คนโง่เป็นเหยื่อของคนที่โง่กว่า

คนโง่เป็นเหยื่อของคนที่โง่กว่า
——————————-
เรามักพูดกันว่า “คนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด”
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป จะเห็นความจริงว่า ที่เราเรียกว่า “คนฉลาด” นั้นที่แท้ก็คือคนที่โง่กว่า
ขอยกเรื่องถวายสังฆทานเป็นกรณีศึกษา
คนทั่วไปมักไม่รู้ไม่เข้าใจว่า ถวายสังฆทานคือถวายอะไร ถวายอย่างไร
นี่คือคนโง่คนที่ ๑
อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีคนเอาของกินของใช้สำหรับพระใส่ลงไปในถังพลาสติก เอากระดาษใสหุ้มปากถัง แล้วบอกคนทั้งหลายว่า –
นี่คือ “ถังสังฆทาน”
ใครจะถวายสังฆทานต้องถวายถังชนิดนี้
ถ้าไม่มีถังชนิดนี้ ไม่เป็นสังฆทาน
นี่ก็คือคนโง่คนที่ ๒ ซึ่งโง่กว่าคนที่ ๑
คนที่ ๑ เพียงแค่ไม่รู้ว่าจะถวายสังฆทานต้องถวายอะไรอย่างไร
แต่คนที่ ๒ ไม่ใช่ไม่รู้เพียงแค่นั้น แต่ยังไม่รู้หนักเข้าไปอีกว่าถังชนิดนั้นไม่ใช่เครื่องตัดสินว่าเป็นสังฆทานหรือไม่เป็นสังฆทาน
คือโง่ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่งว่า เป็นสังฆทานหรือไม่เป็นสังฆทานดูกันที่ตรงไหน
แล้วก็ไม่ใช่ไม่รู้อยู่เงียบๆ เพียงลำพังคนเดียว
ยังมีหน้ามาป่าวประกาศแก่ชาวโลกอีกด้วยว่าตนไม่รู้
ไม่เรียกว่าโง่กว่า แล้วจะให้เรียกว่าอะไร
————
แต่ที่น่าสงสารยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดก็คือ คนทั้งหลายแทนที่จะรู้ทันว่าคนที่ ๒ นี่โง่กว่าคนที่ ๑
แต่กลับพากันเรียกคนชนิดนั้นว่าเป็นคนฉลาด เป็นพวกหัวใส
คือพากันเข้าใจไปว่าการที่เอาเปรียบหลอกลวงคนอื่นได้นั้นเป็นความฉลาด
พากันเข้าใจไปว่าการที่กระทำลงไปด้วยความคิดที่มืดบอดนั้นเป็นความสว่างสุกใส
————
คนโง่-ภาษาบาลีมีคำเรียกหลายคำ เช่น –
ชฬ (ชะ-ละ) = คนทึบ คิดไม่เป็นเห็นไม่ชัดว่าอะไรถูกอะไรผิด
มูฬฺห (มูน-หฺละ) = คนหลงผิด
มนฺท (มัน-ทะ) = คนอ่อนแอแพ้อำนาจฝ่ายต่ำในตัวเอง
อวิญฺญู (อะ-วิน-ยู) = คนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
พาล (พา-ละ) = คนเห็นผิดเป็นชอบ
ใครมีลักษณาการดังว่ามานี้
ต่อให้มีใบปริญญาติดเต็มฝาบ้าน
ทางพระศาสนาท่านก็เรียกว่า คนโง่
ส่วนคนที่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
อะไรควรอะไรไม่ควร
รู้ว่าไม่ดีไม่ถูกต้องแล้วเป็นไม่ทำเด็ดขาด
คนชนิดนี้ แม้จะอ่านหนังสือไม่ออกสักตัว
ท่านก็ไม่เรียกว่าคนโง่
ท่านเรียกว่าบัณฑิต
คือผู้ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา
เป็นคนฉลาดที่แท้จริง
————
ถ้าคนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาดที่แท้จริง
คนฉลาดก็จะนำคนโง่ออกจากที่มืด
พาดำเนินไปในแนวทางที่ถูกต้อง
โลกก็จะสว่างไสว
แต่เพราะคนโง่เป็นเหยื่อของคนที่โง่กว่า
โลกเราจึงมืดมนลงไปทุกวัน
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๘