มโนคณะ (บาลีวันละคำ 3,686)
มโนคณะ
technical term ของนักเรียนบาลี
อ่านว่า มะ-โน คะ-นะ
ประกอบด้วยคำว่า มโน + คณะ
(๑) “มโน”
อ่านว่า มะ-โน รูปคำเดิมเป็น “มน” อ่านว่า มะ-นะ รากศัพท์มาจาก –
(1) มนฺ (ธาตุ = รู้) + อ (อะ) ปัจจัย
: มน + อ = มน แปลตามศัพท์ว่า “ตัวรู้”
(2) มา (ธาตุ =นับ, กะ, ประมาณ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ลบสระที่สุดธาตุ (มา > ม)
: มา > ม + ยุ > อน : ม + อน = มน แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่กำหนดนับอารมณ์”
“มโน” (< มน) หมายถึง ใจ, ความคิด (mind, thought)
“มน” แจกรูปด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง (ปฐมาวิภัตติ) เอกพจน์ เปลี่ยนรูปเป็น “มโน”
(๑) “คณะ”
เขียนแบบบาลีเป็น “คณ” อ่านว่า คะ-นะ รากศัพท์มาจาก คณฺ (ธาตุ = นับ) + อ (อะ) ปัจจัย
: คณฺ + อ = คณ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ส่วนย่อยที่นับรวมกัน”
“คณ” ในบาลีมีความหมายดังนี้ –
(1) เมื่อใช้คำเดียว หมายถึง กลุ่มคน, ฝูงชน, คนจำนวนมากมาย (a crowd, a multitude, a great many)
(2) เมื่อใช้เป็นส่วนท้ายคำสมาส หมายถึงการรวมเป็นหมู่ของสิ่งนั้นๆ (a collection of) กล่าวคือ กลุ่ม, ฝูงชน, มวล; ฝูง, ฝูงสัตว์; โขลง, หมู่, การรวมกันเป็นหมู่ (a multitude, mass; flock, herd; host, group, cluster)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “คณ-, คณะ” ไว้ดังนี้ –
(1) หมู่, พวก, (ซึ่งแยกมาจากส่วนใหญ่).
(2) กลุ่มคนผู้ร่วมกันเพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คณะกรรมการ คณะสงฆ์ คณะนักท่องเที่ยว.
(3) หน่วยงานในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่เทียบเท่าซึ่งรวมภาควิชาต่าง ๆ ที่จัดการเรียนการสอนวิชาในสายเดียวกัน เช่น คณะนิติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์.
(4) จำนวนคำที่กำหนดไว้ในการแต่งร้อยกรองแต่ละประเภท โดยแบ่งเป็นบท บาท และวรรค เช่น คณะของกลอนแปด ๑ บท มี ๒ บาท แต่ละบาทมี ๒ วรรค แต่ละวรรคมี ๖ ถึง ๙ คำ.
ในที่นี้ “คณะ” ใช้ในความหมายตามข้อ (1) และ (2)
มโน + คณ = มโนคณ (มะ-โน-คะ-นะ) แปลว่า “กลุ่มของศัพท์มีคำว่า มโน เป็นต้น”
“มโนคณ” เขียนแบบไทยเป็น “มโนคณะ” คำเต็มเรียกว่า “มโนคณะศัพท์”
อธิบายขยายความ :
คำว่า “มโนคณ” ประกอบด้วยคำว่า มน + คณ ควรจะได้รูปเป็น “มนคณ” (มะ-นะ-คะ-นะ) แต่ตามกฎบาลีไวยากรณ์ว่าด้วย “มโนคณะศัพท์” กำหนดว่า เมื่อเป็นส่วนหน้าของคำสมาส “มน” ซึ่งแจกวิภัตติเป็น “มโน” ให้คงรูปเป็น มโน– ดังนั้น มน (> มโน) + คณ แทนที่จะเป็น “มนคณ” จึงเป็น “มโนคณ” (มโนคณะ)
หนังสือบาลีไวยากรณ์ วจีวิภาคที่ 2 นามและอัพพยศัพท์ พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ตอนที่ว่าด้วย “มโนคณะศัพท์” กล่าวไว้ว่า “ศัพท์ชื่อมโนคณะ” มี 12 ศัพท์ ดังนี้ –
…………..
(1) มน = ใจ > (คำในภาษาไทยเช่น) มโนภาพ
(2) อย = เหล็ก > อโยโลห (บาลี: เหล็กและโลหะ)
(3) อุร = อก > ?
(4) เจต = ใจ > เจโตวิมุติ
(5) ตป = ความร้อน > ตโปทาราม
(6) ตม = มืด > ตโมนุท (“ผู้ขจัดความมืด” คือดวงอาทิตย์)
(7) เตช = เดช > เดโชชัย
(8 ) ปย = น้ำนม > ปโยธร (“ผู้ทรงไว้ซึ่งน้ำนม” คือถัน)
(9) ยส = ยศ > ยโสธร
(10) วจ = วาจา > วโจกร (บาลี: “ผู้ตามถ้อยคำ” คือสาวก)
(11) วย = วัย > วโยหร (บาลี: “ผู้นำไปซึ่งวัย” คือผู้ทำให้แก่)
(12) สิร = หัว > ศิโรราบ
…………..
“มโนคณะศัพท์” (ตามหลักควรสะกดเป็น “มโนคณศัพท์”) มีกฎว่า เมื่อเป็นส่วนหน้าของคำสมาส ให้แปลง อะ ที่สุดศัพท์เป็น โอ เช่น มน + รม แทนที่จะเป็น “มนรม” ท่านให้แปลง อะ ที่ (ม)-น เป็น โอ (มน > มโน) จึงเป็น “มโนรม”
“มนภาพ” จึงเป็น “มโนภาพ”
“เจตวิมุติ” จึงเป็น “เจโตวิมุติ”
“เดชชัย” จึงเป็น “เดโชชัย”
“ยสธร” จึงเป็น “ยโสธร” ดังนี้เป็นต้น
…………..
ดูก่อนภราดา!
: สลับคำ ความหมายอาจจะพิกล
: สลับคน ภารกิจอาจจะพิการ
#บาลีวันละคำ (3,686)
16-7-65
…………………………….
…………………………….