บาลีวันละคำ

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (บาลีวันละคำ 4,594)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี

อ่านว่า อะ-นา-ถะ-บิน-ดิ-กะ-เสด-ถี

ประกอบด้วย อนาถบิณฑิก + เศรษฐี 

(๑) “อนาถบิณฑิก” 

บาลีอ่านว่า อะ-นา-ถะ-บิน-ดิ-กะ รูปคำประกอบขึ้นจาก อนาถบิณฑ + อิก ปัจจัย

(1) “อนาถบิณฑ” อ่านว่า อะ-นา-ถะ-บิน-ดะ แยกศัพท์เป็น อนาถ +บิณฑ 

(๑) “อนาถ” บาลีอ่านว่า อะ-นา-ถะ รูปคำเดิมมาจาก + นาถ

(ก) “” อ่านว่า นะ (ไม่ใช่ นอ) เป็นคำจำพวก “นิบาต” คำจำพวกนี้ไม่แจกด้วยวิภัตติปัจจัย คือคงรูปเดิมเสมอ อาจเปลี่ยนรูปโดยวิธีสนธิกับคำอื่นบ้าง แต่คงถือว่าเป็นคำเดิมเพราะเวลาแปลต้องแยกคำออกเป็นคำเดิมเสมอ 

นักเรียนบาลีมักท่องจำรวมกับคำอื่นในกลุ่มเดียวกันว่า “ ไม่ โน ไม่ มา อย่า เทียว” ( [นะ] = ไม่, โน = ไม่, มา = อย่า, [วะ] = เทียว

” เป็นนิบาตบอกความปฏิเสธ แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not)

กฎการประสมของ + คือ :

(1) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แปลง เป็น – 

(2) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ (อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ) แปลง เป็น อน

ในที่นี้ คำหลังคือ “นาถ” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ คือ – จึงต้องแปลง เป็น

(ข) “นาถ” อ่านว่า นา-ถะ รากศัพท์มาจาก นาถฺ (ธาตุ = ประกอบ, ขอร้อง, ปรารถนา, เป็นใหญ่, ทำให้ร้อน) + (อะ) ปัจจัย 

: นาถฺ + = นาถ แปลตามศัพท์ว่า –

(1) “ผู้กอปรประโยชน์แก่ผู้อื่น” 

(2) “ผู้ขอร้องคนอื่นให้บำเพ็ญประโยชน์นั้นๆ” 

(3) “ผู้ปรารถนาประโยชน์สุขแก่ผู้ที่ควรช่วยเหลือ” 

(4) “ผู้เป็นใหญ่กว่าผู้ที่ควรช่วยเหลือ” (ผู้ช่วยเหลือย่อมอยู่เหนือผู้รับการช่วยเหลือ)

(5) “ผู้ยังกิเลสให้ร้อน” (เมื่อจะช่วยเหลือคนอื่น ความตระหนี่ ความเกียจคร้านเป็นต้นจะถูกแผดเผาจนทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้)

นาถ” ความหมายที่เข้าใจกันคือ ที่พึ่ง, ผู้ปกป้อง, การช่วยเหลือ (protector, refuge, help)

: + นาถ = นนาถ > อนาถ แปลว่า ไม่ใช่ที่พึ่ง, ไม่เป็นที่พึ่ง, ไร้ที่พึ่ง, ไม่มีผู้ปกป้อง, ยากจน (helpless, unprotected, poor)

อนาถ” ในภาษาไทยใช้เป็น “อนาถ” และ “อนาถา

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

(1) อนาถ : (คำกริยา) สงสาร, สังเวช, สลดใจ. (ป., ส. อนาถ ว่า ไม่มีที่พึ่ง).

(2) อนาถา : (คำวิเศษณ์) ไม่มีที่พึ่ง, กําพร้า, ยากจน, เข็ญใจ. (ป., ส. อนาถ).

