิธน > อึธน > อินฺธน แปลตามศัพท์ว่า “วัตถุที่ยังไฟให้เจริญคือให้ลุกไหม้ขึ้น”
(2) อินฺธฺ (ธาตุ = สว่าง) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: อินฺธฺ + ยุ > อน = อินฺธน แปลตามศัพท์ว่า “วัตถุเป็นเครื่องสว่างแห่งไฟ”
“อินฺธน” หมายถึง ฟืนหรือไม้สำหรับติดไฟ, เชื้อเพลิง (firewood, fuel)
“อินฺธน” ในภาษาไทยใช้เป็น “อินธน์” (อ่านว่า อิน) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อินธน์ : (คำนาม) การจุดไฟ; เชื้อไฟ, ไม้สําหรับติดไฟ, มักใช้เป็นส่วนท้ายของสมาส เช่น นิรินธน์ ว่า ไม่มีเชื้อไฟ. (ป., ส.).”
: นิร (นิ + ร) + อินฺธน = นิรินฺธน (นิ-ริน-ทะ-นะ) แปลว่า “ไม่มีเชื้อ” (without fuel)
“นิรินฺธน” ในภาษาไทยใช้เป็น “นิรินธน์” (อ่านว่า นิ-ริน) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นิรินธน์ : (คำแบบ) (คำวิเศษณ์) ไม่มีเชื้อ (ใช้แก่ไฟ). (ป.).”
หมายเหตุ: “คำแบบ” หมายถึง คำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป
(๒) “พินาศ”
บาลีเป็น “วินาส” อ่านว่า วิ-นา-สะ รากศัพท์มาจาก วิ (คำอุปสรรค = พิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + นสฺ (ธาตุ = พินาศ, หายไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ที่ น-(สฺ) เป็น อา (นสฺ > นาสฺ)
: วิ + นสฺ = วินส + ณ = วิสนณ > วินส > วินาส (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ความหายไป” หมายถึง ความพินาศ, ความล่มจม, ความสูญหาย (destruction, ruin, loss)
“วินาส” ใช้ในภาษาไทยตามรูปสันสกฤตเป็น “วินาศ” (วิ-นาด) และแผลง ว เป็น พ ตามหลักนิยม จึงเป็น “พินาศ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พินาศ : (คำนาม) ความเสียหายสิ้นเชิง, ความเสียหายย่อยยับ. (คำกริยา) เสียหายสิ้นเชิง, เสียหายย่อยยับ. (ป. วินาส; ส. วินาศ).”
นิรินฺธน + วินาส = นิรินฺธนวินาส (นิ-ริน-ทะ-นะ-วิ-นา-สะ) แปลว่า “ความหายไปเพียงดังว่าไฟที่สิ้นเชื้อ”
“นิรินฺธนวินาส” ใช้ในภาษาไทยเป็น “นิรินธนพินาศ” (นิ-ริน-ทะ-นะ-พิ-นาด)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นิรินธนพินาศ : (คำนาม) ความหมดสิ้นอย่างไฟขาดเชื้อ คือ ไม่ลุกลามได้อีก (มักใช้เปรียบถึงความดับกิเลสของพระอรหันต์).”
ขยายความ :
กิเลสของปุถุชน อาจมีเวลาลดลงหรือหายไปได้ชั่วพักหนึ่ง แล้วก็กลับเกิดขึ้นได้อีก เหมือนไฟที่ยังมีเชื้ออยู่ แม้ดับไป แต่เมื่อเชื้อยังมีอยู่ เมื่อจุดไฟเข้าก็สามารถลุกติดเป็นไฟได้อีกเสมอ
ต่างจากพระอรหันต์ กิเลสของพระอรหันต์ถูกกำจัดให้หมดสิ้นเหมือนไฟที่สิ้นเชื้อ คือไม่มีอะไรทำให้ไฟดับ แต่ดับเพราะหมดเชื้อ ดับแบบนี้ทำอย่างไรก็ติดเป็นไฟขึ้นอีกไม่ได้ เพราะเชื้อที่จะติดไฟหรือทำให้ไฟติดหมดสิ้นไปแล้ว เชื้อใหม่ก็ไม่มีเติม เป็นการดับสนิทดังคำว่า “นิรินธนพินาศ” นั่นแล
…………..
ดูก่อนภราดา!
อยู่กับกิเลสเหมือนกัน แต่คนคิดไม่เหมือนกัน
คนเขลา: ไม่เป็นกับมัน ก็อยู่กับมันไม่ได้
คนฉลาด: เมื่อจำเป็นก็อยู่กับมัน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นกับมัน
#บาลีวันละคำ (3,712)
11-8-65
…………………………….
…………………………….