อายุสังขาโรสัชนะ (บาลีวันละคำ 4,628)

อายุสังขาโรสัชนะ
เรื่องที่คนลืมและคำที่คนไม่รู้
อ่านว่า อา-ยุ-สัง-ขา-โร-สัด-ชะ-นะ
แยกศัพท์เป็น อายุ + สังขาร + โอสัชนะ
(๑) “อายุ”
อ่านว่า อา-ยุ รากศัพท์มาจาก อิ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + ณุ ปัจจัย, แผลง อิ เป็น อา, แปลง ณ ที่ ณุ เป็น อย (ณุ : ณ + อุ : ณ > อย + อุ = อยุ)
: อิ > อา + ณุ > อยุ : อา + อยุ = อายุ
หรือ –
: อิ + ณุ = อิณุ > อาณุ > (ณุ > อยุ : อา + อยุ = ) อายุ
“อายุ” (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเหตุดำเนินไปแห่งสัตวโลก” หมายความว่า สัตวโลกดำเนินไปได้ด้วยสิ่งนั้น ถ้าสิ่งนั้นหมดลง การดำเนินไปของสัตวโลกก็หยุดลงเพียงนั้น
“อายุ” หมายถึง ชีวิต, ความสามารถดำรงชีวิต, การกำหนดอายุ, ความมีอายุยืน (life, vitality, duration of life, longevity)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อายุ : (คำนาม) เวลาที่ดำรงชีวิตอยู่, เวลาชั่วชีวิต, ช่วงเวลานับตั้งแต่เกิดหรือมีมาจนถึงเวลาที่กล่าวถึง, ระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น อายุใบอนุญาต ยานี้หมดอายุแล้ว, ระยะเวลาที่กำหนดรู้ความยั่งยืนของสิ่งนั้น ๆ เช่น อายุของหิน. (ป.; ส. อายุสฺ หรือ อายุษฺ เมื่อนำหน้าบางคำ, แต่เมื่อนำหน้าอักษรต่ำกับตัว ห เปลี่ยน สฺ เป็น รฺ เช่น อายุรเวท, แต่ถ้าใช้อย่างบาลีก็ไม่ต้องมี ส หรือ ร).”
(๒) “สังขาร”
เขียนแบบบาลีเป็น “สงฺขาร” อ่านว่า สัง-ขา-ระ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แปลงนิคหิตเป็น งฺ, แปลง กรฺ เป็น ขรฺ, ทีฆะ อะ ที่ ข-(ร) เป็น อา (ขร > ขาร)
: สํ > สงฺ + กรฺ = สงฺกรฺ + ณ = สงฺกรณ > สงฺกร > สงฺขร > สงฺขาร แปลตามศัพท์ว่า “ทำร่วมกัน” คือ “สภาวะอันปัจจัยปรุงแต่ง”
“สงฺขาร” มีความหมาย 2 อย่าง คือ :
(1) สิ่งที่ถูกปรุงผสมขึ้นให้เห็นว่าเป็นอะไรอย่างหนึ่ง แต่เมื่อแยกส่วนประกอบออกจากกันแล้ว “อะไรอย่างหนึ่ง” นั้นก็ไม่มี (compounded things; component things; conditioned things)
ความหมายนี้รวมไปถึง “ร่างกาย ตัวตน” (the physical body) ตามที่คนทั่วไปเข้าใจ
(2) อาการที่จิตคิดปรุงแต่งไปต่าง ๆ หรือเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งความคิด การพูด การกระทำ ให้เป็นไปต่าง ๆ (mental formations; volitional activities)
ความหมายนี้ก็คือ 1 ในองค์ประกอบ 5 อย่าง ที่รวมกันเข้าเป็นชีวิตคน ที่เรียกว่า ขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
บาลี “สงฺขาร” ในภาษาไทยใช้เป็น “สังขาร” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สังขาร : (คำนาม) ร่างกาย, ตัวตน, สิ่งที่ประกอบและปรุงแต่งขึ้นเป็นร่างกายและจิตใจรวมกัน, เช่น สังขารร่วงโรย สังขารไม่เที่ยง; ความคิด เป็นขันธ์ ๑ ในขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ. (ป.; ส. สํสฺการ). (คำกริยา) ตาย เช่น ถึงซึ่งสังขาร, ในบทกลอนใช้ว่า สังขาร์ ก็มี.”
(๓) “โอสัชนะ”
เขียนแบบบาลีเป็น “โอสฺสชฺชน” อ่านว่า โอด-สัด-ชะ-นะ รากศัพท์มาจาก อุ (คำอุปสรรค = ลง) + สชฺช (ธาตุ = สละ, ปล่อย) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (อุ + สฺ + สชฺช), แผลง อุ เป็น โอ
: อุ + สฺ + สชฺชฺ = อุสฺสชฺชฺ + ยุ > อน = อุสฺสชฺชน > โอสฺสชฺชน แปลตามศัพท์ว่า “การปล่อยลง” หมายถึง การสละ, การเปลื้อง, การปลด, การปล่อย (release, dismissal, sending off)
การประสมคำ :
๑ อายุ + สงฺขาร = อายุสงฺขาร (อา-ยุ-สัง-ขา-ระ) ใช้ในภาษาไทยเป็น “อายุสังขาร” (อา-ยุ-สัง-ขาน) แปลว่า “การปรุงอายุ” หมายถึง การทำให้ชีวิตดำรงอยู่ต่อไป
๒ อายุสงฺขาร + โอสฺสชฺชน = อายุสงฺขาโรสฺสชฺชน (อา-ยุ-สัง-ขา-โรด-สัด-ชะ-นะ) แปลว่า “การสละการปรุงอายุ” หมายถึง การเลิกละวิธีการที่จะทำให้ชีวิตดำรงอยู่ต่อไป
“อายุสงฺขาโรสฺสชฺชน” ในภาษาไทยตัดตัวสะกด (คือ ส และ ช) ออก ใช้เป็น “อายุสังขาโรสัชนะ” (อา-ยุ-สัง-ขา-โร-สัด-ชะ-นะ) แปลว่า “การปลงอายุสังขาร”
คำว่า “อายุสังขาโรสัชนะ” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ปลงอายุสังขาร” ไว้ บอกไว้ดังนี้ –
“ปลงอายุสังขาร : (คำกริยา) บอกกำหนดวันสิ้นสุดแห่งอายุ (ใช้แก่พระพุทธเจ้า).”
เราเข้าใจกันตามที่พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า “ปลงอายุสังขาร” คือ “บอกกำหนดวันสิ้นสุดแห่งอายุ” การบอกให้คนอื่นรู้ถึงวันสิ้นสุดแห่งอายุ เป็นเพียงบอกว่าจะปรินิพพานเมื่อไร เพียงคำบอกแค่นั้นยังไม่ใช่ความหมายที่สมบูรณ์ของคำว่า “อายุสังขาโรสัชนะ = ปลงอายุสังขาร”
ถ้าเช่นนั้น ความหมายจริง ๆ ของ “ปลงอายุสังขาร” คือทำอะไร หรือทำอย่างไร?
คัมภีรสุมังคลวิลาสินี (อรรถกถาของทีฆนิกาย พระไตรปิฎก) ภาค 2 หน้า 260 ตอนอธิบายมหาปรินิพพานสูตร ขยายความไว้ดังนี้ –
…………..
ตตฺถ น ภควา หตฺเถน เลฑฺฑุํ วิย อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชิ ฯ เตมาสมตฺตเมว ปน นิรนฺตรํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ ฯ
…………..
อธิบายความว่า การปลงอายุสังขารนั้น ไม่ใช่เหมือนหยิบก้อนดินทิ้ง คืออายุสังขารเหมือนก้อนดิน ปลงคือหยิบก้อนดินทิ้งไป ไม่ใช่อย่างนั้น หากแต่หมายความว่า ทรงตั้งพระทัยว่า จากวันนั้นจักเข้าสมาบัติติดต่อกันเพียง 3 เดือนเท่านั้น ต่อแต่นั้นจักไม่เข้า นั่นคือ การเข้าสมาบัติทำให้สามารถดำรงพระชนม์ต่อไปได้ เมื่อไม่เข้าสมาบัติก็คือพระชนม์สิ้นสุดลง คือปรินิพพาน
นี่คือความหมายของ “อายุสังขาโรสัชนะ = ปลงพระชนมายุสังขาร”
เมื่อวันเพ็ญเดือนมาฆะพรรษาสุดท้ายแห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ พระพุทธองค์ทรงกระทำสิ่งที่เรียกว่า “อายุสังขาโรสัชนะ = ปลงพระชนมายุสังขาร” ตามคำทูลขอของมารที่ขอให้ปรินิพพาน ตรัสว่า อีก 3 เดือนแต่นี้จะปรินิพพาน
พระไตรปิฎกบันทึกปรากฏการณ์ครั้งนั้นไว้ดังนี้ –
…………..
อถโข ภควา ปาวาลเจติเย สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชิ ฯ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงมีพระสติสัมปชัญญะปลงพระชนมายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์
โอสฺสฏฺเฐ จ ภควตา อายุสงฺขาเร มหา ภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก โลมหํโส เทวทุนฺทภิโย จ ผลึสุ ฯ
แลเมื่อพระผู้มีพระภาคทรงปลงพระชนมายุสังขารแล้ว ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ น่าสะพรึงกลัว ขนพองสยองเกล้า กลองทิพย์ก็บันลือลั่น
ที่มา: มหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 95
…………..
ทุกวันเพ็ญเดือนมาฆะ ชาวพุทธกระทำกิจที่เรียกว่า “มาฆบูชา” ปรารภการประชุมใหญ่แห่งพระสาวก 1,250 องค์ ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต ณ พระเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ เริ่มแต่ตะวันบ่ายก่อนค่ำของวันเพ็ญเดือนมาฆะในปีแรกแห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ หลังจากตรัสรู้แล้ว 9 เดือน และพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ คือหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหลักใหญ่เป็นประธาน
แต่เราปรารภเฉพาะเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตเท่านั้น ไม่มีการเอ่ยถึงเหตุการณ์อายุสังขาโรสัชนะคือการปลงพระชนมายุสังขารแต่ประการใด
เหตุการณ์ก็ไม่มีใครเอ่ยถึงอย่างเป็นเรื่องสำคัญ
ถ้อยคำ คือ “อายุสังขาโรสัชนะ” ก็ไม่มีใครรู้จัก
ควรจะนับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ได้อย่างหนึ่ง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: รู้วันตาย เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
: ทำประโยชน์แก่โลกจนถึงวันตาย เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์
#บาลีวันละคำ (4,628)
12-2-68
…………………………….
…………………………….