บาลีวันละคำ

ภุมริน (บาลีวันละคำ 4,207)

ภุมริน

บินมาจากไหน

อ่านว่า พุม-มะ-ริน

ภุมริน” เป็นคำที่แผลงมาจาก “ภมร” ในบาลี

ภมร” บาลีอ่านว่า พะ-มะ-ระ รากศัพท์มาจาก ภมฺ (ธาตุ = หมุน, วน) + อร (อะ-ระ) ปัจจัย

: ภมฺ + อร = ภมร (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้วนเวียนอยู่บนเกสรดอกไม้

ภมร” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) แมลงผึ้ง (a bee)

(2) “เส้นหรือสายที่ทำเสียง”, หนึ่งในพิณ 7 สาย (“the string that sounds,” one of the seven strings of the lute)

บาลี “ภมร” สันสกฤตเป็น “ภฺรมร

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

ภฺรมร : (คำนาม) สิ่งซึ่งหมุนเวียน; แมลงภู่ (หรือผึ้งดำใหญ่): what whirls or goes round; a large black bee.”

ในภาษาไทยใช้เป็น “ภมร” ตามรูปบาลี แต่อ่านว่า พะ-มอน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

ภมร : (คำนาม)  แมลงผึ้ง, แมลงภู่, ใช้ว่า ภุมระ ก็มี; เครื่องกลึง. (คำกริยา) หมุน. (ป.; ส. ภฺรมร).”

ขยายความ :

โปรดสังเกตว่า “ภมร” ที่เราคุ้นกันว่า แปลว่า แมลงผึ้ง, แมลงภู่ นั้น ยังมีคำแปลอีก 2 อย่างที่เราไม่คุ้น คือเป็นคำนามแปลว่า เครื่องกลึง เป็นคำกริยา แปลว่า หมุน 

รากศัพท์ “ภมร” มาจาก ภมฺ ธาตุ แปลว่า หมุน, วน (ดูข้างต้น) “ภมร” ที่หมายถึง เครื่องกลึง ก็เดาได้ไม่ยาก เพราะเครื่องกลึงเป็นอุปกรณ์เมื่อใช้งานจะเห็นอาการหมุนไปหมุนมา ส่วนที่แปลว่า หมุน ก็เป็นความหมายตรงตัวของธาตุอันเป็นรากศัพท์

ภมร” ที่แปลว่า เครื่องกลึง และเป็นคำกริยาแปลว่า หมุน นั้น เป็นคำที่ใช้ในภาษาหนังสือ หรือภาษาเขียน ไม่ใช่ภาษาพูดทั่วไป เราจึงไม่คุ้น

ภมร” ในภาษาไทย เมื่อใช้ในกาพย์กลอน กวีมักแผลงคำเพื่อให้ได้เสียงสัมผัส คำไทยที่ออกมาจาก “ภมร” เท่าที่มีในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 มีดังนี้ –

(1) ภมริน [พะมะริน] : (คำนาม) ผึ้งทั่วไป, ใช้ว่า ภุมริน ก็ได้.

(2) ภมรี [พะมะรี] : (คำนาม) ผึ้ง, ผึ้งตัวเมีย, ผึ้งทั่วไป, ใช้ว่า ภุมรี ก็ได้. (ป.).

(3) ภุมระ, ภุมรา, ภุมริน, ภุมรี, ภุมเรศ [พุมมะ-] : (คำนาม) ภมร, แมลงผึ้ง, แมลงภู่.

คำแผลงเหล่านี้ ที่มักใช้ทั้งพูดและเขียนกันทั่วไปมากกว่ารูปคำอื่น คือ “ภุมรา” และ “ภุมริน” อาจเป็นเพราะเสียงรื่นไหลดีกว่าคำอื่น

“ภุมรา” อ่านว่า พุม-มะ-รา

“ภุมริน” อ่านว่า พุม-มะ-ริน

ภุมริน” นั้น สะกดเกลี้ยง ๆ แบบนี้ อย่าเขียนเพลินไปเป็น “ภุมรินทร์”

แถม :

ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ 

วณฺณคนฺธํ อเหฐยํ 

ปเลติ รสมาทาย 

เอวํ คาเม มุนี จเร ฯ

มุนีพึงจาริกไปในเขตคาม 

ไม่ทำลายศรัทธาและโภคะของชาวบ้าน 

ดุจภมรดูดรสหวานของบุปผชาติแล้วจากไป 

ไม่ให้สีและกลิ่นชอกช้ำ 

As a bee takes honey from the flowers, 

Leaving it colour and fragrance unharmed, 

So should the sage wander in the village.

ที่มา: 

คำบาลี: ปุปผวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 14 

คำแปลเป็นไทยและคำอังกฤษ: หนังสือ “พุทธวจนะในธรรมบท” โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ผึ้งไม่รู้ธรรม แต่มันทำน้ำผึ้งแท้

: คนรู้ธรรมได้แท้ ๆ แต่ทำน้ำผึ้งเทียม

#บาลีวันละคำ (4,207)

19-12-66

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *