อนันตริยกรรม (บาลีวันละคำ 1,057)
อนันตริยกรรม
อ่านว่า อะ-นัน-ตะ-ริ-ยะ-กำ
ประกอบด้วย อนันตริย + กรรม
(๑) “อนันตริย”
เขียนแบบบาลีเป็น “อนนฺตริย” (อะ-นัน-ตะ-ริ-ยะ) ประกอบด้วย น + อนฺตร + อิย
“อนฺตร” รากศัพท์มาจาก อติ (ธาตุ = ผูก) + อร ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมต้นธาตุแล้วแปลงเป็น น, ลบสระที่สุดธาตุ
: อติ > อํติ > อนฺติ > อนฺต + อร = อนฺตร แปลตามศัพท์ว่า “จุดที่ผูกสองข้างไว้” หมายถึง ภายใน, ระหว่าง (inside, in between)
กระบวนการทางไวยากรณ์ :
น (ไม่, ไม่มี, ไม่ใช่) แปลงเป็น “อน” (อะ-นะ) ในกรณีที่คำหลังขึ้นต้นด้วยสระ (ในที่นี้คำหลังคือ “อนฺตร” อนฺ– เป็นสระ) + อนฺตร + อิย ปัจจัย
: น > อน + อนฺตร = อนนฺตร + อิย = อนนฺตริย แปลตามศัพท์ว่า “ไม่มีระหว่าง” หมายถึง ไม่มีอะไรคั่นอยู่หรือเหลืออะไรอยู่ในระหว่างกลาง, ติดตามไปอย่างใกล้ชิด, ไม่หยุดหย่อน, ต่อไป, ติดต่อกัน (having or leaving nothing in between, immediately following, incessant, next, adjoining)
(๒) “กรรม”
บาลีเป็น “กมฺม” (กำ-มะ) สันสกฤตเป็น “กรฺม” (กระ-มะ, ก ควบ ร กลืนเสียง ระ ลงคอ) ไทยเขียนอิงสันสกฤตเป็น “กรรม”
“กรรม” รากศัพท์คือ กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + รมฺม (รำ-มะ, ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุและ ร ที่ต้นปัจจัย –
: กร > ก + รมฺม > มฺม : ก + มฺม = กมฺม
“กมฺม” แปลว่า การกระทำ, สิ่งที่ทำ, การงาน (the doing, deed, work) นิยมพูดทับศัพท์ว่า “กรรม”
อนันตริย + กรรม = อนันตริยกรรม แปลว่า “กรรมที่ให้ผลไม่มีระหว่าง”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [245] แสดงเรื่อง “อนันตริยกรรม” ไว้ดังนี้ :
อนันตริยกรรม 5 (กรรมหนักที่สุดฝ่ายบาปอกุศล ซึ่งให้ผลรุนแรงต่อเนื่องไป โดยไม่มีกรรมอื่นจะมากั้นหรือคั่นได้ — Anantariya-kamma: immediacy-deeds; heinous crimes which bring immediate, uninterrupted and uninterruptible results) :
1. มาตุฆาต (ฆ่ามารดา — Mātughāta: matricide)
2. ปิตุฆาต (ฆ่าบิดา — Pitughāta: patricide)
3. อรหันตฆาต (ฆ่าพระอรหันต์ — Arahantaghāta: killing an Arahant)
4. โลหิตุปบาท (ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อขึ้นไป — Lohituppāda: causing a Buddha to suffer a contusion or to bleed)
5. สังฆเภท (ยังสงฆ์ให้แตกกัน, ทำลายสงฆ์ — Saŋghabheda: causing schism in the Order)
……..
ข้อควรเข้าใจ :
ผลแห่งอนันตริยกรรม กล่าวตามสำนวนภาษาวัดว่า “ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน” หมายความว่า ผู้ทำอนันตริยกรรมไม่ว่าจะข้อใดข้อหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านั้นหรือต่อมาภายหลังจะได้บำเพ็ญบุญมากมายขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถไปเกิดในภพภูมิเทวดาได้เลย และแม้จะได้ฟังธรรมปฏิบัติจิตภาวนาขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถจะบรรลุมรรคผลใดๆ ได้เลย เมื่อสิ้นบุญในภพภูมิมนุษย์แล้วต้องเกิดในนรกสถานเดียว
สัจธรรม :
อนันตริยกรรมผูกพันกับนรก-สวรรค์
นรก-สวรรค์ผูกพันกับความเชื่อของมนุษย์
๑ นรกสวรรค์ไม่ใช่ความจริงตามความเชื่อ
แต่เป็นความจริงตามความจริง
๒ เชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นสิทธิ
แต่การทำความเห็นให้ตรงกับความจริง เป็นหน้าที่
๓ ถ้าใช้สิทธิ แต่ไม่ทำหน้าที่ ก็ไม่มีทางที่จะเข้าถึงความจริง
10-4-58