บาลีวันละคำ

อัสสุพินทุ (บาลีวันละคำ 4,704)

อัสสุพินทุ

หยาดน้ำตา

อ่านว่า อัด-สุ-พิน-ทุ

ประกอบด้วยคำว่า อัสสุ + พินทุ

(๑) “อัสสุ” 

เขียนแบบบาลีเป็น “อสฺสุ” อ่านว่า อัด-สุ รากศัพท์มาจาก อสฺ (ธาตุ = ตกลงมา) + สุ ปัจจัย 

: อสฺ + สุ = อสฺสุ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “น้ำที่ตกลงมาจากดวงตา” หมายถึง น้ำตา (a tear)

อสฺสุ” ในภาษาไทยใช้เป็น “อัสสุ” 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –

อัสสุ : (คำนาม) นํ้าตา. (ป.).”

ขยายความแทรก : 

คัมภีร์วิสุทธิมรรคบรรยายลักษณะของ “อสฺสุ” ไว้ดังนี้ –

…………..

อสฺสูติ  อกฺขีหิ  ปคฺฆรณกอาโปธาตุ. 

คำว่า “อสฺสุ” ได้แก่อาโปธาตุที่ไหลออกทางดวงตา 

ตํ  วณฺณโต  วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺณํ. 

อัสสุนั้นมีสีเหมือนสีน้ำมันงาใส 

สณฺฐานโต  โอกาสสณฺฐานํ. 

อัสสุมีรูปทรงสัณฐานตามรูปทรงอวัยวะที่มันอยู่ 

โอกาสโต  อกฺขิกูปเกสุ  ฐิตํ. 

ที่อยู่ของอัสสุคือในเบ้าตา 

น  เจตํ  ปิตฺตโกสเก  ปิตฺตมิว  อกฺขิกูปเกสุ  สทา  สนฺนิจิตํ  ติฏฺฐติ. 

แต่ว่ามันมิได้มีขังอยู่ในเบ้าตาตลอดเวลาเหมือนน้ำดีขังอยู่ในถุงน้ำดีกระนั้นดอก 

ยทา  ปน  สตฺตา  โสมนสฺสชาตา  มหาหสิตํ  หสนฺติ  โทมนสฺสชาตา  โรทนฺติ  ปริเทวนฺติ  ตถารูปํ  วิสมาหารํ  วา  อาหรนฺติ  ยทา  จ  เนสํ  อกฺขีนิ  ธูมรชปํสุกาทีหิ  อภิหญฺญนฺติ  

ต่อเมื่อใดเราเกิดความดีใจหัวเราะเสียใหญ่ หรือเกิดความเสียใจร้องไห้คร่ำครวญ หรือกินของเผ็ดร้อนเข้าไป (รวมความว่าเป็นอาการที่ไม่ได้มีสิ่งใดไปกระทบดวงตาโดยตรง) และเมื่อใดดวงตาถูกกระทบโดยตรง เช่นถูกควัน ละออง และผงเป็นต้นเข้าตา 

ตทา  เอเตหิ  โสมนสฺสโทมนสฺส  วิสภาคาหารอุตูหิ  สมุฏฺฐหิตฺวา  อกฺขิกูปเก  ปูเรตฺวา  ติฏฺฐติ  วา  ปคฺฆรติ  วา. 

เมื่อนั้นอัสสุจึงจะออกมาเอ่ออยู่เต็มเบ้าตาหรือไหลออกมา 

อสฺสุปริคฺคณฺหเกน  ปน  โยคินา  อกฺขิกูปเก  ปูเรตฺวา  ฐิตวเสเนว  ปริคฺคณฺหิตพฺพํ. 

พระโยคีผู้เจริญพระกรรมฐานหากจะกำหนดเอาอัสสุเป็นอารมณ์ พึงกำหนดอัสสุที่เอ่ออยู่เต็มเบ้าตานั่นแหละจึงจะดี 

(คัมภีร์วิสุทธิมรรค ภาค 2 อนุสสติกัมมัฏฐานนิทเทส หน้า 47)

…………..

ในบทสวด “พระอาการสามสิบสอง” กล่าวถึง “อัสสุ” ไว้ดังนี้ –

๏ อัสสุน้ำตา……ไหลหลั่งข้างหน้า….เมื่อแค้นขัดใจ 

ปางที่โทมนัส…..พรากพลัดกันไป…..ปางที่บรรลัย 

ร่ำไห้รักกัน๚ะ๛

…………..

