จากแนวคิดเลิกใช้เลขไทย 
จากแนวคิดเลิกใช้เลขไทย
—————————-
ต่อไปก็-เลิกใช้ภาษาไทย
ใครลืมหรือยังครับ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีกระแสที่เอามาพูดกันว่า มีผู้เสนอให้เลิกใช้เลขไทย เอะอะกันอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เงียบไป ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าแนวคิดเลิกใช้เลขไทยไปถึงไหนแล้ว
ทำอย่างไรเราจึงสร้างนิสัย “กัดไม่ปล่อย” ในทางวิชาการกันบ้าง
กัดไม่ปล่อยในทางวิชาการ-หมายความว่า เกิดเรื่องอะไรที่น่าสนใจขึ้นมา จะมีคนสืบเสาะเกาะติดคิดค้นจนได้ข้อยุติที่สมบูรณ์ในเรื่องนั้นๆ สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นฐานข้อมูลพัฒนาอะไรต่อมิอะไรขึ้นมาได้ต่อไปอีกมากมาย
แนวคิดเลิกใช้เลขไทยนี่ก็เหมือนกัน หันหน้าไปถามใครก็ได้คำตอบตรงกันคือ เอ ยังไงก็ไม่ทราบ ไม่ได้ตามเรื่อง
ตอนนั้น ผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเนื้อหาเพราะยังไม่เห็นต้นเรื่อง เพียงแต่แสดงความเห็นต่อสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
…………………………………………..
ยิงผิดตัว ตีหัวผิดคน
…………………………………………..
หลังจากนั้นก็พอจะประมวลต้นเรื่องได้บ้าง
เรื่องเกิดจากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ คนมีหน้าที่จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับคะแนน พบกับปัญหาเนื่องจากอุปกรณ์ดิจิตอลที่ใช้งานเป็นระบบที่อ่านเฉพาะเลขอารบิก แต่เอกสารที่กรอกคะแนนของทางราชการใช้เลขไทย ผู้ปฏิบัติงานต้องเสียเวลาไปเป็นอันมากเพื่อเปลี่ยนเลขไทยเป็นเลขอารบิกเพื่อให้ระบบอ่านได้
ผู้ประสบปัญหาจึงเสนอขึ้นมาว่า เอกสารของทางราชการควรใช้เลขอารบิก – นี่คือต้นเรื่อง
โปรดสังเกตนะครับว่า ผู้เสนอบอกว่า ควรใช้เลขอารบิกในเอกสารของทางราชการ หรือบอกว่าไม่ควรใช้เลขไทยในเอกสารของทางราชการ แต่ให้ใช้เลขอารบิก
ไม่ได้บอกว่า ให้ประเทศไทยหรือคนไทยเลิกใช้เลขไทย
เหตุผลที่เสนอให้ใช้เลขอารบิกในเอกสารของทางราชการก็มีเพียงอย่างเดียว คือระบบดิจิตอลจะได้อ่านได้ เพราะระบบดิจิตอลมันไม่อ่านเลขไทย
ต่อจากนั้นก็มีคนพลอยผสมไปด้วยว่า ควรเลิกใช้ปีพุทธศักราชเสียด้วย เพราะระบบมันอ่านเฉพาะปีคริสต์ศักราช จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปลง พ.ศ.ให้เป็น ค.ศ.
