อนามนฺตจาโร (บาลีวันละคำ 4,170)
อนามนฺตจาโร
อานิสงส์กฐินที่ไม่มีใครนึกถึง
…………..
ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้วย่อมได้อานิสงส์ (คือข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระวินัย) 5 ประการ (เหมือนอานิสงส์การจำพรรษา) คือ
(1) จาริกไปไม่ต้องบอกลา
(2) จาริกไปไม่ต้องเอาไตรจีวรไปครบสำรับ
(3) ฉันคณโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้
(4) เก็บอดิเรกจีวรได้ตามปรารถนา
(5) จีวรอันเกิดขึ้นในที่นั้นเป็นของได้แก่พวกเธอ
อานิสงส์กฐินทั้ง 5 ข้อนี้ควรแก่การศึกษาให้เข้าใจ
คำหนึ่งที่น่ารู้คือ “จาริกไปไม่ต้องบอกลา”
“จาริกไปไม่ต้องบอกลา” หมายความว่าอย่างไร?
“จาริกไปไม่ต้องบอกลา” แปลมาจากคำบาลีว่า “อนามนฺตจาโร” อ่านว่า อะ-นา-มัน-ตะ-จา-โร แยกศัพท์เป็น อนามนฺต + จาโร
(๑) “อนามนฺต”
อ่านว่า อะ-นา-มัน-ตะ รูปคำเดิมมาจาก น + อามนฺต
(ก) “น” บาลีอ่านว่า นะ เป็นคำจำพวก “นิบาต” คำจำพวกนี้ไม่แจกด้วยวิภัตติปัจจัย คือคงรูปเดิมเสมอ อาจเปลี่ยนรูปโดยวิธีสนธิกับคำอื่นบ้าง แต่คงถือว่าเป็นคำเดิมเพราะเวลาแปลต้องแยกคำออกเป็นคำเดิมเสมอ
นักเรียนบาลีมักท่องจำรวมกับคำอื่นในกลุ่มเดียวกันว่า “น ไม่ โน ไม่ มา อย่า ว เทียว” (น [นะ] = ไม่, โน = ไม่, มา = อย่า, ว [วะ] = เทียว)
“น” เป็นนิบาตบอกความปฏิเสธ แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not)
(ข) “อามนฺต” อ่านว่า อา-มัน-ตะ รากศัพท์มาจาก อา (คำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง, กลับความ) + มนฺตฺ (ธาตุ = ปรึกษา) + อ (อะ) ปัจจัย
: อา + มนฺตฺ = อามนฺตฺ + อ = อามนฺต แปลตามศัพท์ว่า “การถามโดยเอื้อเฟื้อ” หมายถึง การบอกกล่าว หรือการบอกลา (permission or leave)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปลว่า “อามนฺต” ว่า asking or asked, invited (ขอร้องหรือถูกร้องเรียก, ถูกเชื้อเชิญ)
อีกคำหนึ่งที่รากศัพท์เดียวกัน คือ “อามนฺตน” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปลว่า addressing, calling; invitation, greeting (การเรียกขาน, การร้องเรียก; การเชื้อเชิญ, การต้อนรับ)
น + อามนฺต
ตามกฎไวยากรณ์บาลี :
(1) ถ้าพยางค์แรกของคำที่ “น” ไปประสมด้วย ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ท่านให้แปลง “น” เป็น “อ” (อะ)
(2) ถ้าพยางค์แรกของคำที่ “น” ไปประสมด้วย ขึ้นต้นด้วยสระ คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ท่านให้แปลง “น” เป็น “อน” (อะ-นะ)
ในที่นี้ “อามนฺต” ขึ้นต้นด้วยสระ ดังนั้นจึงต้องแปลง “น” เป็น “อน”
: น > อน + อามนฺตฺ = อนามนฺต แปลว่า “การไม่บอกลา”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อนามนฺต” ว่า without being asked, unasked, uninvited (ไม่ถูกขอร้อง, ไม่ถูกถามหา, ไม่ถูกเชื้อเชิญ)
(๒) “จาโร”