(๒)  “บิณฺฑ” อ่านว่า บิน-ดะ บาลีเป็น “ปิณฺฑ” อ่านว่า ปิน-ดะ (ไทย ใบไม้, บาลี ปลา) รากศัพท์มาจาก ปิณฺฑ (ธาตุ = รวบรวม, ทำให้เป็นกอง) + (อะ) ปัจจัย

: ปิณฺฑฺ + = ปิณฺฑ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขารวมกัน

ปิณฺฑฺ” หมายถึง –

(1) ก้อน, ก้อนกลม, มวลที่หนาและกลม (a lump, ball, thick & round mass) 

(2) ก้อนข้าว โดยเฉพาะที่ถวายพระหรือให้ทาน, ทานที่ให้เป็นอาหาร (a lump of food, esp. of alms, alms given as food)

อนาถ + ปิณฺฑ = อนาถปิณฺฑ (อะ-นา-ถะ-ปิน-ดะ) แปลว่า “ก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา” 

อนาถบิณฑ + อิก = อนาถปิณฺฑิก (อะ-นา-ถะ-ปิน-ดิ-กะ) แปลว่า (1) “ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถาที่เข้าไปตั้งไว้ตลอดเวลา” (2) “ผู้ให้ก้อนข้าวแก่คนอนาถาเป็นประจำ

อนาถปิณฺฑิก” เขียนแบบไทยเป็น “อนาถบิณฑิก” อ่านตามหลักนิยมในภาษาไทยว่า อะ-นา-ถะ-บิน-ดิก 

(๒) “เศรษฐี

อ่านว่า เสด-ถี สันสกฤตเป็น “เศฺรษฺฐินฺ” สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –

(สะกดตามต้นฉบับ)

เศฺรษฺฐินฺ : (คำคุณศัพท์) ดียิ่ง, เอก; best, chief; – (คำนาม) ศิลปินผู้วิศิษฏชาติ; หัวน่า, ผู้เปนประธาน, ประธานาธิบดี; an artist eminent by birth; the head or chief; a foreman, a president.”

เศรษฐี” บาลีเป็น “เสฏฺฐี” อ่านว่า เสด-ถี รากศัพท์มาจาก เสฏฺฐ + อี ปัจจัย

(๑) “เสฏฺฐ” อ่านว่า เสด-ถะ รากศัพท์มาจาก –

(1) ปสตฺถ (ประเสริฐ) + อิฏฺฐ ปัจจัย, แปลง ปสตฺถ เป็น , แผลง อิ ที่ อิ-(ฏฺฐ) เป็น เอ (อิฏฺฐ > เอฏฺฐ)

: ปสตฺถ > + อิฏฺฐ = สิฏฺฐ > เสฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “ประเสริฐกว่าสิ่งประเสริฐทั้งปวง

(2) สิสฺ (ธาตุ = ปรารถนา) + ปัจจัย, แปลง เป็น ฏฺฐ, ลบ สฺ ที่สุดธาตุ, แผลง อิ ที่ สิ-(สฺ) เป็น เอ (สิสฺ > เสสฺ)

: สิสฺ > เสสฺ > เส + = เสต > เสฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันผู้คนปรารถนา

เสฏฺฐ” หมายถึง :

(1) ประเสริฐ, ดีที่สุด, ยอดเยี่ยม, วิเศษ (best, excellent) 

(2) สิ่งที่ปรารถนา, สมบัติ, เงินทอง (treasure, wealth)

(๒) เสฏฺฐ + อี ปัจจัย

: เสฏฺฐํ อสฺส อตฺถีติ ( : เสฏฺฐ + อี = ) เสฏฺฐี : สมบัติของผู้นั้นมีอยู่ ดังนั้น เขาจึงชื่อว่า เสฏฺฐี = ผู้มีสมบัติ 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “เสฏฺฐี” ว่า foreman of a guild, treasurer, banker, “City man”, wealthy merchant (ผู้นำของสมาคม, เศรษฐี, นายธนาคาร, “นักธุรกิจ”, พ่อค้าที่ร่ำรวย)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

เศรษฐี : (คำนาม) คนมั่งมี; ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวกา ดาวไซ ดาวศรวิษฐา หรือ ดาวธนิษฐะ ก็เรียก. (ส. ว่า ประมุขพ่อค้า; ป. เสฏฺฐิ).”

อนาถบิณฑิก + เศรษฐี = อนาถบิณฑิกเศรษฐี (อะ-นา-ถะ-บิน-ดิ-กะ-เสด-ถี) แปลว่า “เศรษฐีผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา” 

ขยายความ :

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกประวัติของ “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” ไว้ที่คำว่า “อนาถบิณฑิก” ดังนี้ –

…………..

อนาถบิณฑิก : อุบาสกคนสำคัญในสมัยพุทธกาล เดิมชื่อ สุทัตต์ เป็นเศรษฐีอยู่ที่เมืองสาวัตถี ต่อมาได้นับถือพระพุทธศาสนา บรรลุโสดาปัตติผล เป็นผู้มีศรัทธาแรงกล้า สร้างวัดพระเชตวันถวายแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ที่เมืองสาวัตถี ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ประทับจำพรรษารวมทั้งหมดถึง 19 พรรษา ท่านอนาถบิณฑิก นอกจากอุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์แล้วยังได้สงเคราะห์คนยากไร้อนาถาอย่างมากมายเป็นประจำ จึงได้ชื่อว่า อนาถบิณฑิก ซึ่งแปลว่า “ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา” ท่านได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในหมู่ทายกฝ่ายอุบาสก.

…………..

ผู้รู้บอกว่า ในสมัยโบราณ ความเป็นเศรษฐีไม่ได้วัดกันด้วยจำนวนทรัพย์สมบัติ แต่วัดกันด้วยจำนวนโรงทานว่าใครจะมีมากกว่ากัน

ท่านพุทธทาสภิกขุให้คำจำกัดความว่า เศรษฐี คือคนที่ขยันหาทรัพย์ให้ได้มากที่สุด แต่กินใช้พอประมาณ ส่วนที่เหลือเอาออกทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์

อนาถบิณฑิกเศรษฐี” เป็นคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามความหมายของคำว่า “เศรษฐี

แถม :

วันนี้ ผู้เขียนบาลีวันละคำเห็นโพสต์ของญาติมิตรท่านหนึ่งสะกดคำว่า “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” เป็น “อนาถบิณฑิกะเศรษฐี” คือใส่สระ อะ กลางคำ ซึ่งเป็นการสะกดผิด

ผู้เขียนบาลีวันละคำเคยทักท้วงคำที่ใส่สระ อะ กลางคำแบบนี้อยู่เนือง ๆ เช่น –

กาลเทศะ อย่าเขียนเป็น กาละเทศะ

ธุรกิจ อย่าเขียนเป็น ธุระกิจ

โทณพราหมณ์ อย่าเขียนเป็น โทณะพราหมณ์

บูรณปฏิสังขรณ์ อย่าเขียนเป็น บูรณะปฏิสังขรณ์

มรณภาพ อย่าเขียนเป็น มรณะภาพ

สมณทูต อย่าเขียนเป็น สมณะทูต

สาธารณสุข อย่าเขียนเป็น สาธารณะสุข

หัตถศิลป์ อย่าเขียนเป็น หัตถะศิลป์

สักการบูชา อย่าเขียนเป็น สักการะบูชา

อารยประเทศ อย่าเขียนเป็น อารยะประเทศ

อุปการคุณ อย่าเขียนเป็น อุปการะคุณ

ฯลฯ

แต่ญาติมิตรท่านนั้นคงไม่ได้ยิน ยังคงเขียนแบบใส่สระ อะ กลางคำอยู่เนือง ๆ “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” เป็นคำล่าสุดที่ท่านใส่สระ อะ กลางคำเป็น “อนาถบิณฑิกะเศรษฐี” 

ผู้เขียนบาลีวันละคำถือหลักปฏิบัติระหว่างเพื่อนกับเพื่อนข้อหนึ่ง คือ “เมื่อเพื่อนประมาท คอยระวังรักษาเพื่อน”

ในเมื่อเพื่อนมีแรงประมาทอยู่เรื่อย ๆ

เพื่อนก็ต้องมีแรงคอยระวังรักษาเพื่อนอยู่เรื่อย ๆ

…………..

ดูก่อนภราดา!

: เศรษฐีในโลกนี้มีไม่น้อย

: แต่คนที่เอาทรัพย์สมบัติออกทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์มีไม่มาก

#บาลีวันละคำ (4,594)

9-1-68 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *