บาลีวันละคำ

เคารพอภิวันท์ (บาลีวันละคำ 3,870)

เคารพอภิวันท์

เคารพอภิวันท์

บันทึกไว้เพื่อมิให้สูญ

อ่านว่า เคา-รบ-อบ-พิ-วัน

(อ่านอย่างนี้เฉพาะในคำนี้)

ประกอบด้วยคำว่า เคารพ + อภิวันท์

(๑) “เคารพ” 

เทียบกลับเป็นบาลี ได้แก่คำว่า “คารว” อ่านว่า คา-ระ-วะ รากศัพท์มาจาก ครุ + ปัจจัย 

(ก) “ครุ” (คะ-รุ) รากศัพท์มาจาก –

(1) ครฺ (ธาตุ = ไหลไป; ลอยขึ้น) + อุ ปัจจัย

: ครฺ + อุ = ครุ แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่เลื่อนไหลกว้างขวางไป” (2) “ผู้ลอยเด่น” 

(2) คิรฺ (ธาตุ = คาย, หลั่ง) + อุ ปัจจัย, ลบสระต้นธาตุ (คิรฺ > ครฺ)

: คิรฺ + อุ = คิรุ > ครุ แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้คายความรักให้หมู่ศิษย์” (2) “ผู้หลั่งความรักไปในหมู่ศิษย์

ครุ” ในบาลีใช้ในความหมายว่า –

(1) หนัก, น้ำหนักบรรทุก (heavy, a load)

(2) สำคัญ, ควรเคารพ, พึงเคารพ (important, venerable, reverend)

(3) คนที่ควรนับถือ, ครู (a venerable person, a teacher)

(ข) ครุ + ปัจจัย, ลบ , แผลง อุ ที่ (ค)-รุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (ครุ > คโร > ครว), ทีฆะ อะ ที่ต้นศัพท์ คือ -(รว) เป็น อา ด้วยอำนาจ ปัจจัย (ครว > คารว

: ครุ + = ครุณ > ครุ > คโร > ครว > คารว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะแห่งครุ” หมายถึง การคารวะ, ความเคารพ, ความนับถือ (reverence, respect, esteem); ความยำเกรง, ความนอบน้อม (respect for, reverence towards)

ความหมายในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

คารวะ : (คำนาม) ความเคารพ, ความนับถือ. (คำกริยา) แสดงความเคารพ. (ป.).”

บาลี “คารว” สันสกฤตเป็น “เคารว

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ – 

เคารว : (คำนาม) ‘เคารพ,’ กีรติหรือเกียรติ; ความนับถือ; น้ำหนัก, ความหนัก; reputation; respectability: physical weight, heaviness.”

ในภาษาไทยใช้ตามรูปสันสกฤต (แผลง เป็น ) เป็น “เคารพ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

เคารพ : (คำกริยา) แสดงอาการนับถือ เช่น เคารพผู้ใหญ่ เคารพธงชาติ; ไม่ล่วงเกิน, ไม่ล่วงละเมิด, เช่น เคารพสิทธิของผู้อื่น. (ส. เคารว; ป. คารว).”

(๒) “อภิวันท์” 

เขียนแบบบาลีเป็น “อภิวนฺท” ถ้าใช้เป็นคำนาม ในบาลีพบแต่ที่เป็น “อภิวนฺทน” อ่านว่า อะ-พิ-วัน-ทะ-นะ รากศัพท์มาจาก อภิ (คำอุปสรรค = ยิ่ง, เหนือ) + วนฺทฺ (ธาตุ = ไหว้) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) 

: อภิ + วนฺทฺ = อภิวนฺทฺ + ยุ > อน = อภิวนฺทน แปลตามศัพท์ว่า “วิธีเป็นเครื่องไหว้อย่างยิ่ง” หมายถึง การสดุดี, การเคารพ, การไหว้; การยกย่อง, การบูชา (salutation, respect, paying homage; veneration, adoration)

อภิวนฺทน” เขียนแบบไทยเป็น “อภิวันทน์” อ่านว่า อะ-พิ-วัน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ไม่ได้เก็บคำว่า “อภิวันทน์” แต่เก็บคำว่า “อภิวันท์” บอกไว้ดังนี้ –

อภิวันท์ : (คำกริยา) กราบไหว้. (ส., ป.).”

พจนานุกรมฯ ไม่ได้บอกคำอ่าน แต่เมื่อว่าตามหลัก คำนี้ต้องอ่านว่า อะ-พิ-วัน

ขยายความ :

คำว่า “เคารพ” กับคำว่า “อภิวันท์” โดยปกติไม่ใช่คำที่ใช้ควบกัน แต่มีใช้ควบกันอยู่แห่งหนึ่งในคำไหว้ครูตอนที่ว่า –

…………..

๏ ข้าฯขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ 

ด้วยใจนิยมบูชา 

…………..

ผู้เขียนบาลีวันละคำได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์ว่า คำว่า “เคารพอภิวันท์” ในคำไหว้ครูนี้ ต้องอ่านว่า เคา-รบ-อบ-พิ-วัน

นั่นคือ คำว่า “อภิวันท์” ในที่ทั่วไปอ่านว่า อะ-พิ-วัน แต่เฉพาะในคำไหว้ครูนี้ ใช้ควบกับ “เคารพ” เป็น “เคารพอภิวันท์” ต้องอ่านว่า -อบ-พิ-วัน ไม่ใช่ อะ-พิ-วัน ทั้งนี้เพื่อให้ได้เสียงที่รับสัมผัสกับคำว่า “เคารพ” (-รบ-อบ-)

หรืออาจตั้งเป็นสูตรว่า ในบทกลอนบางแห่ง “อภิวันท์” อ่านว่า อบ-พิ-วัน

ผู้เขียนบาลีวันละคำไม่แน่ใจว่า เด็กไทยรุ่นใหม่ได้รับการถ่ายทอดเรื่องนี้กันบ้างหรือไม่ จึงขอนำมาบันทึกไว้ในที่นี้ เพื่อไม่ให้หลักวิชานี้สูญไป

…………..

คำไหว้ครูที่ใช้อยู่ในโรงเรียนต่างๆ มีข้อความเป็นร้อยกรองภาษาไทยดังนี้

…………..

๏ ข้าฯขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ 

ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา 

๏ ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา 

แก่ข้าฯในกาลปัจจุบัน 

๏ ข้าฯขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ 

ด้วยใจนิยมบูชา 

๏ ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา 

ปัญญาให้เกิดแตกฉาน 

๏ ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน 

อยู่ในศีลธรรมอันดี 

๏ ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี 

แก่ข้าฯและประเทศไทย เทอญ๚ะ๛

…………..

หมายเหตุ: ขอแรงญาติมิตรผู้อ่าน “บาลีวันละคำ” ช่วยสืบค้นหลักฐานจากต้นฉบับคำไหว้ครูตัวจริง (ไม่ใช่จากข้อความที่เอามาเผยแพร่กัน) ดังนี้ –

(1) คำว่า “ข้าฯ” มีไปยาลน้อยหรือไม่ (ข้าฯ/ข้า)

(2) ถ้ามี คำต่อมาต้องเว้นวรรคหรือติดกันกับเครื่องหมายไปยาลน้อย (ข้าฯขอ/ข้าฯ ขอ)

(3) บทสุดท้าย “แก่ข้าฯและประเทศไทย” หรือ “แก่ชาติและประเทศไทย”

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้คำไหว้ครูผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ

…………..

แถม :

ผู้แต่ง คำไหว้ครูภาษาไทย คือ ท่านผู้หญิง ดุษฎีมาลา มาลากุล แต่งในสมัยที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

(คำประพันธ์และข้อมูล จากโพสต์ของ Thongbai Dhirananandankura โพสต์ 16 มกราคม 2566)

…………..

ดูก่อนภราดา!

: สัตว์มันไม่มีครู

: คนไม่รู้คุณครูก็เท่ากับสัตว์

#บาลีวันละคำ (3,870)

16-01-66 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

……………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *