บาลีวันละคำ

เวท – เวทย์ (บาลีวันละคำ 4,567)

เวทเวทย์

เหมือนกับจะเป็นหญ้าปากคอกอีกคำหนึ่ง

(๑) “เวท” 

ภาษาไทยอ่านว่า เวด บาลีอ่านว่า เว-ทะ รากศัพท์มาจาก วิทฺ (ธาตุ = รู้) + ปัจจัย, ลบ , แปลง อิ ที่ วิ-(ทฺ) เป็น เอ (วิทฺ > เวท)

: วิทฺ + = วิทณ > วิท > เวท แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องรู้ธรรมหรือการงาน” (คือ ต้องการรู้ธรรมก็ใช้สิ่งนี้ ต้องการรู้วิธีทำการงานก็ใช้สิ่งนี้)

เวท” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) ความรู้สึก (ยินดี), ความรู้สึกศรัทธา, ศรัทธาอย่างแรงกล้า, ความเกรงขาม, จิตตารมณ์, ความตื่นเต้น ([joyful] feeling, religious feeling, enthusiasm, awe, emotion, excitement)

(2) ความรู้, ญาณ, การเปิดเผย, ปัญญา (knowledge, insight, revelation, wisdom)

(3) พระเวท (the Veda)

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีคำว่า “เวท” บอกไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

เวท : (คำนาม) เวท, หรือพระเวท, สามานยศัพท์สำหรับเรียกบุณยลิขิตหรือธรรมศาสตร์ของชาวฮินดู; ฉันท์; ฏิปปนีหรืออรรถกถา; พุทธิ; พระวิษณุ; a Veda, the generic term for the sacred writing or scripture of the Hindus; metre; gloss or comment; knowledge; Vishnu.”

คำว่า “เวท” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –

(ปรับวรรคตอนเพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย)

…………..

เวท, เวท– : (คำนาม) 

(๑) ความรู้, ความรู้ทางศาสนา.

(๒) ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกขึ้นเป็นมนตร์หรือคาถาอาคม เมื่อนำมาเสกเป่าหรือบริกรรมตามลัทธิวิธีที่มีกำหนดไว้ สามารถให้ร้ายหรือดี หรือป้องกันอันตรายต่าง ๆ ตามคติไสยศาสตร์ได้ เช่น ร่ายเวท, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ มนตร์ เป็น เวทมนตร์.

(๓) ชื่อคัมภีร์ภาษาสันสกฤตโบราณซึ่งเป็นพื้นฐานของศาสนาพราหมณ์ยุคแรก มี ๔ คัมภีร์ ได้แก่ 

๑. ฤคเวท ว่าด้วยบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าทั้งหลาย ตอนท้ายกล่าวถึงการสร้างโลก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบความเชื่อของชาวอินเดีย 

๒. ยชุรเวท ว่าด้วยรายละเอียดการประกอบยัญพิธีและลำดับมนตร์ที่นำมาจากคัมภีร์ฤคเวทเพื่อสวดในขั้นตอนต่าง ๆ ของพิธี 

๓. สามเวท ว่าด้วยบทขับที่คัดเลือกมาจากประมาณหนึ่งในหกของฤคเวท และใช้เฉพาะในพิธีที่บูชาด้วยน้ำโสม 

๔. อถรรพเวท หรือ อาถรรพเวท เป็นเวทมนตร์คาถาเพื่อให้เกิดผลดีแก่ฝ่ายตนหรือผลร้ายแก่ฝ่ายศัตรู ตลอดจนการบันดาลสิ่งที่เป็นมงคลหรืออัปมงคล การทำเสน่ห์ การรักษาโรค และอื่น ๆ 

สามคัมภีร์แรกเรียกว่า ไตรเวท หรือ ไตรเพท ต่อมารับอถรรพเวทหรืออาถรรพเวทเข้ามารวมเป็นสี่คัมภีร์เรียกว่า จตุรเวท หรือ จตุรเพท, 

เรียกยุคแรกของศาสนาพราหมณ์จนถึงประมาณสมัยพุทธกาลว่า ยุคพระเวท มีวรรณกรรมหลักประกอบด้วยคัมภีร์พระเวท คัมภีร์พราหมณะ คัมภีร์อารัณยกะและคัมภีร์อุปนิษัทรุ่นแรก. (ป., ส.).

…………..

(๒) “เวทย์” 

อ่านว่า เวด พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

เวทย์ : (คำวิเศษณ์) พึงรู้, ควรรู้. (ส.).”

พจนานุกรมฯ บอกว่า “เวทย์” มาจากภาษาสันสกฤต

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีคำว่า “เวทย” บอกไว้ดังนี้ –

เวทย : (คำนาม) ‘เวทย์, เวทัย,’ ผู้รู้; ผู้ได้; one who knows; one who obtains.”

ความหมายในภาษาไทยที่ว่า “พึงรู้, ควรรู้” ถ้าเป็นคำบาลีก็ควรเป็น “เวทิย

เวทิย” อ่านว่า เว-ทิ-ยะ รากศัพท์มาจาก เวท (ความรู้) + อิย ปัจจัย

: เวท + อิย = เวทิย แปลตามศัพท์ว่า “เป็นที่ตั้งแห่งความรู้” “สิ่งอันเขาพึงรู้” “สิ่งอันเนื่องมาแต่เวท” “เกี่ยวกับเวท” หมายถึง เรื่องราว ถ้อยคำเป็นต้น อันมีมา หรือได้มา หรือมีกำเนิดมาจากเวท หรือจากพระเวท

บาลี “เวทิย” ใช้ในภาษาไทยอิงสันสกฤตเป็น “เวทย์

แถม :

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “เวทย” ไว้คำหนึ่งว่า “เวทัย” 

คำนี้อ่านว่า เว-ไท รูปและเสียงงามดี ความหมายก็ดี (ผู้รู้ ผู้ได้) 

ขอเสนอเป็นอภินันทนาการแก่นักตั้งชื่อไว้อีกคำหนึ่ง

…………..

ดูก่อนภราดา!

สำหรับสื่อ :- 

: จงรู้ทุกเรื่องที่พูด

: แต่อย่าพูดทุกเรื่องที่รู้ 

สำหรับผู้เสพสื่อ :- 

: จงเสพทุกเรื่องที่อยากรู้ 

: แต่อย่าเชื่อทุกเรื่องที่อยากเสพ

#บาลีวันละคำ (4,567)

13-12-67 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *