กิริยาบุญ (บาลีวันละคำ 4,098)
กิริยาบุญ
คำคนเก่า ฝากคนใหม่ให้ช่วยใช้
อ่านว่า กิ-ริ-ยา-บุน
ประกอบด้วยคำว่า กิริยา + บุญ
(๑) “กิริยา”
รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ณฺย ปัจจัย แปลง อ ที่ ก เป็น อิ, ลง อิ อาคม ที่ –ร, ลบ ณฺ + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
(1) แปลง อ ที่ ก เป็น อิ = กรฺ > กิรฺ
(2) ลง อิ อาคม ที่ –ร = กิรฺ > กิริ
(3) ลบ ณฺ = กิริ + ณฺย = กิริณฺย > กิริย
(4) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ = กิริย + อา > กิริยา
: กร > กิร + อิ = กิริ + ณฺย > ย = กิริย + อา = กิริยา
“กิริยา” ตามความหมายทั่วไป คือ การกระทำ, การปฏิบัติ, กรรม; การที่กระทำลงไป (action, performance, deed; the doing)
“กิริยา” ตามความหมายพิเศษ คือ การสัญญา, การสาบาน, การอุทิศ, การตั้งใจ, คำปฏิญาณ; ความยุติธรรม (promise, vow, dedication, intention, pledge; justice)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายความหมายของ “กิริยา” ไว้ดังนี้ –
…………..
1. การกระทำ หมายถึงการกระทำใดๆ ที่กล่าวถึงอย่างกว้างๆ หรืออย่างเป็นกลางๆ ถ้าเป็น “กิริยาพิเศษ” คือเป็นการกระทำซึ่งเป็นไปด้วยเจตนาที่ก่อให้เกิดวิบาก ก็เรียกว่า กรรม, การกระทำซึ่งเป็นไปด้วยเจตนาที่ไม่ก่อวิบาก เช่นการกระทำของพระอรหันต์ ไม่เรียกว่ากรรม แต่เป็นเพียงกิริยา (พูดให้สั้นว่า เจตนาที่ก่อวิบาก เป็นกรรม, เจตนาที่ไม่ก่อวิบาก ถ้ามิใช่เป็นวิบาก ก็เป็นกิริยา); ดู กรรม
2. ในภาษาไทย มักหมายถึงอาการแสดงออกทางกายในเชิงมารยาท บางทีใช้ควบคู่กันว่า กิริยามารยาท
3. ในทางไวยากรณ์ ได้แก่คำแสดงอาการหรือบอกการกระทำของนามหรือสรรพนาม, ในไวยากรณ์ไทย บางทีกำหนดให้ใช้รูปสันสกฤตว่า กริยา แต่ในบาลีไวยากรณ์โดยทั่วไป ใช้รูปบาลี คือ กิริยา
…………..
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กิริยา : (คำนาม) การกระทำ; อาการที่แสดงออกมาทางกาย, มารยาท, เช่น กิริยานอบน้อม กิริยาทราม. (ป.).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกว่า “กิริยา” หมายถึง “คำแสดงอาการหรือบอกการกระทำของนามหรือสรรพนาม, ในไวยากรณ์ไทย บางทีกำหนดให้ใช้รูปสันสกฤตว่า กริยา”
คำว่า “กริยา” ตามรูปสันสกฤต พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กริยา : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) คําที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม. (ส. กฺริยา; ป. กิริยา).”
อภิปรายแทรก :
โปรดสังเกตว่า “กิริยา” กับ “กริยา” ในภาษาไทยใช้ต่างกันเด็ดขาด กล่าวคือ –
“กิริยา” หมายถึง การกระทำหรืออาการที่แสดงออกมาทางกาย ไม่ใช้ในความหมายทางไวยากรณ์ที่ว่า “คําที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม”
“กริยา” เป็นคำที่ใช้ในไวยากรณ์เท่านั้น หมายถึง คําที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม ไม่ใช้ในความหมายว่าการกระทำหรืออาการที่แสดงออกมาทางกาย
ที่มักใช้กันผิดๆ ก็อย่างเช่น “กริยามารยาท” “บุญกริยาวัตถุ” คำเช่นนี้หมายถึง “การกระทำหรืออาการที่แสดงออกมาทางกาย” ต้องใช้คำว่า “กิริยา” ไม่ใช่ “กริยา”
เทียบคำอังกฤษอาจช่วยให้จำได้แม่นขึ้น –
กิริยา = action, doing
กริยา = verb
(๒) “บุญ”
บาลีเป็น “ปุญฺญ” อ่านว่า ปุน-ยะ รากศัพท์มาจาก –
(1) ปุ (ธาตุ = ชำระ สะอาด) + ณฺย ปัจจัย, ลง น อาคม, ลบ ณฺ, แปลง นฺย (คือ น อาคม + (ณฺ)-ย ปัจจัย) เป็น ญ, ซ้อน ญฺ
: ปุ + น + ณฺย = ปุนณฺย > ปุนฺย > (+ ญฺ) ญ = ปุญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “กรรมที่ชำระสันดานของตนให้สะอาด” “กรรมที่ชำระผู้ทำให้สะอาด”
(2) ปุชฺช (น่าบูชา) + ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ชฺช, ช และ ณ, แปลง นฺย เป็น ญ, ซ้อน ญฺ
: ปุชฺช + ชนฺ + = ปุชฺชชนฺ + ณฺย = ปุชฺชชนณฺย > ปุชนณฺย > ปุนณฺย > ปุนฺย > (+ ญฺ) ญ = ปุญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “สภาวะอันทำให้เกิดความน่าบูชา”
(3) ปุณฺณ (เต็ม) + กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺณ, ก และ ณ, แปลง รย (คือ ร ที่ กรฺ + ย ที่ ณฺย) เป็น ญ, ซ้อน ญฺ
: ปุณฺณ + กรฺ = ปุณฺณกร + ณฺย = ปุณฺณกรณฺย > ปุกรณฺย > ปุรณฺย > ปุรฺย > ปุ (+ ญฺ) ญ = ปุญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “การกระทำอันทำให้เต็มอิ่มสมน้ำใจ”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต แปล “บุญ” เป็นอังกฤษว่า merit; meritorious action; virtue; righteousness; moral acts; good works. adj. meritorious; good.
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปุญฺญ” ว่า merit, meritorious action, virtue (บุญ, กรรมดี, ความดี, กุศล)
“ปุญฺญ” สันสกฤตเป็น “ปุณฺย”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ปุณฺย : (คำคุณศัพท์) ‘บุณย, บุณย์,’ สาธุ, บริศุทธ์, ธรรมิก; สวย, น่ารัก; หอม; virtuous, pure, righteous; beautiful, pleasing; fragrant;- (คำนาม) สทาจาร, คุณธรรม; บุณย์หรือกรรมน์ดี; ความบริศุทธิ; virtue, moral or religious merit; a good action; purity.”
“ปุญฺญ” ภาษาไทยใช้ว่า “บุญ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“บุญ, บุญ– : (คำนาม) การกระทําดีตามหลักคําสอนในศาสนา; ความดี, คุณงามความดี. (คำวิเศษณ์) ดี เช่น คนใจบุญ, มีคุณงามความดี เช่น คนมีบุญ. (ป. ปุญฺญ; ส. ปุณฺย).”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 แก้คำนิยามใหม่เป็น –
“บุญ, บุญ– : (คำนาม) ความสุข เช่น หน้าตาอิ่มบุญ; การกระทําดีตามหลักคําสอนในพระพุทธศาสนา เช่น ไปทำบุญที่วัด; ความดี เช่น ปล่อยนกปล่อยปลาเอาบุญ, คุณงามความดี เช่น เขาทำบุญช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก, ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เช่น คนใจบุญ, ผลของการทำความดีจากชาติปางก่อน เช่น เขามีบุญจึงเกิดมาบนกองเงินกองทอง. (ป. ปุญฺญ; ส. ปุณฺย).”
กิริยา + บุญ = กิริยาบุญ เป็นคำประสมแบบไทย แปลว่า “การกระทำที่พอจะนับได้ว่าเป็นบุญ”
“กิริยาบุญ” เป็นคำของคนเก่า ผู้เขียนบาลีวันละคำเคยได้ยินและเคยได้อ่านคำที่ว่า “ทำพอเป็นกิริยาบุญ”
ตัวอย่างที่น่าจะเห็นได้ชัดก็อย่างเช่น ในงานทำบุญเลี้ยงพระ เจ้าภาพจัดดอกไม้ธูปเทียนเครื่องไทยธรรมใส่ถาดเวียนส่งให้แขกที่มาร่วมงานยกขึ้นจบเพื่ออนุโมทนา
กิริยาที่ยกถาดเครื่องไทยธรรมขึ้นจบนี่แหละ คนเก่าพูดว่า “ทำพอเป็นกิริยาบุญ”
คือ แม้แขกจะไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องไทยธรรม แต่การที่ยกถาดเครื่องไทยธรรมขึ้นจบก็นับว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เท่ากับมีส่วนร่วมในเครื่องไทยธรรมนั่นด้วย จึงพูดว่า “ทำพอเป็นกิริยาบุญ”
กับอีกนัยหนึ่ง หมายถึงทำการกุศลบางอย่างที่ไม่เต็มที่ตามรูปแบบ หรือทำแบบย่นย่อพอให้ได้ชื่อว่าทำ แบบนี้ก็เรียกว่า “ทำพอเป็นกิริยาบุญ” เช่นกัน
ผู้เขียนบาลีวันละคำขอฝากคำพูด “ทำพอเป็นกิริยาบุญ” ให้คนรุ่นใหม่ได้ช่วยกันรับรู้ และถ้าเห็นว่าเป็นคำที่มีความหมายงดงาม ก็โปรดช่วยกันพูดช่วยกันใช้ต่อๆ ไปด้วย เป็นการช่วยกันรักษาสมบัติวัฒนธรรมของชาติ
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เรียนคำ ไม่จน
: เรียนคน ไม่จบ
#บาลีวันละคำ (4,098)
1-9-66
…………………………….
…………………………….