เกสมัสสุ (บาลีวันละคำ 4,343)
เกสมัสสุ
เรียนบาลีจากภาษาไทยที่เขียนผิด
อ่านว่า เก-สะ-มัด-สุ
ประกอบด้วยคำว่า เกส + มัสสุ
(๑) “เกส”
อ่านว่า เก-สะ รากศัพท์มาจาก –
(1) เก (ศีรษะ, หัว) + สี (ธาตุ = อยู่, นอน) + อ (อะ) ปัจจัย, “ลบสระหน้า” คือลบ อี ที่ สี (สี > ส)
: เก + สี = เกสี > เกส + อ = เกส แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่อยู่บนศีรษะ”
(2) เก (ศีรษะ, หัว) + ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + อ (อะ) ปัจจัย, ลบ นฺ ที่สุดธาตุแล้วแปลง ช เป็น ส (ชนฺ > ช > ส)
: เก + ชนฺ = เกชนฺ + อ = เกชน > เกช > เกส แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เกิดอยู่บนศีรษะ”
“เกส” (ปุงลิงค์) หมายถึง เส้นผม (the hair of the head)
บาลี “เกส” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้เป็น เกส, เกสา, เกสี; เกศ, เกศา, เกศี
ในที่นี้ขอยกมาเฉพาะ “เกศ” พจนานุกรมฯ บอกไว้ดังนี้ –
“เกศ, เกศ– : (คำแบบ) (คำนาม) ผม, ในบทกลอนใช้หมายถึง หัว ก็มี เช่น ก้มเกศ.”
โปรดสังเกตว่า ในภาษาบาลี “เกส” หมายถึง เส้นผม (hair) เท่านั้น แต่ในภาษาไทย “เกศ” หมายถึง หัว (head) ด้วย
(๒) “มัสสุ”
เขียนแบบบาลีเป็น “มสฺสุ” อ่านว่า มัด-สุ รากศัพท์มาจาก มสฺ (ธาตุ = จับต้อง) + สุ ปัจจัย
: มสฺ + สุ = มสฺสุ แปลตามศัพท์ว่า “ขนอันเขาลูบคลำ” หมายถึง หนวด, เครา (the beard)
บาลี “มสฺสุ” เขียนแบบไทยเป็น “มัสสุ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“มัสสุ : (คำนาม) หนวด, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระมัสสุ. (ป.).”
ขยายความ :
ผู้เขียนบาลีวันละคำอ่านพบข้อความในโพสต์แห่งหนึ่งเขียนว่า “… ปรงผมบวชแล้ว” เห็นคำว่า “ปรงผม” ก็นึกปลงสังเวช
“ปรงผม” ป-ร-ง ร เรือ ไม่มี
มีแต่ “ปลงผม” ป-ล-ง ล ลิง
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 มีคำว่า “ปลง” และ “ปลงผม” บอกไว้ดังนี้ –
(1) ปลง : (คำกริยา) เอาลง เช่น ปลงหม้อข้าว, ปล่อยหรือเปลื้องให้พ้นไป (ในลักษณะที่รู้สึกว่าหนักอยู่) เช่น ปลงหาบ; เมื่อใช้ประกอบกับคําอื่น มีความหมายต่าง ๆ.
(2) ปลงผม : (คำกริยา) โกนผม (ใช้แก่บรรพชิต).
ส่วนคำว่า “ปรง” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“ปรง : (คำนาม) (๑) ชื่อเฟิน ๒ ชนิดในสกุล Acrostichum วงศ์ Pteridaceae ต้นเป็นกอขึ้นริมนํ้า ใบยาวเป็นทาง ใบอ่อนสีแดง กินได้ คือ ปรงทะเล (A. aureum L.) และ ปรงหนู (A. speciosum Willd.).(๒) ชื่อพรรณไม้ในกลุ่มพืชเมล็ดเปลือยหลายชนิดในสกุล Cycas วงศ์ Cycadaceae เป็นไม้ต้น ลําต้นรูปทรงกระบอก สีดําขรุขระ ใบเล็กยาวเรียงถี่ ๆ บนแกนกลาง เช่น ปรงญี่ปุ่น (C. revoluta Thunb.) ใบใช้ทําพวงหรีด ปรงเขา (C. pectinata Griff.).”
…………..
คนไทยเดี๋ยวนี้เขียนภาษาไทยอย่าง “รักง่าย” กันมากขึ้น เฉพาะคำนี้ขอยกประโยชน์ให้จำเลยว่า คงเผลอไป ใช้ ร เรือ แทน ล ลิง
แต่ถ้าตั้งใจสะกดอย่างนั้นจริง ๆ เพราะเชื่อว่า “ปรงผม” สะกดอย่างนี้ถูกต้องแล้ว ก็ควรแก่การสังเวชจริง ๆ
สรุปว่า “ปรงผม” ไม่มี อย่าสะกดอย่างนี้ และอย่าเผลอแสะกดอย่างนี้
คำที่ถูกต้องคือ “ปลงผม” (ป-ล-ง ล ลิง)
ในบาลีมีคำที่แปลเป็นไทยว่า “ปลงผมและหนวด” คำบาลีว่า “เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา”
“เกสมสฺสุํ” อ่านว่า เก-สะ-มัด-สุง รูปคำเดิมเป็น “เกสมสฺสุ” คือที่เอามาตั้งเป็นบาลีวันละคำว่า “เกสมัสสุ”
“เกสมสฺสุ” แจกด้วยวิภัตตินามที่สอง (ทุติยาวิภัตติ) เอกวจนะ นปุงสกลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “เกสมสฺสุํ”
ข้อความเต็ม ๆ ของ “เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา” ควรแก่การศึกษา เป็นคำรำพึงหรือความคิดคำนึงของผู้มีจิตศรัทธาจะอุปสมบทในพระพุทธศาสนา
ขอยกมาให้ศึกษาเพื่อเจริญศรัทธาดังนี้ –
(ความต่อไปนี้เป็นพระพุทธดำรัสตรัสแก่พระเจ้าอชาตศัตรู ณ สวนมะม่วงของหมอชีวก ทรงแสดงถึงบุคคลที่สนใจพระพุทธศาสนาจนถึงได้ฟังธรรมแล้วออกบวช)
…………..
โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ ฯ
ครั้นฟังธรรมนั้นแล้ว ได้ศรัทธาในพระตถาคต
โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ
เมื่อได้ศรัทธาแล้ว ย่อมเห็นตระหนักว่า
สมฺพาโธ ฆราวาโส
ฆราวาสคับแคบ
รชาปโถ
เป็นทางมาแห่งธุลี
อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา
บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง
นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สํขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ
การที่บุคคลผู้ครองเรือนจะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์บริสุทธิ์โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัด ไม่ใช่ทำได้ง่าย
ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ ฯ
อย่ากระนั้นเลย เราพึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ออกบวชเป็นบรรพชิตเถิด
ที่มา: สามัญญผลสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
พระไตรปิฎกเล่ม ๙ ข้อ ๑๐๒ เป็นต้น
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ไม่เรียนรู้ภาษาไทย ก็ใช้ภาษาผิด
: ไม่เรียนรู้พระไตรปิฎก ก็เข้าใจพระพุทธศาสนาผิด
#บาลีวันละคำ (4,343)
3-5-67
…………………………….
…………………………….