นกกิกี (บาลีวันละคำ 4,332)
นกกิกี
บอกชื่อบาลีไม่เข้าใจ
ถ้าบอกชื่อไทยจะร้องอ๋อ
อ่านว่า นก-กิ-กี
(๑) “นก”
เป็นคำไทย ผู้เขียนบาลีวันละคำขอถือโอกาสทำบุญวิทยาทาน เปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 แทนท่านที่ไม่มีอุตสาหะมากพอที่จะเปิดได้เอง ดังนี้ –
“นก ๑ : (คำนาม) ชื่อสัตว์มีกระดูกสันหลังเลือดอุ่น มี ๒ เท้า ๒ ปีก และมีขนปกคลุมร่างกาย ออกลูกเป็นไข่ก่อนแล้วจึงฟักเป็นตัว.”
(๒) “กิกี”
เป็นคำบาลี พยางค์หน้า สระ อิ พยางค์หลังสระ อี อ่านว่า กิ-กี รากศัพท์มาจาก กิ (เสียงนกชนิดนี้ร้องตามที่หูได้ยิน) + กรฺ (ธาตุ = ทำ, ส่งเสียง) + อี ปัจจัย, ลบ ร ที่สุดธาตุ (กรฺ > ก)
: กิ + กรฺ= กิกรฺ + อี = กิกรี > กิกี แปลตามศัพท์ว่า “นกที่ส่งเสียงร้องว่ากิกิ” (คือร้องเสียงแหลมเล็ก)
…………..
หมายเหตุ :
เสียง “กิ” ที่นกชนิดนี้ร้องตามที่หูได้ยิน หมายความว่า นกชนิดนี้เมื่อร้องออกมา หูของชาวชมพูทวีป-โดยเฉพาะชาวมคธ ได้ยินเป็นเสียง “กิ” นำออกมาก่อน ชาวเมืองอื่นที่มีนกชนิดนี้อาศัยอยู่อาจได้ยินเป็นเสียงอื่น เช่นหูคนไทยได้ยินเป็น “แต้แว้ด” หรือ “แตแต้แว้ด” เป็นต้น
เสียงตามธรรมชาติที่ได้ยินต่างกันไปในแต่ละชาติภาษานี้ เสียงหนึ่งที่ผู้เขียนบาลีวันละคำทราบมาตั้งแต่เริ่มหัดอ่าน A B C D ก็คือเสียงไก่ขัน บ้านเราได้ยินเป็น เอ็ก-อี๊-เอ้ก-เอ็ก แต่ฝรั่งอังกฤษได้ยินเป็น ค็อก-อะ-ดูเดิ้น-ดู นี่ว่าตามที่จำมา ไม่ได้ศึกษาสืบค้น
ในภาษาบาลีก็มีเสียงที่ได้ยินต่างกันแบบนี้ นักเรียนบาลีอาจจะพอระลึกได้ เช่นในเสขิยวัตรอันเป็นส่วนหนึ่งของศีล 227 ในหมวดที่ว่าด้วยมารยาทในการขบฉัน
การเคี้ยวอาหารที่หูคนไทยได้ยินเสียงเป็น “จับ จับ” หรือ “จั๊บ จั๊บ” หูคนพูดบาลีได้ยินเป็น “จปุจปุ” (จะ-ปุ-จะ-ปุ) เช่นในประโยคว่า –
น จปุจปุการกํ ภุญฺชิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา ฯ
ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ฉันดังจับ จับ
การซดน้ำแกงที่หูคนไทยได้ยินเสียงเป็น “ซูด ซูด” หูคนพูดบาลีได้ยินเป็น “สุรุสุรุ” (สุ-รุ-สุ-รุ) เช่นในประโยคว่า –
น สุรุสุรุการกํ ภุญฺชิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา ฯ
ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ฉันดังซูด ซูด
ที่มา: วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 2 ข้อ 850-851
…………..
หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แปล “กิกี” ว่า นกต้อยตีวิด, นกกระต้อยตีวิด, นกแต้แว้ด, นกกระแตแต้แว้ด
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “กิกี” ดังนี้ –
(1) the blue jay (นกต้อยตีวิด)
(2) a hen [or the female of the jay?] (แม่ไก่ [หรือนกต้อยตีวิดตัวเมีย?])
เป็นอันว่า “กิกี” ก็คือ นกกระแตแต้แว้ด
ต่อไปก็หาความรู้จากพจนานุกรมฯ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“กระแตแต้แว้ด ๑ : ดู ต้อยตีวิด.”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ไม่ได้ให้คำนิยามที่คำว่า “กระแตแต้แว้ด” แต่ให้ไปดูที่คำว่า “ต้อยตีวิด” มีนัยอย่างไร?