รูปคำเดิมเป็น “จาร” บาลีอ่านว่า จา-ระ รากศัพท์มาจาก จรฺ (ธาตุ = ประพฤติ; ศึกษา) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, “ทีฆะต้นธาตุ” คือ อะ ที่ จ-(รฺ) เป็น อา (จรฺ > จาร)
: จรฺ + ณ = จรณ > จร > จาร แปลตามศัพท์ว่า “การเที่ยวไป” “การประพฤติ” หมายถึง การเคลื่อนไหว, การเดิน, การไป; การกระทำ, ความประพฤติ, การปฏิบัติ, พิธีกรรม (motion, walking, going; doing, behaviour, action, process)
อนามนฺต + จาร = อนามนฺตจาร (อะ-นา-มัน-ตะ-จา-ระ) แปลว่า “การไปโดยไม่บอกลา”
ในอานิสงส์กฐิน ท่านแปล “อนามนฺตจาร” ว่า จาริกไปไม่ต้องบอกลา
“อนามนฺตจาร” แจกด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง (ปฐมาวิภัตติ) เอกวจนะ ปุงลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “อนามนฺตจาโร”
ขยายความ :
อานิสงส์กฐินข้อนี้ ท่านระบุลงไปด้วยว่า “จาริกไปไม่ต้องบอกลาตามสิกขาบทที่ 6 แห่งอเจลกวรรค” หมายความว่า กรณีที่ไม่ต้องบอกลานั้นคือการบอกลาตามที่กำหนดไว้ในสิกขาบทที่ 6 แห่งอเจลกวรรค
สิกขาบทที่ 6 แห่งอเจลกวรรค บัญญัติไว้ดังนี้ –
…………..
โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย อญฺญตฺร สมยา ปาจิตฺติยํ ฯ ตตฺถายํ สมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อยํ ตตฺถ สมโยติ ฯ
ที่มา: วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 2 ข้อ 551
…………..
หนังสือ วินัยมุขเล่ม 1 พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แปลไว้ดังนี้ –
…………..
อนึ่ง ภิกษุใดรับนิมนต์แล้ว มีภัตอยู่แล้ว ไม่บอกลาภิกษุซึ่งมีอยู่ ถึงความเป็นผู้เที่ยวไปในสกุลทั้งหลาย ก่อนฉันก็ดี ทีหลังฉันก็ดี เว้นไว้แต่สมัย เป็นปาจิตตีย์ นี้สมัยในเรื่องนั้น คือคราวที่ถวายจีวร คราวที่ทำจีวร
ที่มา: วินัยมุขเล่ม 1 หน้า 157
…………..
หนังสือ “นวโกวาท” พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แปลสรุปไว้ดังนี้ –
…………..
ภิกษุรับนิมนต์ด้วยโภชนะทั้ง 5 แล้ว จะไปในที่อื่นจากที่นิมนต์นั้น ในเวลาก่อนฉันก็ดี ฉันกลับมาแล้วก็ดี ต้องลาภิกษุที่มีอยู่ในวัดก่อนจึงจะไปได้ ถ้าไม่ลาก่อนเที่ยวไป ต้องปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่สมัย คือจีวรกาลและเวลาทำจีวร
…………..
สิกขาบทนี้มีรายละเอียดอีกบ้าง แต่ในชั้นต้นนี้ ขอให้ทำความเข้าใจเป็นพื้นฐานไว้ทีหนึ่งก่อนว่า ภิกษุอยู่ด้วยกัน จะไปไหนมาไหนต้องกล่าวให้กันรู้ นี่เป็นธรรมเนียมของคนอยู่ด้วยกัน ถ้าไปโดยไม่บอกกล่าว มีความผิด คือที่เรียกว่า “ต้องอาบัติ”
แต่ถ้าภิกษุได้กรานกฐิน (ที่เราเรียกกันว่าได้รับกฐิน) จะได้รับสิทธิพิเศษ คือ อยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนแม้ไม่บอกกล่าวให้กันรู้ ก็ไม่ต้องอาบัติ
สิทธิพิเศษข้อนี้ได้รับเป็นเวลา 5 เดือนนับจากวันออกพรรษา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: มีสิทธิ์ แต่ไม่ขอใช้สิทธิ์
: เป็นวิถีที่บัณฑิตนิยมประพฤติกัน
#บาลีวันละคำ (4,170)
12-11-66
…………………………….
…………………………….