บาลีวันละคำ

อาโลก (บาลีวันละคำ 3,711)

อาโลก

ไม่ใช่โลกของคุณอา

ภาษาไทยอ่านว่า อา-โลก

อาโลก” บาลีอ่านว่า อา-โล-กะ รากศัพท์มาจาก อา (คำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง) + โลกฺ (ธาตุ = เห็น) + (อะ) ปัจจัย

: อา + โลกฺ = อาโลกฺ + = อาโลก (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องมองเห็น” หมายถึง การมองดู, การเห็น (seeing, sight) 

หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แปล “อาโลก” ว่า แสง, แสงสว่าง, รัศมี

อาโลก” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) ภาพที่เห็น, ทิวทัศน์, การมองดู (sight, view, look)

(2) แสงสว่าง light 

(3) การเห็นชัดเจน, อำนาจการสังเกตดู, ความรู้สึกซึ่งเกิดขึ้นในใจเอง (clear sight, power of observation, intuition)

(4) ความงดงาม, ความรุ่งโรจน์ (splendour)

ในคัมภีร์เมื่อกล่าวถึงแหล่งหรือที่มาของ “อาโลก” คือแสงสว่าง มักระบุว่ามี 4 อย่างคือ

(1) จนฺทาโลก (จนฺท + อาโลก) = แส่งสว่างแห่งดวงจันทร์ (light of the moon)

(2) สุริยาโลก (สุริย + อาโลก) = แส่งสว่างแห่งดวงอาทิตย์ (light of the sun)

(3) อคฺคฺยาโลก (อคฺคิ + อาโลก) = แส่งสว่างแห่งไฟ (light of fire)

(4) ปญฺญาโลก (ปญฺญา + อาโลก) = แส่งสว่างแห่งปัญญา (light of wisdom)

ที่มา: จตุกนิบาต อังคุตรนิกาย พระไตรปิฎกเล่ม 21 ข้อ 143

…………..

อาโลก” ในภาษาไทยเป็นคำที่น่าจะไม่ใช่ภาษาพูด แทบจะไม่มีใครพูดกันในชีวิตประจำวัน และแทบจะไม่มีใครรู้จักด้วยซ้ำไป แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็ยังเก็บคำนี้ไว้ บอกไว้ดังนี้ – 

อาโลก, อาโลก– : (คำนาม) แสงสว่าง, ความสว่าง; การดู, การเห็น, สิ่งที่เห็น. (ป., ส.).”

ขยายความ :

อาโลก” ในบาลีที่มีความหมายลึกซึ้ง น่าจะเป็น “อาโลก” ในคำที่พระพุทธองค์ตรัสบรรยายความเมื่อพระองค์ทรงรู้แจ้งอริยสัจสี่ ดังข้อความในปฐมเทศนาคือธัมมจักกัปปวัตนสูตร ขอยกมาเสนอเพื่อเจริญปัญญาดังนี้ –

…………..

อิทํ … เม  ภิกฺขเว  ปุพฺเพ  อนนุสฺสุเตสุ  ธมฺเมสุ  จกฺขุํ  อุทปาทิ  ญาณํ  อุทปาทิ  ปญฺญา  อุทปาทิ  วิชฺชา  อุทปาทิ  อาโลโก  อุทปาทิ  ฯ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้… 

ที่มา: มหาขันธกะ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1 พระไตรปิฎกเล่ม 4 ข้อ 15

…………..

กับอีกตอนหนึ่ง คือในคำที่พระพุทธองค์ตรัสบรรยายถึงอาการที่พระองค์ได้ตรัสรู้ให้เวรัญชพราหมณ์ฟัง ข้อความเป็นดังนี้ –

…………..

อยํ  โข  เม  พฺราหฺมณ  รตฺติยา  ปจฺฉิเม  ยาเม  ตติยา  วิชฺชา  อธิคตา  

ดูก่อนพราหมณ์ วิชชาที่สามนี้แลเราได้บรรลุแล้วในปัจฉิมยามแห่งราตรี

อวิชฺชา  วิหตา  

อวิชชาเรากำจัดได้แล้ว

วิชฺชา  อุปฺปนฺนา  

วิชชาเกิดแก่เราแล้ว

ตโม  วิหโต 

ความมืดเรากำจัดได้แล้ว

อาโลโก  อุปฺปนฺโน  …

แสงสว่างเกิดแก่เราแล้ว

ที่มา: เวรัญชกัณฑ์ วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ภาค 1 พระไตรปิฎกเล่ม 1 ข้อ 3

…………..

ดูก่อนภราดา!

: โลกมืด ใจสว่าง

: ดีกว่าโลกสว่าง แต่ใจมืด

#บาลีวันละคำ (3,711)

10-8-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *