ภัตสัมมท (บาลีวันละคำ 4,680)

ภัตสัมมท
เสนอไว้ให้ปรากฏในวงวรรณ
อ่านว่า พัด-ตะ-สำ-มด
ประกอบด้วยคำว่า ภัต + สัมมท
(๑) “ภัต”
บาลีเป็น “ภตฺต” อ่านว่า พัด-ตะ รากศัพท์มาจาก –
(1) ภชฺ (ธาตุ = เสพ, คบหา) + ต ปัจจัย, แปลง ชฺ เป็น ตฺ
: ภชฺ + ต = ภชต > ภตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ของเป็นเครื่องเสพ”
(2) ภุชฺ (ธาตุ = กลืนกิน, ใช้สอย) + ต ปัจจัย, แปลง อุ ที่ ภุ-(ชฺ) เป็น อ (ภุ > ภ), แปลง ชฺ เป็น ตฺ
: ภุชฺ + ต = ภุชต > ภชต > ภตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ของที่จะพึงกลืนกิน”
ข้อความบางแห่งในคัมภีร์ คำว่า “ภตฺต” หมายถึง “ข้าวสุก” โดยเฉพาะ แต่โดยทั่วไป “ภตฺต” หมายถึง อาหาร (ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นข้าว)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ภตฺต” (นปุงสกลิงค์) ว่า food, nourishment, meal, feeding (อาหาร, ของบำรุงเลี้ยงร่างกาย, อาหารที่เป็นมื้อ, การเลี้ยง)
บาลี “ภตฺต” สันสกฤตเป็น “ภกฺต”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
“ภกฺต : (คำวิเศษณ์) อันมีความภักดีต่อ; อันเอาใจใส่; อันหุงหรือต้มแล้ว; attached to; attentive to; cooked or boiled; – (คำนาม) อาหาร; ข้าวอันหุงหรือต้มแล้ว; food; cooked or boiled rice.”
บาลี “ภตฺต” ภาษาไทยใช้เป็น “ภัต” และ “ภัตร”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ภัต, ภัต-, ภัตร : (คำนาม) อาหาร, ข้าว. (ป. ภตฺต).”
(๒) “สัมมท”
เขียนแบบบาลีเป็น “สมฺมท” อ่านว่า สำ-มะ-ทะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + มทฺ (ธาตุ = ประมาท, มัวเมา) + อ (อะ) ปัจจัย, แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น มฺ (สํ > สมฺ)
: สํ + มทฺ + สํมทฺ = อ = สํมท > สมฺมท (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การเมาพร้อมกัน” หมายถึง ความโงก, ง่วง, เซี่องซึม (drowsiness)
“สมฺมท” ใช้ในภาษาไทยเป็น “สัมมท” อ่านว่า สำ-มด
คำว่า “สัมมท” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ภตฺต + สมฺมท = ภตฺตสมฺมท”(พัด-ตะ-สำ-มะ-ทะ) แปลว่า “ความง่วงนอนหลังจากอาหาร” (drowsiness after a meal)
“ภตฺตสมฺมท” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ภัตสัมมท” อ่านว่า พัด-ตะ-สำ-มด
คำว่า “ภัตสัมมท” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
ในจักกวัตตสูตร (ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 11 ข้อ 48) ท่านว่ายุคสมัยเมื่อมนุษย์กลับมีอายุขัยเพิ่มขึ้นจาก 10 ปี ไปจนถึงแปดหมื่นปี มนุษย์จะเป็นโรคกันเพียง 3 ชนิดเท่านั้น คือ –
อิจฺฉา แปลตามศัพท์ว่า “ความอยาก”
อนสนํ แปลตามศัพท์ว่า “การไม่กิน”
ชรา แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่เสื่อม” คือที่เรารู้กันว่า ความแก่
ดังจะให้เข้าใจว่า นอกจาก 3 โรคนี้แล้ว ยุคนั้นมนุษย์ไม่ป่วยด้วยโรคใด ๆ ทั้งสิ้น ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ โรคตับ โรคปอด โรคมะเร็ง หรือโรคอะไรก็ตาม ไม่มีทั้งสิ้น สุขภาพดีเป็นเลิศโดยทั่วทุกตัวคน ไม่ต้องมีหมอ ไม่ต้องมีโรงพยาบาล
เฉพาะ “อนสนํ” อรรถกถา (สุมังคลวิลาสินี ภาค 3 หน้า 63) ไขความไว้ดังนี้ –
…………..
อนสนนฺติ น อสนํ อวิปฺผาริกภาโว กายาลสิยํ, ภตฺตํ ภุตฺตานํ ภตฺตสมฺมทปจฺจยา นิปชฺชิตุกามตา. โภชเนน กายทุพฺพลภาโวติ อตฺโถ.
คำว่า อนสนํ แปลว่า การไม่กิน หมายถึงภาวะที่ไม่เบิกบาน คือไม่อยากทำอะไร กล่าวคือเมื่อบริโภคอาหารแล้วก็อยากจะนอนอันเนื่องมาจากเมาข้าว ไขความว่า ภาวะที่ร่างกายเพลียไปเพราะกินอิ่ม
…………..
คำว่า “อนสนํ” ตามศัพท์แปลว่า “การไม่กิน” หรือ “การไม่ได้กิน” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษแปลคำนี้ว่า fasting, famine, hunger (การอดอาหาร, ความอดอยาก, ความหิวโหย)
อรรถกถาท่านก็คงเกรงว่าจะเข้าใจไม่ถูก จึงขยายความไว้ว่า “ภตฺตํ ภุตฺตานํ ภตฺตสมฺมทปจฺจยา นิปชฺชิตุกามตา” ซึ่งแปลตามสำนวนผู้เขียนบาลีวันละคำว่า “เมื่อบริโภคอาหารแล้วก็อยากจะนอนอันเนื่องมาจากเมาข้าว”
เป็นอันชัดเจนว่าไม่ใช่โรคอดอยากหรือไม่มีจะกิน แต่หมายถึงอาการที่เกิดขึ้นหลังจากกินอิ่มแล้ว
“เมาข้าว” แปลจากคำว่า “ภตฺตสมฺมท” (ภัตตะสัมมะทะ)
ภตฺต = ข้าว
สมฺมท = เมา
ภตฺตสมฺมท > ภัตสัมมท = เมาข้าว
ตรงตัวที่สุดแล้ว และตรงกับที่พูดกันเล่น ๆ แต่เป็นความจริงว่า “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” ถ้าจะเรียกว่าโรค ก็คงพอเรียกได้ว่า “โรคเมาข้าว”
เวลาพูดถึงอาการ “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” ถ้าจะให้รู้สึกคึกคักอย่างนักภาษา ขอเสนอคำว่า “ภัตสัมมท” ไว้เป็นอลังการในภาษาไทยอีกคำหนึ่ง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เมาข้าวดีกว่าเมาเหล้า
: อะไร ๆ ก็ไม่เมาดีที่สุด
#บาลีวันละคำ (4,680)
5-4-68
…………………………….
…………………………….