ลัทธิ (บาลีวันละคำ 1,028)
ลัทธิ
อ่านว่า ลัด-ทิ
“ลัทธิ” บาลีเขียน “ลทฺธิ” (ลัด-ทิ) รากศัพท์มาจาก ลภฺ (ธาตุ = ได้) + ติ ปัจจัย, แปลง ต เป็น ธ, ภ เป็น ท
: ลภฺ > ลท + ติ > ธิ = ลทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “การได้รับ” คือการรับเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาไว้
(2) “สิ่งอันควรรับไว้” คือสิ่งที่แต่ละคนเห็นว่าตนควรรับเอาไว้
“ลทฺธิ” หมายถึง ความเชื่อ, ทัศนะ, ทฤษฎี อันเกี่ยวกับศาสนา, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเห็นที่นอกรีต (religious belief, view, theory, esp. heretical view)
พจนานุกรมบางฉบับ แปล “ลทฺธิ” เป็นอังกฤษว่า a view of theory
พจนานุกรมบาลี-ไทย สำหรับนักศึกษา BUDSIR 7 for Windows บอกว่า –
“ลทฺธิ : ลัทธิ, ความเห็น.”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกว่า –
“ลัทธิ : ความเชื่อถือ, ความรู้และประเพณีที่ได้รับและปฏิบัติสืบต่อกันมา”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ลัทธิ : (คำนาม) คติความเชื่อถือ ความคิดเห็น และหลักการ ที่มีผู้นิยมนับถือและปฏิบัติตามสืบเนื่องกันมา เช่น ลัทธิสังคมนิยม ลัทธิชาตินิยม ลัทธิทุนนิยม. (ป. ลทฺธิ ว่า ความเห็น, ความได้).”
“ลัทธิ” ที่เกิดขึ้นและดำเนินไปได้จะต้องประกอบด้วยบุคคล 2 ฝ่ายเสมอ คือ :
(1) ผู้ตั้งลัทธิ หรือ “ศาสดา”
(2) ผู้เลื่อมใสในลัทธิ หรือ “สาวก”
ในพระไตรปิฎกแห่งหนึ่งแสดงลักษณะของศาสดาและสาวกในลัทธิทั้งหลายไว้ 4 แบบ คือ :
(1) ศาสดาสอนผิด สาวกไม่ใส่ใจคำสอน เหมือนบุรุษรุกเข้าไปหาสตรีที่กำลังถอยหลังหนี หรือเหมือนบุรุษที่กอดสตรีที่หันหลังให้
(2) ศาสดาสอนผิด แต่สาวกใส่ใจคำสอน เหมือนบุคคลทิ้งนาของตน แล้วสำคัญนาของผู้อื่นว่าเป็นที่ที่ตนควรทำให้ดี
(3) ศาสดาสอนถูก แต่สาวกไม่ใส่ใจคำสอน เหมือนบุคคลตัดเครื่องจองจำเก่าได้แล้ว สร้างเครื่องจองจำอย่างอื่นขึ้นใหม่
(4) ศาสดาสอนถูก และสาวกใส่ใจคำสอน เหมือนบุรุษผู้หนึ่งฉวยผมบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งกำลังจะตกไปสู่เหวคือนรกไว้ ฉุดขึ้นให้ยืนอยู่บนบก
พึงพิจารณาเนืองๆ :
: เรามีศาสดาแบบไหน
: และเราเป็นสาวกประเภทไหน
————
(ตามคำปรารภของพระคุณ Pra Srikanet Phanyapachotho เมื่อ 18 ธ.ค.57)
12-3-58