ศึกษาธิการ (บาลีวันละคำ 4,262)
ศึกษาธิการ
ควรจะเป็นงานของใคร
อ่านว่า สึก-สา-ทิ-การ
แยกศัพท์เป็น ศึกษา + อธิการ
(๑) “ศึกษา”
บาลีเป็น “สิกฺขา” อ่านว่า สิก-ขา รากศัพท์มาจาก สิกฺข (ธาตุ = ศึกษา, เรียนรู้) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: สิกฺข + อ = สิกฺข + อา = สิกฺขา แปลตามศัพท์ว่า “ข้อปฏิบัติอันบุคคลพึงศึกษา”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สิกฺขา” ไว้ดังนี้ –
(1) study, training, discipline (การศึกษา, การฝึก, สิกขาหรือวินัย)
(2) [as one of the 6 Vedāngas] phonology or phonetics, combd with nirutti [interpretation, etymology] ([เป็นหนึ่ีงในเวทางค์ 6] วิชาว่าด้วยเสียง หรือการอ่านออกเสียงของคำต่าง ๆ, รวมกับ นิรุตฺติ [การแปลความหมาย, นิรุกติ])
ความหมายของ “สิกขา” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สิกขา : (คำนาม) ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อที่จะต้องปฏิบัติ ได้แก่ ศีล เรียกว่า ศีลสิกขา สมาธิ เรียกว่า จิตสิกขา และปัญญา เรียกว่า ปัญญาสิกขา รวมเรียกว่า ไตรสิกขา; การศึกษา, การเล่าเรียน, เช่น ปริยัติสิกขา ปฏิบัติสิกขา. (ป.; ส. ศิกฺษา).”
บาลี “สิกฺขา” สันสกฤตเป็น “ศิกฺษา”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ศิกฺษ” อันเป็นรากศัพท์ (ธาตุ) ของ “ศิกฺษา” ไว้ดังนี้ –
“ศิกฺษ : (ธาตุ) เรียน, ศึกษาศาสตร์หรือความรู้; to learn, to acquire science or knowledge.”
และบอกความหมายของ “ศิกฺษา” ไว้ดังนี้ –
“ศิกฺษา : (คำนาม) ‘ศึกษา,’ หนึ่งในจำนวนหกแห่งเวทางค์ หรือ ศาสตร์อันติดต่อกับพระเวท; การศึกษา, การเล่าเรียน; ความเสงี่ยมในมรรยาท, อนหังการ; one of the six Vedāngas or sciences attached to the Vadas; learning, study; modesty, humility.”
ในภาษาไทย “สิกฺขา” นิยมใช้อิงรูปสันสกฤต คือ “ศิกฺษา” แล้วเสียงกลายเป็น “ศึกษา” และพูดทับศัพท์ว่า “ศึกษา” จนเข้าใจกันทั่วไป
คำที่ประกอบด้วยสระ อิ หรือสระ อี ในบาลี เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทย คนเก่าท่านนิยมแปลงเป็นสระ อึ มีหลายคำ เช่น –
กากณิก (กา-กะ-นิ-กะ) = กากณึก (กา-กะ-หฺนึก. ทรัพย์มีราคาเล็กน้อย)
จาริก (จา-ริ-กะ) = จารึก (ท่องเที่ยวไป)
โชติก (โช-ติ-กะ) = โชดึก (ผู้รุ่งเรือง, ผู้มั่งคั่ง)
ปจฺจนีก (ปัด-จะ-นี-กะ) = ปัจนึก (ข้าศึก, ศัตรู)
ผลิก (ผะ-ลิ-กะ) = ผลึก (แก้วผลึก, ตกผลึก)
อธิก (อะ-ทิ-กะ) = อธึก (ยิ่ง, เกิน, มาก, เพิ่ม, เลิศ)
อนีก (อะ-นี-กะ) = อนึก (กองทัพ)
ดังนั้น “สิกขา > ศิกฺษา” จึงกลายเป็น “ศึกษา”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ศึกษา : (คำนาม) การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. (ส. ศิกฺษา; ป. สิกฺขา).”
(๒) “อธิการ”
บาลีอ่านว่า อะ-ทิ-กา-ระ รากศัพท์มาจาก อธิ (คำอุปสรรค = ยิ่ง, ใหญ่, ทับ) + การ (การกระทำ)
: อธิ + การ = อธิการ แปลตามศัพท์ว่า “การกระทำอันยิ่ง” หมายถึง การเอาใจใส่หรือติดตาม, การให้บริการ, การบริหาร, การดูแลควบคุม, การจัดการ, การช่วยเหลือ (attendance, service, administration, supervision, management, help)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “อธิการ” ไว้ดังนี้ –
(1) อำนาจ, การปกครอง, ความบังคับบัญชา (ป., ส.).
(2) ตำแหน่ง, หน้าที่, กิจการ, ภาระ (ป., ส.).
(3) สิทธิ, ความชอบธรรม (ป., ส.).
(4) เรียกพระที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งไม่มีสมณศักดิ์อย่างอื่น ว่า พระอธิการ, เรียกพระที่ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาย์หรือเจ้าคณะตำบล ซึ่งไม่มีสมณศักดิ์อย่างอื่น ว่า เจ้าอธิการ (ป., ส.).
(5) ตำแหน่งสูงสุดของผู้บริหารในวิทยาลัย. (ป., ส.).
สิกฺขา + อธิการ = สิกฺขาธิการ (สิก-ขา-ทิ-กา-ระ) แปลว่า “การกระทำอันยิ่งในการศึกษา”
หมายเหตุ: ตรวจดูในคัมภีร์บาลีแล้ว ยังไม่พบคำที่สมาสกันเป็น “สิกฺขาธิการ”
“สิกฺขาธิการ” ในภาษาไทยใช้เป็น “ศึกษาธิการ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“ศึกษาธิการ : (คำนาม) เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเกี่ยวกับการศึกษาระดับอำเภอ จังหวัด และเขตการศึกษา เรียกว่า ศึกษาธิการอำเภอ ศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการเขต, ชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรม.”
อภิปรายขยายความ :
มีผู้แสดงความเห็นว่า กระทรวงศึกษาธิการของไทยเรานั้นควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่น เช่น “กระทรวงการศึกษา” เป็นต้น
ผู้แสดงความเห็นดังกล่าวให้เหตุผลว่า คำว่า “ศึกษาธิการ” มีความหมายว่า “ผู้เป็นใหญ่ในการศึกษา” เป็นเหตุให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษาคิดว่า ตนมีอำนาจยิ่งใหญ่ จึงมักใช้อำนาจจัดการศึกษาไปตามที่ตนต้องการโดยไม่คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของประเทศชาติและประชาชน
การศึกษาของประชาชนควรจะเป็นเช่นไรและควรจะเป็นไปเช่นไร จะต้องมีมาตรฐานที่เป็นสากลและเหมาะสมแก่สภาพของประเทศ ไม่ใช่ว่าใครนึกจะจัดการอย่างไรก็ใช้อำนาจจัดการไปตามที่ตนต้องการ เนื่องจากเข้าใจว่า ตนเป็น “ศึกษาธิการ” ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ในการจัดการศึกษา เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับการศึกษาที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ตรงกับความจำเป็นที่แท้จริง
ความเห็นดังแสดงมานี้ ขอท่านผู้มีสติปัญญาพึงพิจารณาโดยแยบคายเถิด
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ศึกษาความหมายของ “สิกขา” จนรู้ทุกอย่างทุกสิ่ง
: แต่ทำให้เกิดมีขึ้นจริงไม่ได้สักอย่าง-จะมีความหมายดังฤๅ?
#บาลีวันละคำ (4,262)
12-2-67
…………………………….
…………………………….