ปาณภูต (บาลีวันละคำ 4,695)

ปาณภูต
หมายถึงอะไร
อ่านว่า ปา-นะ-พูด
ประกอบด้วยความว่า ปาณ + ภูต
(๑) “ปาณ”
บาลีอ่านว่า ปา-นะ รากศัพท์มาจาก –
(1) ปาณฺ (ธาตุ = เป็นอยู่, มีชีวิต) + อ ปัจจัย
: ปาณฺ + อ = ปาณ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องเป็นอยู่ได้แห่งเหล่าสัตว์”
(2) ป (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + อนฺ (ธาตุ = มีลมปราณ) + อ ปัจจัย, ทีฆะ อะ ที่ อ-(นฺ) เป็น อา (อนฺ > อาน), แปลง น เป็น ณ
: ป + อนฺ = ปนฺ + อ = ปน > ปาน > ปาณ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องให้มีลมปราณ”
“ปาณ” (ปุงลิงค์) หมายถึง คนหรือสัตว์ที่มีชีวิต, ชีวิต, สัตว์โลก (living being, life, creature) นักขบธรรมะให้จำกัดความว่า “สิ่งที่มีลมหายใจ”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปาณ-, ปาณะ : (คำนาม) ลมหายใจ; สัตว์มีชีวิต, ชีวิต. (ป.; ส. ปฺราณ).”
(๒) “ภูต”
บาลีอ่านว่า พู-ตะ รากศัพท์มาจาก ภู (ธาตุ = มี, เป็น) + ต ปัจจัย
: ภู + ต = ภูต แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เป็นอยู่ตามกรรม”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ประมวลความหมายคำว่า “ภูต” ในบาลีมาแสดงไว้ดังนี้ –
(1) ธรรมชาติที่มีชีวิตเป็นหลัก หรือเบญจขันธ์ (animate Nature as principle, or the vital aggregates [the 5 Khandhas])
(2) ผีสางหรืออมนุษย์ (ghosts, or amanussā)
(3) ธรรมชาติที่ไม่มีชีวิตเป็นหลัก หรือธาตุต่าง ๆ (inanimate Nature as principle, or the Elements)
(4) สิ่งที่มีอยู่ทั้งหมด, สิ่งที่มีตัวตนโดยทั่วไป (all that exists, physical existence in general)
(5) สิ่งที่เราเรียกคำที่ใช้เป็นส่วนขยาย ซึ่งถูกยกอุทาหรณ์ด้วยตัวอย่างที่ขาดหลักเกณฑ์ (what we should call a simple predicative use, is exemplified by a typical dogmatic example)
(6) สัตว์ทั้งหมดหรือสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิด, มวลสัตว์ (all beings or specified existence, animal kingdom)
(7) มวลผัก, รุกขชาติ, พฤกษชาติ (the vegetable kingdom, plants, vegetation)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ภูต, ภูต– : (คำนาม) ผี, มักใช้เข้าคู่กันเป็น ภูตผี. (คำวิเศษณ์) ซึ่งเกิดแล้ว, ซึ่งเป็นแล้ว. (ป., ส.).”
ในที่นี้ “ภูต” ความหมายเน้นหนักตามข้อ (6)
ปาณ + ภูต = ปาณภูต บาลีอ่านว่า ปา-นะ-พู-ตะ ภาษาไทยอ่านว่า ปา-นะ-พูด
ขยายความ :
คำว่า “ปาณภูต” ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เช่นคาถาต่อไปนี้ –
…………..
สุโข วิเวโก ตุฏฺฐสฺส
สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต
อพฺยาปชฺฌํ สุขํ โลเก
ปาณภูเตสุ สญฺญโม
สุขา วิราคตา โลเก
กามานํ สมติกฺกโม
อสฺมิมานสฺส โย วินโย
เอตํ เว ปรมํ สุขนฺติ ฯ
ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้สันโดษ
ผู้มีธรรมปรากฏแล้ว เห็นธรรมอยู่
ความไม่พยาบาท
คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก
ความปราศจากกำหนัด
คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ เป็นสุขในโลก
การกำจัดอัสมิมานะเสียได้นั้นแล เป็นสุขอย่างยิ่ง
ที่มา: มุจลินทกถา มหาขันธกะ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1
พระไตรปิฎกเล่ม 4 ข้อ 5
…………..
คัมภีร์อรรถกถา (สมันตปาสาทิกา ภาค 3 หน้า 11) ไขความไว้ว่า –
…………..
ปาณภูเตสุ สญฺญโมติ สตฺเตสุ จ สญฺญโม อวิหึสนภาโว สุโขติ อตฺโถ ฯ
คำว่า “ปาณภูเตสุ สญฺญโม” หมายความว่า ความสำรวม คือความไม่เบียดเบียนกันในสัตว์ทั้งหลาย เป็นความสุข
…………..
ได้ความตามอรรถกถานี้ว่า “ปาณภูเตสุ” ก็คือ “สตฺเตสุ”
“ปาณภูต” = สัตว์ทั้งหลาย
แต่ในที่แห่งหนึ่ง คือสามัญญผลสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค มีคำว่า “พพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา” อรรถกถา (สุมังคลวิลาสินี ภาค 1 หน้า 238) ไขความว่า
…………..
สพฺเพ ปาณาติ เอกินฺทฺริโย ปาโณ ทฺวินฺทฺริโย ปาโณติอาทิวเสน วทติ ฯ
คำว่า “สพฺเพ ปาณา” ท่านกล่าวโดยเล็งถึงสัตว์มีอินทรีย์เดียว สัตว์มีสองอินทรีย์ (คือสัตว์ที่เกิดเป็นตัวสมบูรณ์แล้ว) อย่างนี้เป็นต้น
สพฺเพ ภูตาติ อณฺฑโกสวตฺถิโกเสสุ ภูเต สนฺธาย วทติ ฯ
คำว่า “สพฺเพ ภูตา” ท่านกล่าวหมายถึงสัตว์ที่ยังอยู่ในไข่และอยู่ในมดลูก
…………..
ได้ความตามอรรถกถานี้ว่า ในกรณีที่พูดรวม ๆ กันไป “ปาณภูต” หมายถึง สัตว์ทั้งหลายทั่วไป
แต่ในกรณีที่จะแยกความหมายชัด ๆ –
“ปาณ” หมายถึง สัตว์ที่เกิดเป็นตัวสมบูรณ์แล้ว
“ภูต” หมายถึง สัตว์ที่ยังไม่ได้ฟักออกมาเป็นตัว
…………..
ถามว่า ความรู้อย่างนี้ รู้แล้วช่วยให้บรรลุนิพพานได้ไหม?
ตอบว่า “ไม่ขอตอบ”
…………..
ดูก่อนภราดา!
สพฺพํ สุตมธีเยถ
หีนมุกฺกฏฺฐมชฺฌิมํ
สพฺพสฺส อตฺถํ ชาเนยฺย
น จ สพฺพํ ปโยชเย
โหติ ตาทิสโก กาโล
ยตฺถ อตฺถาวหํ สุตํ.
ความรู้ทุกอย่างควรเรียนไว้
ไม่ว่าจะเรื่องชั่ว เรื่องดี เรื่องกลาง ๆ
ควรรู้จักประโยชน์ของความรู้ทุกอย่าง
แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกอย่าง
เวลาเช่นไหนจะใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ได้
เวลาเช่นนั้นมีแน่
ที่มา: มูสิกชาดก ปัญจกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม 27 ข้อ 817
…………..
#บาลีวันละคำ (4,695)
20-4-68
…………………………….
…………………………….