ต้นเรื่องว่าอย่างนี้
แต่ที่เอาไปวิพากษ์วิจารณ์กันว่าไปอีกอย่างหนึ่ง
ว่าไปถึงความสำคัญของเลขไทย
ว่าไปถึงประวัติเลขไทย
ว่าไปถึงความสำคัญของภาษาไทย
ว่าไปถึงความสำคัญของการใช้ปีพุทธศักราช
แต่ไม่มีใครพูดถึงตัวปัญหา-เลขไทยและปี พ.ศ. มีปัญหาเมื่อเข้าสู่ระบบดิจิตอล ควรแก้ปัญหาอย่างไร
ไม่ได้ยินใครเอยถึงสักแอะเดียว
ปัญหาเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง
เอามาบอกกันเป็นอีกอย่างหนึ่ง
วิพากษ์วิจารณ์กันไปอีกอย่างหนึ่ง
แล้วตกลงจะแก้ปัญหากันอย่างไร-ไม่รู้
นี่คือสภาพที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมการสื่อสารของเรา
…………………
ต่อไปนี้เป็นความเห็นของผม-เลขไทยและปี พ.ศ. มีปัญหาเมื่อเข้าสู่ระบบดิจิตอล ควรแก้ปัญหาอย่างไร
ระบบดิจิตอลที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ กลไกหรือ code ที่สร้างขึ้น คนสร้างเขากำหนดให้ระบบอ่านเฉพาะเลขอารบิก ถ้าเป็นวันเดือนปีก็กำหนดให้อ่านเฉพาะปีคริสต์ศักราช ซึ่งก็เป็นเหตุผลธรรมดา เพราะกลไกดิจิตอลมาจากฝรั่งหรือมาจากคนที่อยู่ใต้อิทธิพลฝรั่ง กล่าวคือ ภาษาก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ตัวเลขก็ต้องเป็นเลขอารบิก ปีก็ต้องเป็น ค.ศ. ก็คือที่เรายอมรับกันว่าเป็นสากล ใช้แบบเดียวกันทั่วโลก
คำถามคือ เราจะละลายตัวเองเพื่อให้ไหลไปตามวัฒนธรรมสากล หรือว่าเราจะยืนหยัดรักษาเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของเราไว้
คงมีคนเป็นอันมากบอกว่า อะไรที่จำเป็นต้องไหลไปตามสากลเราก็ต้องยอมละลายตัวเอง แต่อะไรที่เป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ดีงามของเรา ก็ต้องยืนหยัดรักษาไว้
ตอบอย่างนี้ ปัญหาก็จะไปตกหนักที่-อะไรบ้างล่ะที่เป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ดีงามของเราที่จะต้องยืนหยัดรักษาไว้
เรามีภาพในใจที่เลือนราง แต่รายละเอียดคืออะไรบ้าง ยังไม่มีใครทำบัญชีไว้
หน่วยงานที่ควรรับผิดชอบตอบปัญหานี้คือกระทรวงวัฒนธรรม
แต่ผมไม่แน่ใจว่า ตั้งแต่ตัวรัฐมนตรีว่าการลงมาจนถึงนักการคนสุดท้ายของกระทรวงเคยเห็นบัญชีรายการเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ดีงามของเราที่จะต้องยืนหยัดรักษาไว้บ้างหรือเปล่า
ถ้าพูดอย่างนี้ฟังยาก ก็พูดใหม่
ในสถาบันการศึกษาของเรา เรากำลังปลูกฝังสั่งสอนอบรมกล่อมเกลาให้เด็กไทยและเยาวชนไทยประพฤติปฏิบัติอะไรในชีวิตประจำวันอันแสดงออกถึงเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ดีงามของเราที่จะต้องยืนหยัดรักษาไว้กันบ้างหรือเปล่า?
หรือว่าเราปล่อยให้ลอยไหลไปตามวัฒนธรรมสากลกันจนหมดสิ้น
…………………
ความคิดของผมก็คือ แทนที่จะคิดแก้ปัญหาระบบดิจิตอลที่ไม่อ่านเลขไทยด้วยการเลิกการใช้เลขไทย ทำไมไม่คิดแก้ปัญหาด้วยการปรับแก้ระบบดิจิตอลให้มันอ่านเลขไทยได้
เมื่อผมโพสต์เรื่องเกี่ยวกับกรณีให้เลิกใช้เลขไทยที่เอะอะกันอยู่ในตอนนั้น มีญาติมิตรท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นท้ายโพสต์ว่า
…………………………………………..
คราวหนึ่งโปรแกรมเมอร์คนหนึ่ง อายุยังไม่ถึงสามสิบปี เคยปรารภเรื่องตัวเลขว่า น่าจะใช้เลขอารบิกอย่างเดียว ใช้ ค.ศ. แทน พ.ศ. ด้วยยิ่งดี จะได้เขียนโค๊ดดิ้งง่าย
ผมพูดกับเขาว่า ทำไมไม่มองในมุมที่มันท้าทายล่ะ คนเขียนโค้ดดิ้งให้อ่านเลขไทย อ่าน พ.ศ.ได้ด้วย จะไม่เจ๋งกว่าคนเขียนได้แต่เลขอารบิก แต่ ค.ศ. หรือ?
เขาก็ไม่ได้เถียง แถมยอมรับและพูดว่า “เออจริง ผมลืมไป”
ในกรณีนี้ ก็คงแบบเดียวกัน
: นายตะวัน นาคกนิษฐ
…………………………………………..
การแก้ปัญหาด้วยวิธียอมละลายตัวเองไหลเข้าไปในระบบของอีกฝ่ายหนึ่งนี้ เวลานี้แม้แต่ในวงการพระสงฆ์ก็นิยมทำกันมาก
เช่น ชื่อ-พระมหาทองย้อย วรกวินฺโท ถ้าเอาไปเข้าระบบทะเบียนราษฎร์ของทางราชการ ระบบจะบันทึกออกมาว่า
“นาย พระมหาทองย้อย วรกวินฺโท”
ระบบมันไม่รับรู้สถานะ “พระมหา” ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะคนเขียนโปรแกรมสร้างระบบออกมาแบบนี้
ตัวอย่างข้างต้นนี้เป็นแต่เพียงได้ยินมา แต่ยังไม่เคยเห็นของจริง ที่เห็นของจริงแล้วก็คือ พระภิกษุสามเณรอาพาธ ถ้าเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของทางราชการ (และน่าจะของเอกชนด้วย) ต้องถอดจีวรออก แต่งชุดคนไข้ของโรงพยาบาล หมอ+พยาบาลที่เป็นผู้หญิงจับตัวพระเณรอาพาธ หมอสั่งให้ฉันอาหารมื้อเย็น ฯลฯ โรงพยาบาลไม่รับรู้หลักพระวินัยสิกขาบทใดๆ ทั้งสิ้น
และพระภิกษุสามเณรสมัยนี้ก็ยอมไหลตามระบบกันอย่างหน้าชื่นตาบาน
เหตุผลที่อ้างได้ตลอดไตรภูมิก็คือ รักษาชีวิตไว้ก่อน เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง – ทุกฝ่ายยอมสยบกับเหตุผลนี้
คำสั่งหมอจึงศักดิ์สิทธิ์กว่าคำสั่งพระพุทธเจ้า
เพราะอย่างนี้แหละ พระสมัยเก่า เมื่ออาพาธจึงแสดงแนวทางปฏิบัติไว้อย่างหนึ่ง นั่นคือ “สึกไปรักษาตัว” เพราะไม่ยอมให้คำสั่งหมออยู่เหนือคำสั่งพระพุทธเจ้า
แนวทาง “สึกไปรักษาตัว” นี้ พระสมัยใหม่ไม่รู้จักกันแล้ว เหลืออยู่แต่ในตำนาน
อีกตัวอย่างหนึ่ง กิจกรรมที่จัดเป็นสากล ผู้เข้าร่วมกิจกรรมถูกกำหนดให้มีป้ายแสดงตนคล้องคอ เราจะเห็นกันบ่อยๆ ว่า พระสงฆ์ไทยเวลาเข้าร่วมกิจกรรมเช่นนั้นก็จะมีป้ายห้อยคอเช่นเดียวกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นๆ
เป็นเรื่องที่ดูเล็กน้อยเต็มที ไม่ได้เสียหายอะไรเลย (คิดกันอย่างนั้น) แต่นี่คือตัวอย่างที่เราละลายตัวเองเพื่อให้ไหลไปกับวัฒนธรรมสากล
ถ้าทำเรื่องหนึ่งได้ ต่อไปเรื่องอื่นๆ ก็จะตามมาอีกเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับกรณีแนวคิดให้ใช้เลขอารบิกในเอกสารของทางราชการ-ซึ่งก็คือให้เลิกใช้เลขไทย ถ้าเห็นดีเห็นงาม-อ้างความจำเป็นกันได้เรื่องหนึ่ง ต่อไปเรื่องอื่นๆ ก็จะตามมา
ตอนนี้ก็-ให้ใช้เลขอารบิก เลิกใช้เลขไทย
ตอนนี้ก็-เฉพาะเอกสารของทางราชการ
ต่อไปก็-ทั้งเอกสารของทางราชการและของเอกชน และรวมไปถึงประชาชนทั่วไป
ใครใช้เลขไทย ไม่รับติดต่อราชการ
ต่อไปก็-ให้เลิกใช้ภาษาไทย ให้ใช้ภาษาอังกฤษ
ต่อไปอีก-ประกาศให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาของทางราชการ
ใครใช้ภาษาไทย ไม่รับติดต่อราชการ
ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุด อะไรที่เป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่ดีงามของก็จะค่อยๆ หมดไป
ไม่ใช่เฉพาะเลขไทย ภาษาไทย ที่เราแก้ปัญหาด้วยวิธียอมสยบให้ระบบดิจิตอล
แต่หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไทยก็จะหมดไปด้วย
ถ้าเราพอใจที่จะให้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่ต้องทำอะไร ไหลตามระบบดิจิตอลไปวันๆ สบายดีอย่างยิ่ง
แต่ถ้ายังรักความเป็นไทย ก็ต้องเริ่มคิดวิ่งนำหน้าระบบดิจิตอล ไม่ใช่ไหลตามระบบอย่างที่กำลังเป็นอยู่
เริ่มคิดวันนี้เลยก็ยังทัน-เพราะเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕
๑๓:๔๒
……………………………………………..
จากแนวคิดเลิกใช้เลขไทย
…………………………….
…………………………….