มีนัยว่า พจนานุกรมฯ เห็นว่า ชื่ออย่างเป็นทางการของนกชนิดนี้ คือ “ต้อยตีวิด” ส่วน “กระแตแต้แว้ด” เป็นชื่อที่เรียกกันเป็นภาษาปากหรือเรียกกันเล่น ๆ ซึ่งมีชื่ออื่นอีก ดังที่พจนานุกรมฯ ลงท้ายที่คำว่า “ต้อยตีวิด” ว่า “กระต้อยตีวิด กระแตแต้แว้ด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก”
ตามไปดูคำว่า “ต้อยตีวิด” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ดังนี้ –
“ต้อยตีวิด : (คำนาม) ชื่อนกชนิด Vanellus indicus ในวงศ์ Charadriidae ตัวขนาดนกเขาใหญ่ หัวสีดําขนบริเวณหูสีขาว มีติ่งเนื้อสีแดงพาดทางด้านหน้าจากขอบตาหนึ่งไปอีกขอบตาหนึ่ง ปากยาว ขายาวสีเหลือง ตีนมี ๔ นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็ก ร้องเสียงแหลม “แตแต้แว้ด” กินสัตว์ขนาดเล็ก วางไข่ในแอ่งตื้น ๆ บนพื้นดิน, กระต้อยตีวิด กระแตแต้แว้ด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก.”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ได้ปรับปรุงใหม่เป็นตรงกันข้าม กล่าวคือ –
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกว่า –
“กระแตแต้แว้ด ๑ : ดู ต้อยตีวิด.”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกว่า –
“ต้อยตีวิด : ดู กระแตแต้แว้ด ๑.”
นั่นหมายความว่า พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เห็นว่า ชื่ออย่างเป็นทางการของนกชนิดนี้ คือ “กระแตแต้แว้ด” ส่วน “ต้อยตีวิด” เป็นชื่อที่เรียกกันเป็นภาษาปากหรือเรียกกันเล่น ๆ ซึ่งมีชื่ออื่นอีก ดังที่พจนานุกรมฯ ลงท้ายที่คำว่า “กระแตแต้แว้ด” ว่า “กระต้อยตีวิด ต้อยตีวิด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก”
ตามไปดูคำว่า “กระแตแต้แว้ด” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“กระแตแต้แว้ด ๑ : (คำนาม) ชื่อนกขนาดเล็กชนิด Vanellus indicus (Boddaert) วงศ์ย่อย Charadriinae ในวงศ์ Charadriidae ปากยาว หัวสีดำ ขนบริเวณหูสีขาว มีติ่งเนื้อสีแดงพาดระหว่างตาผ่านหน้าผาก ขายาวสีเหลือง วางไข่ในแอ่งตื้น ๆ บนพื้นดิน กินแมลงและสัตว์ขนาดเล็ก ร้องเสียงแตแต้แว้ด, กระต้อยตีวิด ต้อยตีวิด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก.”
ขยายความ :
พจนานกรุมฯ ยังเก็บ “กระแตแต้แว้ด” เป็น “กระแตแต้แว้ด ๒” อีกคำหนึ่ง
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกว่า –
“กระแตแต้แว้ด ๒ : (คำนาม) ใช้เปรียบผู้หญิงที่ชอบจุ้นจ้านเจ้ากี้เจ้าการ.”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกว่า –
“กระแตแต้แว้ด ๒ : (คำนาม) ใช้เปรียบผู้หญิงที่ชอบจุ้นจ้าน เจ้ากี้เจ้าการ, กระแตแว้ด ก็ว่า.
เรียกว่า เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังเฉือนคมกันไม่ละเว้นนั่นทีเดียว
…………..
แถม :
เวลาเขียนคำว่า “กระแตแต้แว้ด” หรือ “แตแต้แว้ด” หรือ “แต้แว้ด” โปรดระลึกว่า“แว้ด” คำนี้ใช้วรรณยุกต์โท
ใช้วรรณยุกต์ตรีเป็น “กระแตแต้แว๊ด” คนอ่านก็รู้ว่าเป็นนกชนิดนี้แหละ แต่รู้ว่าเป็นนกชนิดนี้ด้วย และสะกดถูกด้วย ย่อมสง่างามกว่า
…………..
ดูก่อนภราดา!
: คำที่เคยสำคัญบางคำ
อาจถูกลดความสำคัญไปตามกล
: คนที่เคยสำคัญบางคน
อาจถูกลดความสำคัญไปตามกรรม
#บาลีวันละคำ (4,332)
22-4-67
…………………………….
…………………………….