(๒) “พินทุ” 

เขียนแบบบาลีเป็น “พินฺทุ” (มีจุดใต้ นฺ) อ่านว่า พิน-ทุ รากศัพท์มาจาก – 

(1) พิทิ (ธาตุ = ส่วน, อวัยวะ) + อุ ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมที่ต้นธาตุแล้วแปลงเป็น นฺ (พิทิ > พึทิ > พินฺทิ), ลบสระหน้า คือ อิ ที่ (พิ)-ทิ (พิทิ > พิท)

: พิทิ > พึทิ > พินฺทิ > พินฺท + อุ = พินฺทุ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาทำให้เป็นส่วน” 

(2) วิทฺ (ธาตุ = ได้) + อุ ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมที่ต้นธาตุแล้วแปลงเป็น นฺ (วิทฺ > วึทฺ > วินฺทฺ), แปลง เป็น

: วิทฺ > วึทฺ > วินฺทฺ + อุ = วินฺทุ > พินฺทุ แปลตามศัพท์ว่า “เสียงอันเขาได้” (คือได้เสียงที่ไพเราะน่าฟังมาตั้งแต่เกิด)

พินฺทุ” (นปุงสกลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ – 

(1) หยด, หยดน้ำ (a drop, a drop of water) 

(2) จุดที่แต้มลงไป (a spot) 

(3) (เป็นคุณศัพท์) คุณสมบัติอย่างหนึ่งของเสียงที่สมบูรณ์ เป็น 1ใน 8 อย่าง (one of the eight qualities of perfect sound) พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ อธิบายลักษณะของเสียงที่เป็น “พินฺทุ” ว่า full, close, compact (เต็ม, แน่น, กระชับ)

ในที่นี้ “พินฺทุ” ใช้ในความหมายตามข้อ (1)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –

(1) พินทุ ๑ : (คำนาม) หยาดเช่นหยาดนํ้า, จุด, จุดที่ใส่ไว้ใต้ตัวอักษร, จุดกลมแต้มที่หน้าผากระหว่างคิ้วของผู้หญิงตามลัทธิพราหมณ์, รูปวงเล็ก ๆ. (ป. พินฺทุ; ส. พินฺทุ, อินฺทุ).

(2) พินทุ ๒ : (คำนาม) ชื่อสังขยาจำนวนสูงเท่ากับโกฏิกำลัง ๗ หรือเลขหนึ่งมีศูนย์ตามหลัง ๔๙ ตัว. (ป. พินฺทุ; ส. พินฺทุ, วินฺทุ).

อสฺสุ + พินฺทุ = อสฺสุพินฺทุ (อัด-สุ-พิน-ทุ) เขียนแบบไทยเป็น “อัสสุพินทุ” แปลว่า “หยาดน้ำตา” (a tear drop)

ขยายความ :

ผู้เขียนบาลีวันละคำเพิ่งกลับจากไปไหว้พระที่ศรีลังกา นึกถึงคำที่เรียกประเทศศรีลังกาว่า “หยาดน้ำตาของอินเดีย” คำนี้ถ้าแปลเป็นบาลีเต็ม ๆ ก็ควรจะตรงกับศัพท์ว่า “ชมฺพุทีปสฺสุพินฺทุ” (ชมฺพุทีป + อสฺสุ + พินฺทุ) อ่านว่า ชำ-พุ-ที-ปัด-สุ-พิน-ทุ แปลว่า “หยาดน้ำตาแห่งชมพูทวีป

ถ้าดูแผนที่โลก ขยายไปที่ประเทศอินเดียและเห็นประเทศศรีลังกาด้วย จะเห็นภาพที่ชัดเจนว่า ประเทศศรีลังกาคล้ายหยดน้ำที่หยดลงมาจากประเทศอินเดียจริง ๆ จะมองให้เป็น “อัสสุพินทุ = หยาดน้ำตา” หรือหยดน้ำธรรมดา ๆ ก็แล้วแต่จะจินตนาการกันไป

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ที่คำว่า “ศรีลังกา” (อ่านเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 20:30 น.) ข้อความตอนหนึ่งบอกไว้ดังนี้ –

…………..

ประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้ของศรีลังกามีอายุย้อนไปถึง 3,000 ปี โดยปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุอย่างน้อย 125,000 ปี งานเขียนทางศาสนาพุทธที่เก่าแก่ที่สุดของศรีลังกาซึ่งมีชื่อเรียกโดยรวมว่าพระไตรปิฎกภาษาบาลีมีอายุย้อนไปถึงการสังคายนาครั้งที่ 4 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 29 ปีก่อนคริสต์ศักราช ศรีลังกายังได้รับสมญานามว่า “หยดน้ำตาของอินเดีย” และ “ยุ้งฉางตะวันออก” โดยทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และท่าเรือน้ำลึกของศรีลังกาทำให้เกาะนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างมาก ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มของเส้นทางสายไหมโบราณมาจนถึงเส้นทางสายไหมทางทะเลในปัจจุบัน …

…………..

ดูก่อนภราดา!

ทุกครั้งที่เราร้องไห้และหัวเราะ

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้

ถ้าถ่ายเป็นภาพยนตร์ไว้

เอามาตัดต่อสลับกันเข้าแล้วฉายดู

เราจะเห็นคนบ้าคนหนึ่ง

: นั่นคือเรา

: และนั่นคือความจริงของการเกิดมา

#บาลีวันละคำ (4,704)

29-4-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *