ตถตา [2] (บาลีวันละคำ 4,604)

ตถตา [2]
ลงมือแก้ปัญหาแล้วหรือยัง
อ่านว่า ตะ-ถะ-ตา
แยกศัพท์ตามที่ตาเห็นเป็น ตถ + ตา
(๑) “ตถ”
อ่านว่า ตะ-ถะ
รากศัพท์มาจาก ตถฺ (ธาตุ = จริง, แท้) + อ (อะ) ปัจจัย
: ตถ + อ = ตถ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่จริงแท้” หมายถึง แท้, จริง; โดยแท้, ไม่มุสา (true, real; in truth, truthful)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ตถ” ว่า [being] in truth, truthful; true, real ([เป็น] โดยแท้, ไม่มุสา; แท้, จริง)
“ตถะ” ที่นักเรียนบาลีคุ้นกันดีคือ “ตถา” เป็นศัพท์จำพวกนิบาต แปลว่า อย่างนั้น ฉันนั้น มีรากศัพท์มาทางเดียวกับ “ตถะ” นี่เช่นกัน
ในคัมภีร์แสดงไว้ว่า สิ่งที่พระพุทธศาสนาสอนว่าเป็น “ตถะ” มี 4 อย่าง คืออริยสัจสี่ ตามคำที่ท่านว่า –
(1) ทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ เป็นของจริงแท้
(2) สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นของจริงแท้
(3) นิโรธ ความดับทุกข์ เป็นของจริงแท้
(4) มรรค ทางให้ถึงความดับทุกข์ เป็นของจริงแท้
(๒) “ตา”
เป็นปัจจัยตัวหนึ่งในภาวตัทธิต (ตัทธิต เป็นแขนงหนึ่งของบาลีไวยากรณ์ ว่าด้วยศัพท์ที่ใช้ปัจจัยต่อท้ายแล้วมีความหมายต่าง ๆ กันไป)
“ภาวตัทธิต” (พา-วะ-ตัด-ทิด) คือศัพท์ที่ลงปัจจัยจำพวกหนึ่งแล้วแปลว่า “ความเป็น–” เช่น “ธมฺมตา” (ทำ-มะ-ตา) = “ความเป็นแห่งธรรม” ที่เราเอามาใช้ว่า “ธรรมดา”
ปัจจัยในภาวตัทธิตตามตำราบาลีไวยากรณ์ที่นักเรียนบาลีของไทยเรียนกันอยู่มี 6 ตัว คือ ตต, ณฺย, ตตน, ตา, ณ, กณฺ (ตะตะ, ณ๎ยะ, ตะตะนะ, ตา, ณะ, กะณะ)
“ตา” เป็น 1 ในปัจจัยทั้ง 6
ตถ + ตา = ตถตา แปลตามศัพท์ว่า “ความเป็นแห่งสิ่งที่จริงแท้”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ตถตา” ว่า state of being such, such-likeness, similarity, correspondence
พจนานุกรม บาลี-ไทย-อังกฤษ ฉบับภูมิพโลภิกขุ (ซึ่งใช้พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ เป็นต้นฉบับ) แปลเป็นไทยว่า ความเป็นเช่นนั้น, การเป็นเช่นเดียวกันนั้น, ความเป็นจริง, ความเป็นไปตามส่วน
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกความหมายของ “ตถตา” ไว้ดังนี้ –
…………..
ตถตา : ความเป็นอย่างนั้น, ความเป็นเช่นนั้น, ภาวะที่สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นของมันอย่างนั้นเอง คือเป็นไปตามเหตุปัจจัย (มิใช่เป็นไปตามความอ้อนวอนปรารถนา หรือการดลบันดาลของใคร ๆ) เป็นชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกกฎ ปฏิจจสมุปบาท หรือ อิทัปปัจจยตา
…………..
ขยายความ :
“ตถตา” เป็นคำที่มีใช้ในคัมภีร์ ผู้รู้ทางธรรมนำมาใช้อธิบายสภาวะที่เป็นไปตามธรรมชาติธรรมดา เรียกกันติดปากว่า “ตถตา” แปลสั้น ๆ ว่า “เป็นเช่นนั้นเอง”
คำในชุดเดียวกับ “ตถตา” มีอีก 3 คำ คือ –
อวิตถตา (อะ-วิ-ตะ-ถะ-ตา) = ความไม่แปรผัน
อนัญญถตา (อะ-นัน-ยะ-ถะ-ตา) = ความไม่เป็นอย่างอื่น
อิทัปปัจจยตา (อิ-ทับ-ปัด-จะ-ยะ-ตา) = ความมีสิ่งนี้เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย
จะเอ่ยถึงคำไหนก็มีความหมายไปในทางเดียวกัน แต่เรามักได้ยินกันเฉพาะ “ตถตา” กับ “อิทัปปัจจยตา” อีกคำหนึ่ง ส่วน “อวิตถตา” และ “อนัญญถตา” ไม่มีใครเอ่ยถึง เอ่ยขึ้นมาก็ไม่มีใครรู้จักทั้ง ๆ ที่เป็นคำในชุดเดียวกัน
หลักคิดของคำในชุดนี้ก็คือ สภาวะใด ๆ สิ่งใด ๆ ที่เราเห็นว่ามันเป็นไปอย่างนั้น ๆ ให้เข้าใจเถิดว่า มันจะต้องเป็นเช่นนั้นเอง เพราะมีเหตุตามธรรมชาติธรรมดาที่ทำให้ต้องเป็นเช่นนั้น ท่านสอนให้ตั้งหลักคิดให้ถูกต้องเช่นนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องสงสัยวุ่นวายไปว่า ทำไมมันจะต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมมันจึงไม่เป็นไปอย่างที่เราต้องการให้มันเป็น หรือเที่ยวสันนิษฐานคาดเดาว่ามีใครหรืออะไรมาบันดาลให้มันเป็นเช่นนั้น นั่นคือสอนให้เข้าใจและรู้ทันตามความเป็นจริง
การยกเอาคำในชุดนี้มาอ้าง มักจะมีจุดผิดพลาดที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ผู้ยกเอาคำมาอ้างมักจะเข้าใจไปว่า เมื่ออ้างเช่นนี้แล้วก็เป็นอันจบเรื่อง เหมือนกับว่าได้ตอบปัญหาหรือแก้ปัญหาเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรกับเรื่องนั้นอีกต่อไป
การเข้าใจอย่างนี้นับว่าผิดพลาดอย่างยิ่ง
การเข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริง เป็นอย่างหนึ่ง
การปฏิบัติต่อเรื่องนั้นหรือการลงมือแก้ปัญหาตามเหตุที่ควรทำควรแก้ เป็นอีกอย่างหนึ่ง
เช่นความจริงที่ว่า คนเราเกิดมาแล้วต้องตาย
ความจริงที่ว่าคนเราเกิดมาแล้วต้องตายนี้ เป็นเรื่องที่ต้องรับรู้และยอมรับตามความเป็นจริง จะได้ไม่ดิ้นรนวุ่นวายทำสิ่งที่ฝืนความจริง
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เมื่อรู้ความจริงและยอมรับความจริงว่าคนเราเกิดมาแล้วต้องตาย-เช่นนี้แล้ว ก็นั่งนอนรอความตายอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร อย่างนี้คือปฏิบัติผิด
ในระหว่างที่ยังไม่ตายหรือยังไม่ถึงเวลาตาย อะไรที่ควรทำ-เช่นการหาเลี้ยงชีพ เมื่อเกิดเจ็บป่วยก็รักษาพยาบาล เป็นต้น-ก็ต้องทำไปด้วย
การเห็นปัญหาแล้วพูดบอกออกมาว่า “ตถตา” ไม่ใช่การแก้ปัญหา เป็นเพียงขั้นการยอมรับว่ามีปัญหาเท่านั้น
เมื่อพูดบอกออกมาว่า “ตถตา” แล้ว ต้องลงมือทำอะไรต่อไปอีกด้วย จึงจะนับว่าเป็นการลงมือแก้ปัญหา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: รับรู้ปัญหา เป็นเรื่องดี
: ลงมือแก้ปัญหา เป็นเรื่องดีมาก
: แก้ปัญหาจนสำเร็จ เป็นเรื่องดีที่สุด
#บาลีวันละคำ (4,604)
19-1-68
…………………………….
…………………………….