กัปกัลป์พุทธันดร (บาลีวันละคำ 4,443)
กัปกัลป์พุทธันดร
เวลาที่ยาวนานนักหนา
อ่านว่า กับ-กัน-พุด-ทัน-ดอน
“กัปกัลป์พุทธันดร” ประกอบด้วยคำว่า “กัป” “กัลป์” และ “พุทธันดร”
เป็นคำที่อยู่ในคำนิยามคำว่า “กัป” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ซึ่งมีข้อความดังนี้ –
“กัป : (คำนาม) อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์มาล้างโลก, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา กัลป์ เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. (ป. กปฺป; ส. กลฺป). (ดู กัลป-, กัลป์).”
(๑) “กัป”
บาลีเป็น “กปฺปฺ” อ่านว่า กับ-ปะ รากศัพท์มาจาก กปฺปฺ (ธาตุ = กำหนด) + อ (อะ) ปัจจัย
: กปฺปฺ + อ = กปฺป (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะอันเขากำหนดขึ้น”
“กปฺป” ในบาลีใช้ในความหมายหลายอย่าง คือ –
(1) เหมาะสม, สมควร, ถูกต้อง, เหมาะเจาะ (fitting, suitable, proper)
(2) จุดสีดำเล็กๆ (a small black dot)
(3) ทำเลศนัย (a making-up of a trick)
(4) คำสั่ง, คำสั่งสอน, กฎ, ข้อปฏิบัติ, มรรยาท (ordinance, precept, rule; practice, manner)
(5) เวลาที่แน่นอน (a fixed time); เวลาที่กำหนดไว้ชั่วกัปหนึ่ง (time with ref. to individual and cosmic life)
ในภาษาไทย คำนี้ใช้เป็น “กัป” (กับ) ตามบาลีก็มี ใช้อิงสันสกฤตเป็น “กัลป-” (กัน-ละ-ปะ-, มีคำอื่นมาสมาสท้าย) และ “กัลป์” (กัน) ก็มี
(๒) “กัลป์”
อ่านว่า กัน คือ “กัป” ในบาลีนั่นเอง สันสกฤตเป็น “กลฺป”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“กลฺป : (คำวิเศษณ์) ละม้าย; like (but with a degree of inferiority); – (คำนาม) ศาสตร์หรือบุณยการย์; เวทางค์หนึ่งในจำนวนหก; หนึ่งทิวากับหนึ่งราตรีของพรหม, เวลามีกำหนด ๔,๓๒๑,๐๐๐,๐๐๐ สูรยนักษัตรสังวัตสรกาลบอกสถิติของโลก, และบอกอันตราลแห่งความประลัยของโลก; ความประลัยของโลก; บุณยศาสน์, พฤตติ์อันตราลงไว้โดยพระเวทเพื่ออำนวยผลอย่างหนึ่ง; สังคติ, ความสม; ความแล้วแต่ใจ, คติ, ศงกา; ความตั้งใจอย่างใดอย่างหนึ่ง; ต้นพฤกษ์ในสวรรค์; a Śāstra or sacred work; one of the six Vedangas; a day and night of Brahmā, a period of 4,321,000,000 solar-sidereal-years, measuring the duration of the world, and the interval of its annihilation; a destruction of the world; a sacred precept, practice prescribed by the Vedas for effecting certain consequences; propriety, fitness; optionality, alternative, doubt; any act of determination; one of the trees in Indra’s paradise.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กัลป-, กัลป์ : (คำนาม) กัป, อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์ล้างโลก ซึ่งได้แก่ช่วงเวลากลางวัน วันหนึ่งของพระพรหม คือ ๑,๐๐๐ มหายุค (เท่ากับ ๔,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ปีมนุษย์) เมื่อสิ้นกัลป์ พระอิศวรจะล้างโลกด้วยไฟประลัยกัลป์ โลกจะไร้สิ่งมีชีวิตและอยู่ในความมืดมนจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ แล้วพระพรหมก็จะสร้างโลกเป็นการขึ้นต้นกัลป์ใหม่ โลกจะถูกสร้างและถูกทำลายเช่นนี้สลับกันตลอดอายุของพระพรหม ทั้งนี้ตามคติของพราหมณ์, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา กัป เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. (ส.; ป. กปฺป).”
