เทวทัณฑ์ (บาลีวันละคำ 4,210)
เทวทัณฑ์
คือฟ้าผ่า
อ่านว่า เท-วะ-ทัน
ประกอบด้วยคำว่า เทว + ทัณฑ์
(๑) “เทว”
อ่านว่า เท-วะ รากศัพท์มาจาก ทิวฺ (ธาตุ = รุ่งเรือง, เล่น, สนุก, เพลิดเพลิน) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ทิ-(วฺ) เป็น เอ (ทิวฺ > เทว)
: ทิวฺ + อ = ทิว > เทว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ของตน” (2) “ผู้เพลิดเพลินด้วยเบญจกามคุณ” (3) “ที่เป็นที่เพลิดเพลินแห่งพวกเทวดา” (4) “สิ่งเป็นเหตุเพลิดเพลินแห่งชาวโลก”
ความหมายของ “เทว” ที่มักเข้าใจกัน คือหมายถึง เทพเจ้า, เทวดา
แต่ความจริง “เทว” ในบาลียังมีความหมายอีกหลายอย่าง
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “เทว” ไว้ดังนี้ –
(1) good etc. (สิ่งที่ดี และอื่นๆ)
(2) a god, a deity, a divine being (เทวดา, เทพเจ้า, เทพ)
(3) the sky, rain-cloud, rainy sky, rain-god (ท้องฟ้า, เมฆฝน, ท้องฟ้ามีฝน, เทพแห่งฝน)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“เทว– ๑ : (คำแบบ) (คำนาม) เทวดา, มักใช้ประกอบหน้าศัพท์อื่น. (ป., ส.).”
(๒) “ทัณฑ์”
บาลีเป็น “ทณฺฑ” อ่านว่า ทัน-ดะ (ฑ มณโฑ ออกเสียงเหมือน ด เด็ก) รากศัพท์มาจาก –
(1) ทมฺ (ธาตุ = ฝึก, ข่ม, ทรมาน) + ฑ ปัจจัย, แปลง มฺ เป็น ณฺ
: ทมฺ > ทณฺ + ฑ = ทณฺฑ แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องทรมานฝึกฝน” หมายถึง การลงทัณฑ์, การทรมาน, การลงอาญา, การถูกปรับ
(2) ทฑิ (ธาตุ = ตี, ประหาร) + ก ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมที่ต้นธาตุแล้วแปลงเป็น ณฺ, ลบ ก และสระที่สุดธาตุ
: ทฑิ > ทํฑิ > ทณฺฑิ > ทณฺฑ + ก = ทณฺฑก > ทณฺฑ แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องตี” หมายถึง ท่อนไม้, ไม้เท้า, ไม้เรียว
“ทณฺฑ” (ปุงลิงค์) มีความหมายหลัก 2 อย่าง คือ ไม้ที่หยิบถือได้ (a stick, staff, rod) และ การลงโทษ (punishment)
ในที่นี้ “ทณฺฑ” หมายถึงการลงโทษ
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ทัณฑ-, ทัณฑ์ : (คำนาม) โทษที่เนื่องด้วยความผิด; (คำที่ใช้ในกฎหมาย) โทษทางวินัยที่ใช้แก่ทหารที่กระทำความผิดมี ๕ สถาน ได้แก่ ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กัก ขัง และจำขัง. (ป., ส.).”
เทว + ทณฺฑ = เทวทณฺฑ (เท-วะ-ทัน-ดะ) แปลตามศัพท์ว่า “ทัณฑ์ของเทพ” หรือ “ทัณฑ์ของเทวดา” นักเรียนบาลีแปลกันว่า “อาชญาของเทวดา”
“เทวทณฺฑ” ในภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า “เทวทัณฑ์”
ขยายความ :
“เทวทัณฑ์” หมายถึงอะไร?
คัมภีร์อรรถกถาขยายความไว้ดังนี้ –
…………..
อสนิยา ปาโต ปตนํ อสนีปาโต เทวทณฺโฑติ อตฺโถ ฯ
การตกลงแห่งสายฟ้า คืออสนีปาโต ชื่อว่า เทวทัณฑ์
ที่มา: วิสุทธชนวิลาสินี (อรรถกถาอปทาน) ภาค 2 หน้า 170 (ฐิตัญชลิยเถราปทาน)
…………..
สมนฺตโต อสนิโยติ สพฺพทิสาภาคโต อสเน วินาสเน นิยุตฺโตติ อสนิโย เทวทณฺฑา ภยาวหา ผลึสูติ สมฺพนฺโธ ฯ
คำว่า สมนฺตโต อสนิโย ประมวลความว่า สายฟ้าชื่อว่าอสนี เพราะตกลงมาทำให้พินาศรอบทิศทาง เทวทัณฑ์คืออสนีดังว่านี้อันนำมาซึ่งความหวาดกลัวได้ผ่าแล้ว
ที่มา: วิสุทธชนวิลาสินี (อรรถกถาอปทาน) ภาค 2 หน้า 384-385 (ทัพพมัลลปุตตเถราปทาน)
…………..
ตามคำอธิบายของอรรถกถา ยุติได้ว่า “เทวทัณฑ์” หมายถึง สายฟ้า คือฟ้าผ่า
ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร?
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ฟ้าผ่า : (คำนาม) ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากอิเล็กตรอนจำนวนมากเคลื่อนที่ระหว่างเมฆกับพื้นโลก เกิดพลังงานสูงมากจนสามารถทำลายสิ่งที่กีดขวาง เช่น คน สัตว์ ต้นไม้ บ้านเรือน.”
สายฟ้าหรือฟ้าผ่ามาจากเมฆ ดังนั้น คำว่า “เทว” ในที่นี้จึงไม่ใช่เทวดาทั่วไปดังที่เรามักเข้าใจกัน แต่หมายถึง ท้องฟ้า, เมฆฝน, ท้องฟ้ามีฝน (the sky, rain-cloud, rainy sky) (ความหมายของ “เทว” ข้างต้น)
…………..
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่าอย่างไร?
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“เทวทัณฑ์ : (คำนาม) อาชญาเทวดา, เทวดาลงโทษ, บางทีประสงค์เอาฟ้าผ่า.”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้คำนิยามใหม่ เป็นดังนี้ –
“เทวทัณฑ์ : (คำนาม) การลงโทษของเทวดา, เทวดาลงโทษ, เช่น คนถูกฟ้าผ่าตายถือว่าเป็นเทวทัณฑ์.”
…………..
คำนิยามของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ที่ว่า “บางทีประสงค์เอาฟ้าผ่า” นับว่าสอดคล้องกับคำอธิบายของอรรถกถา
เมื่อ “เทว” หมายถึง เมฆฝน (rain-cloud) เราก็บอกคนรุ่นใหม่ได้ว่า “เทวทัณฑ์” หมายถึงฟ้าผ่า ก็คือธรรมชาติคือเมฆฝนลงโทษ ส่วนคนรุ่นเก่าหรือใครจะบอกว่า “เทวดาลงโทษ” ก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ทำบาปอาจไม่โดนฟ้าผ่า
: แต่นรกรอท่าแน่นอน
#บาลีวันละคำ (4,210)
22-12-66
…………………………….
…………………………….