มนสิการ (บาลีวันละคำ 4,458)
มนสิการ
สิ่งที่กำลังขาดแคลน
อ่านว่า มะ-นะ-สิ-กาน
ประกอบด้วยคำว่า มนสิ + การ
(๑) “มนสิ”
อ่านว่า มะ-นะ-สิ คำเดิมคือ มน อ่านว่า มะ-นะ รากศัพท์มาจาก –
(1) มนฺ (ธาตุ = รู้) + อ (อะ) ปัจจัย
: มน + อ = มน แปลตามศัพท์ว่า “ธรรมชาติที่รู้” (คือสิ่งที่ทำหน้าที่รู้)
(2) มา (ธาตุ =นับ, กะ, ประมาณ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ลบสระที่สุดธาตุ (มา > ม)
: มา > ม + ยุ > อน : ม + อน = มน แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่กำหนดนับอารมณ์”
“มน” (ปุงลิงค์; นปุงสกลิงค์) หมายถึง ใจ, ความคิด (mind, thought)
ขยายความแทรก :
“มน” เป็นศัพท์พิเศษที่เรียกว่า “มโนคณศัพท์” (มะ-โน-คะ-นะ-สับ) แปลว่า “ศัพท์ในกลุ่มของ มน”
หนังสือบาลีไวยากรณ์ วจีวิภาคที่ 2 นามและอัพพยศัพท์ พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ตอนที่ว่าด้วย “มโนคณะศัพท์” กล่าวไว้ว่า “ศัพท์ชื่อมโนคณะ” มี 12 ศัพท์ ดังนี้ –
…………..
(1) มน = ใจ > (คำในภาษาไทยเช่น) มโนภาพ
(2) อย = เหล็ก > อโยโลห (บาลี: เหล็กและโลหะ)
(3) อุร = อก > ?
(4) เจต = ใจ > เจโตวิมุติ
(5) ตป = ความร้อน > ตโปทาราม
(6) ตม = มืด > ตโมนุท (“ผู้ขจัดความมืด” คือดวงอาทิตย์)
(7) เตช = เดช > เดโชชัย
(8 ) ปย = น้ำนม > ปโยธร (“ผู้ทรงไว้ซึ่งน้ำนม” คือถัน)
(9) ยส = ยศ > ยโสธร
(10) วจ = วาจา > วโจกร (บาลี: “ผู้ตามถ้อยคำ” คือสาวก)
(11) วย = วัย > วโยหร (บาลี: “ผู้นำไปซึ่งวัย” คือผู้ทำให้แก่)
(12) สิร = หัว > ศิโรราบ
…………..
“มน” แจกรูปด้วยวิภัตตินามที่เจ็ด (สัตตมีวิภัตติ) เอกพจน์ คือ “สฺมึ” วิภัตติ (อ่านว่า สะหฺมิง, ส– ออกเสียงครึ่งเสียง) มีคำแปลประจำวิภัตติว่า ใน, ใกล้, ที่, ครั้นเมื่อ, ในเพราะ, แปลง สฺมึ เป็น อิ, ลง ส อาคม
: มน + ส = มนส + สฺมึ > อิ = มนสิ แปลว่า “ในใจ”
(๒) “การ”
บาลีอ่านว่า กา-ระ รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อ ที่ ก-(รฺ) เป็น อา (กรฺ > การ)
: กรฺ + ณ = กรณ > กร > การ แปลตามศัพท์ว่า “การทำ”
“การ” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) การกระทำ, กิริยาอาการ, วิธีทำ (doing, manner, way)
(2) กรรม, การบริการ, การกระทำที่แสดงความเมตตา หรือความเคารพ หรือความนับถือ (deed, service, act of mercy or worship, homage)
(3) ผู้ทำ หรือผู้จัดการ หรือผู้ค้า (one who does, handles or deals)
มนสิ + การ ตามกฎทั่วไปต้องลบ สิ ออก เหลือแต่ มน = มนการ หรือ มนกฺการ แต่เฉพาะคำนี้ใช้กฎการสมาสที่เรียกว่า “อลุตตสมาส” (อะ-ลุด-ตะ-สะ-หฺมาด) คือ “ไม่ลบวิภัตติ” ดังนั้น –
: มนสิ + การ = มนสิการ แปลว่า “การทำไว้ในใจ”
ขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายของ “มนสิการ” ไว้ว่า –
…………..
มนสิการ : การทำในใจ, ใส่ใจ, พิจารณา; เป็นสัพพจิตตสาธารณเจตสิกอย่างหนึ่ง.
…………..
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปล “มนสิการ” เป็นอังกฤษดังนี้ –
…………..
มนสิการ (Manasikāra) : attention; pondering; attentiveness; advertence; mental application; reflection.
…………..
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“มนสิการ : (คำนาม) การกำหนดไว้ในใจ. (ป., ส.).”
อภิปรายแถม :
คำว่า สังเกต อนุญาต อิริยาบถ ได้มีการบอกกล่าว แนะนำ สั่งสอนให้รู้กันเป็นสาธารณะมานานนักหนาแล้วว่า สะกดอย่างนี้ถูกต้อง
แต่ทุกวันนี้ ในเฟซบุ๊กนี่เอง ก็ยังมีผู้สะกดเป็น –
สังเกตุ มีสระ อุ ด้วย ซึ่งคือคำผิด
อนุญาติ มีสระ อิ ด้วย ซึ่งคือคำผิด
อิริยาบท -บท สะกดด้วย ท ทหาร ซึ่งคือคำผิด
ชื่อพระพุทธรูป “หลวงพ่อแก่นจันทน์” ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้มีการบอกกล่าว แนะนำ สั่งสอนให้รู้กันเป็นสาธารณะมานานนักหนาแล้วว่า -จันทน์ น หนู การันต์ ก็ยังมีผู้สะกดเป็น “หลวงพ่อแก่นจันทร์” -จันทร์ ร เรือ การันต์ อยู่เสมอ วันนี้ก็ยังเห็นมีผู้สะกดผิด
“เขาแก่นจันทน์” ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้มีการบอกกล่าว แนะนำ สั่งสอนให้รู้กันเป็นสาธารณะมานานนักหนาแล้วว่า -จันทน์ น หนู การันต์ ก็ยังมีผู้สะกดเป็น “เขาแก่นจันทร์” -จันทร์ ร เรือ การันต์ วันนี้ก็ยังเห็นมีผู้สะกดผิด
ผู้ที่สะกดคำเหล่านี้ผิดไม่ใช่ไม่รู้ รู้อยู่เต็มอกว่าสะกดอย่างไรถูก แต่เวลาเขียนคำเหล่านี้เผยแพร่ต่อสาธารณะ ก็พากันสะกดผิดอย่างหน้าตาเฉย
สาเหตุที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะขาด “มนสิการ” = การกำหนดไว้ในใจ
…………..
ดูก่อนภราดา!
ภาษาเป็นสมบัติวัฒนธรรมประจำชาติ
: ไม่มีมนสิการในภาษา
ชาติก็บรรลัย
: ไม่มีมนสิการในพระธรรมวินัย
พระศาสนาก็วินาศ
#บาลีวันละคำ (4,458)
26-8-67
…………………………….
…………………………….