(๓) “พุทธันดร”
อ่านว่า พุด-ทัน-ดอน บาลีเป็น “พุทฺธนฺตร” (พุทฺธ + อนฺตร) อ่านว่า พุด-ทัน-ตะ-ระ แปลตามศัพท์ว่า “ระหว่างแห่งพระพุทธเจ้า”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “พุทฺธนฺตร” ว่า a Buddha-interval, the period between the appearance of one Buddha & the next (ระยะว่างระหว่างพระพุทธเจ้า, ยุคในระหว่างความปรากฏขึ้นของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งกับองค์ถัดไป)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พุทธันดร : (คำนาม) ช่วงเวลาที่โลกว่างพระพุทธศาสนา คือ ช่วงเวลาที่ศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสูญสิ้นแล้ว และพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่ยังไม่อุบัติ. (ป. พุทฺธนฺตร).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายไว้ว่า –
“พุทธันดร : ช่วงเวลาในระหว่างแห่งสองพุทธุปบาทกาล, ช่วงเวลาในระหว่าง นับจากที่ศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสูญสิ้นแล้ว จนถึงพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่เสด็จอุบัติ คือช่วงเวลาที่โลกว่างพระพุทธศาสนา, คำนี้ บางทีใช้ในการนับเวลา เช่นว่า ‘บุรุษนั้น … เที่ยวเวียนว่ายอยู่ตลอด ๖ พุทธันดร …’ ”
อภิปรายขยายความ :
ควรทราบว่า พระพุทธเจ้าที่เสด็จอุบัติแล้วในโลกมีหลายพระองค์ แต่จะเสด็จอุบัติขึ้นคราวละ 1 พระองค์เท่านั้น กล่าวคือ ศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสูญสิ้นแล้วพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่จึงจะเสด็จอุบัติ = จะไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน 2 พระองค์
เมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสูญสิ้นแล้ว ก็มิใช่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่จะเสด็จอุบัติทันทีแบบเชื่อมต่อกันไม่ขาดตอน หากแต่จะมีช่วงเวลาที่โลกว่างจากพระศาสนาคือไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัส
เทียบพอให้เข้าใจก็เหมือนที่เราพูดกันว่า “เว้นวรรคทางการเมือง” ช่วงเวลาที่ “เว้นวรรค” นี่แหละคือ “พุทธันดร”
“พุทธันดร” ระหว่างพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะยาวนานไม่เท่ากัน เช่น –
เมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ที่แล้วคือพระกัสสปพุทธเจ้าเสื่อมสิ้นไป เป็นเวลานาน 1 อันตรกัป พระโคดมพุทธเจ้าของเราจึงมาตรัส
เมื่อศาสนาของพระโคดมพุทธเจ้าเสื่อมสิ้นไป (ซึ่งกำหนดกันว่าห้าพันปีนับจากเสด็จดับขันธปรินิพพาน) เป็นเวลานาน 1 อสงไขย พระศรีอริยเมตไตรยจึงจะมาตรัส
(ศึกษาเพิ่มเติมจากคัมภีร์ อนาคตวงศ์)
“พุทธันดร” มีความหมายโดยนัยถึงช่วงเวลาที่ยาวนานนักหนาจนเหลือที่จะกำหนดนับ ดังคำที่พูดกันว่า นานนับกัปกัลป์พุทธันดร ….
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ปฏิทินถูกฉีกไปเรื่อย ๆ
ชีวิตก็หมดไปเรื่อย ๆ
: วันคืนไม่หมดไป
แต่ชีวิตหมดไปแน่ ๆ
#บาลีวันละคำ (4,443)
11-8-67
…………………………….
…………………………….