สังฆปูรณ (บาลีวันละคำ 4,406)
สังฆปูรณ
หนึ่งใน 3 สังฆ์
ท่านว่านักบวช-รวมทั้งสมาชิกของหมู่คณะ-มี 3 สังฆ์ คือ –
สังฆโสภณ (สัง-คะ-โส-พน) = บวชเข้ามาทำให้ศาสนางดงาม
สังฆหายน (สัง-คะ-หา-ยน) = บวชเข้ามาทำให้ศาสนาเสื่อมทราม
สังฆปูรณ (สัง-คะ-ปู-รน) = บวชเข้ามาเป็นอาสาเฝ้าอาราม
…………..
“สังฆปูรณ” อ่านโดยประสงค์ว่า สัง-คะ-ปู-รน ประกอบด้วยคำว่า สังฆ + ปูรณ
(๑) “สังฆ”
เขียนแบบบาลีเป็น “สงฺฆ” อ่านว่า สัง-คะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + หนฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย, แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ง (สํ > สงฺ), แปลง หนฺ เป็น ฆ
: สํ > สงฺ + หนฺ > ฆ + อ = สงฺฆ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “หมู่เป็นที่ไปรวมกันแห่งส่วนย่อยโดยไม่แปลกกัน” หมายความว่า ส่วนย่อยที่มีคุณสมบัติหลักๆ “ไม่แปลกกัน” คือมีคุณสมบัติตรงกัน เหมือนกัน ส่วนย่อยดังกล่าวนี้ไปอยู่รวมกัน คือเกาะกลุ่มกัน ดังนี้เรียกว่า “สงฺฆ”
(2) “หมู่ที่รวมกันโดยมีความเห็นและศีลเสมอกัน” ความหมายนี้เล็งที่บรรพชิตหรือสาวกที่เป็นนักบวชในลัทธิศาสนาต่างๆ เช่นภิกษุในพระพุทธศาสนาเป็นต้น ต้องมีความคิดเห็นและความประพฤติลงรอยกันจึงจะรวมเป็น “สงฺฆ” อยู่ได้
“สงฺฆ” จึงหมายถึง หมู่, กอง, กลุ่ม, คณะ
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สงฺฆ” เป็นอังกฤษว่า –
(1) multitude, assemblage (ฝูงชน, ชุมนุมชน, หมู่, ฝูง)
(2) the Order, the priesthood, the clergy, the Buddhist church (คณะสงฆ์, พระ, นักบวช, พุทธจักร)
(3) a larger assemblage, a community (กลุ่มใหญ่, ประชาคม)
“สงฺฆ” ปกติในภาษาไทยใช้ว่า “สงฆ์” ถ้าอยู่หน้าคำสมาสมักใช้เป็น “สังฆ-”
“สงฆ์” ในพระพุทธศาสนามีความหมาย 2 อย่าง คือ –
(1) “สาวกสงฆ์” หมายถึงหมู่สาวกของพระพุทธเจ้า ที่ได้บรรลุธรรมในภูมิอริยบุคคลคือเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ดังคำสวดในสังฆคุณที่ว่า สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ
(2) “ภิกขุสงฆ์” หมายถึงชุมนุมภิกษุหมู่หนึ่งตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป ซึ่งสามารถประกอบสังฆกรรมได้ตามกำหนดทางพระวินัย
บางทีเรียกอย่างแรกว่า “อริยสงฆ์” อย่างหลังว่า “สมมติสงฆ์”
ในที่นี้ “สงฺฆ – สงฆ์” หมายถึง “หมู่คณะ” โดยตรง และหมายถึง “ศาสนา” โดยนัย
(๒) “ปูรณ”
บาลีอ่านว่า ปู-ระ-นะ รากศัพท์มาจาก –
อ่านว่า ปู-ระ-นี รากศัพท์มาจาก ปูรฺ (ธาตุ = เต็ม) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แปลง น เป็น ณ
: ปูรฺ + ยุ > อน = ปูรน > ปูรณ แปลตามศัพท์ว่า “การทำให้เต็ม” หรือ “สิ่งที่ทำให้เต็ม” หมายถึง ทำให้เต็ม, ทำให้อิ่ม (filling)
บาลี “ปูรณ” ในภาษาไทยใช้เป็น “บูรณ-” (มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย) และ “บูรณ์” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บูรณ-, บูรณ์ : (คำวิเศษณ์) เต็ม. (ป., ส. ปูรณ).”
ในที่นี้ใช้คงรูปบาลีเป็น “ปูรณ” อ่านโดยประสงค์ว่า ปู-รน
สงฺฆ + ปูรณ = สงฺฆปูรณ แปลว่า “ทำสงฆ์ให้เต็ม” “ทำหมู่คณะให้เต็ม”
“สงฺฆปูรณ” เขียนแบบบาลี อ่านว่า สัง-คะ-ปู-ระ-นะ
เขียนแบบไทยเป็น “สังฆปูรณ” อ่านโดยประสงค์ว่า สัง-คะ-ปู-รน
ขยายความ :
“สังฆปูรณ” ผู้ทำหมู่คณะให้เต็ม มีความหมายว่า หมู่นั้นคณะนั้นควรจะมีสมาชิกเป็นจำนวนเท่าใดจึงจะสามารถดำรงความเป็นหมู่คณะอยู่ได้ ถ้าเป็นการประชุม ก็คือต้องมีสมาชิกมาประชุมเป็นจำนวนเท่าไรจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม คนชนิดนี้ก็เข้าร่วมอยู่ในหมู่คณะนั้นเพื่อให้มีจำนวนครบตามกฎเกณฑ์ แต่ไม่ทำประโยชน์อะไรให้หมู่คณะ เพราะไม่สามารถจะทำได้ หรือสามารถจะทำได้ แต่ก็ไม่มีแก่ใจที่จะทำหรือไม่มีความคิดไม่มีอุดมคติอุดมการณ์ที่จะทำ
ถ้าเป็นพระ ก็เป็นอย่างที่เรียกกันว่า-อยู่เฝ้าวัด
ไม่ได้ทำให้วัดเสื่อม
แต่ก็ไม่ได้ทำให้วัดเจริญ
ทำได้แค่-อยู่เฝ้าวัด
…………..
ดูก่อนภราดา!
ความเหมือนกันระหว่างคนใบ้กับคนเขลา คือ ไม่พูด
แต่ความต่างกัน คือ –
: คนใบ้ไม่พูด เพราะพูดไม่ได้
: คนเขลาไม่พูด เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
#บาลีวันละคำ (4,406)
5-7-67
…………………………….
…………………………….